รองโฆษก ตร. ยันคนมาจาก ตปท. ต้องปฏิบัติตามมาตรการทุกคน

รองโฆษก ตร. ยันคนมาจาก ตปท. ต้องปฏิบัติตามมาตรการทุกคน

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันทุกคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศและเข้ามาพักในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐกำหนด ด้านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้สั่งเข้มงวดตรวจสอบบุคคลที่กลับมาจากต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 17 ก.ค. 63 ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พันตำรวจเอก กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยกรณีคอนโด ในซอยสุขุมวิท 20 เขตคลองเตย ปฏิเสธไม่ให้ เจ้าหน้าที่สถานฑูตเข้ากักตัว ว่า ช่วงค่ำวานนี้ได้รับรายงานจาก สน.ทองหล่อ ว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ทูตเอสโตเนีย เพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างประเทศ จะขอเข้ามากักตัวที่คอนโด แต่ทางนิติบุคคลของคอนโดไม่ยอมให้เข้าเนื่องจากเกรงความปลอดภัยของลูกบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ไปที่เกิดเหตุและมีการประสานทาง เจ้าหน้าที่สาธารณสุข , เจ้าหน้าที่กระทรวงต่างประเทศ ,ผู้อำนวยการเขตคลองเตย และหน่วยที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมเจราจาและได้ข้อตกลงว่าคณะทูตประเทศเอสโตเนียจะพาหญิงรายดังกล่าวไป กักกันโรคตามมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 ของรัฐบาลไทย

ที่ผ่านมา สำนักงานตำรวจเเห่งชาติ โดย พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้สนองนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม, พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งได้กำชับและเล็งเห็นถึงความสำคัญในการป้องกัน และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (COVID-19) จากบุคคลต่างด้าว ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด ที่จะเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร จะต้องผ่านการตรวจคัดกรองตามมาตราการที่รัฐกำหนด และจะต้องอยู่ในสถานที่ที่รัฐบาลได้จัดไว้ให้เป็นเวลา 14 วัน

ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้ พลตำรวจเอก สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ซึ่งกำกับดูแลงานด้านความมั่นคงและกิจการพิเศษ กำชับ กวดขัน หน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้องอาทิเช่น สตม., บช.ตชด., น., ภ.1-9 ในการประสานกับหน่วยร่วมปฏิบัติด้านความมั่นคง เพิ่มความเข้มในการตรวจคัดกรอง บุคคล หรือยานพาหนะ โดยเฉพาะบุคคลที่เดินทางกลับมาจากต่างประเทศ หรือเดินทางจากประเทศอื่นและเข้าพำนักภายในประเทศไทย จะต้องมีการตรวจคัดกรองและอยู่ในสถานที่รัฐบาลจัดหาให้ทุกคน รวมถึงบุคคลที่เข้าทางช่องทาง จุดผ่านแดนถาวร จุดผ่อนปรน และตามแนวช่องทางธรรมชาติ สกัดกั้นบุคคล หรือขบวนการขนแรงงานต่างด้าว ที่จะลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย อย่างเข้มข้น และต่อเนื่อง และกำชับให้สถานีตำรวจในพื้นที่ชั้นใน ร่วมกับฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ตรวจสอบคัดกรองแรงงานต่างด้าวในสถานประกอบการ ห้างร้านต่าง ๆ ควบคู่ไปกับการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง และห้ามเจ้าหน้าที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลประโยชน์โดยเด็ดขาด

รองโฆษก ตร.กล่าวต่ออีกว่า กรณีดังกล่าวเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนการกักตัวที่รัฐบาลกำหนด ไม่ว่าจะเป็นบุคคลใดก็ตามที่เดินทางมาจากต่างประเทศเข้ามาพำนักที่ประเทศไทย จะต้องปฏิบัติตามมาตราการป้องกันโรคโควิด-19 ที่รัฐบาลกำหนดไว้