ยารักษา Covid-19 คืบหน้า

ยารักษา Covid-19 คืบหน้า

ระวังแรงขายสลับเข้ามาในช่วงดีดตัวจากความกังวลไวรัส Covid-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 ในประเทศไทย

ตลาดหุ้นวานนี้

Set Index ลดลงเพียง 1.3 จุด (-0.10%) ปิดที่ระดับ1,341 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.39 ล้านบาท โดยดัชนีผันผวนในแดนลบตลอดทั้งวันจากความกังวลไวรัส Covid-19 กลับมาระบาดรอบใหม่ อย่างไรก็ตามท้ายตลาดดัชนีเกิด Technical rebound จากแรงซื้อคืนในกลุ่ม Big Cap นำโดยกลุ่มธนาคาร (KBANK SCB) และ กลุ่มธุรกิจน้ำมัน ปิโตรฯ และ โรงกลั่น (PTT IVL และ TOP) ส่งผลให้ดัชนีปิดลบเพียงเล็กน้อย ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 229  ล้านบาท และ Net Long TFEX SET50 5,645  สัญญา แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 4,089 ล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้     

เรามีมุมมองเป็นบวกคาด SET รีบาวด์ขึ้นทดสอบ 1,350 - 1,355 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตอบรับความคืบหน้ายารักษา Covid-19 หลังบ. Moderna ของสหรัฐเผยว่าวัคซีน mRNA-1273 สำหรับต้านไวรัส Covid-19 นั้นสามารถสร้างการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันของผู้ป่วยได้อย่างแข็งแกร่ง ประกอบกับภาวะตลาดได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นยืนเหนือ 40 US/Barrel ได้อีกครั้งซึ่งเป็นบวกต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม ควรระวังแรงขายสลับเข้ามาในช่วงดีดตัวจากความกังวลไวรัส Covid-19 จะกลับมาระบาดรอบ 2 ในประเทศไทยหลังพบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นและอาจขยายวงในช่วง 14-21 วันหลังจากนี้ รวมถึงแรงขายในกลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะหดตัวลงแรง

** วันนี้ 15 ก.ค.ติดตามการประชุมโอเปกพลัสพิจารณาข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันที่จะครบกำหนดสิ้นเดือนก.ค.

กลยุทธ์การลงทุน: Selective Buy

  • กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC, IRPC, SPRC, IVL) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้น
  • กลุ่มอาหาร (TU, CPF, GFPT, TFG, ASIAN) และกลุ่มอิเล็คฯ (KCE, DELTA, HANA, SVI) ได้อานิสงส์เงินบาทอ่อนค่าลง
  • กลุ่มที่คาดว่างบ 2Q20 จะเติบโตขึ้น ( TOP, PTTGC, SPRC, SCC, BGRIM, CKP, CPF, TU, TASCO, STA, STGT, SPALI, PRM, PTL, AJ, STARK, CBG)

หุ้นแนะนำวันนี้

  • PTTGC (ปิด 46.25 ซื้อ/เป้า 50) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดมาแล้ว, คลาย lockdown ช่วยเพิ่มดีมานด์ทั้งฝั่งปิโตรฯและโรงกลั่น และยังได้เปรียบต้นทุนเพราะ PTTGC ใช้ก๊าซเป็นวัตถุดิบราคาจะปรับขึ้นช้ากว่าคู่แข่งที่ใช้นาฟทาซึ่งราคาจะปรับขึ้นตามราคาน้ำมันทันที
  • CPF (ปิด 33.5 ซื้อ/เป้า 36.25) ได้ Sentiment บวกจากค่าเงินบาทอ่อนค่า ด้านผลประกอบการคาดมีกำไรปกติของ 2Q20 ที่ 5.6 พันล้านบาท (+38% yoy, -10% qoq) โดยมีปัจจัยหนุนจากราคาหมูในเวียดนามที่สูงขึ้น 110% yoy แต่ลดลง 2% qoq และไตรมาสนี้มี Stock gain (Biological gain) ใน 2Q20F จะอยู่ที่ราว 0.9 พันล้านบาท ช่วยหนุนกำไรสุทธิสู่ระดับ 6.6  พันล้านบาท (+58% yoy, +6% qoq)

บทวิเคราะห์วันนี้

TRUE (ปิด 3.48 ถือ/เป้า 3.9), Property sector (Top pick: LH)

ประเด็นสำคัญวันนี้

  • (+) เมื่อคืนดาวโจนส์บวกแรง 557 จุด คาดหวังเฟดเดินหน้ากระตุ้นเศรษฐกิจต่อ และเช้านี้ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกอีก 200 จุด รับข่าวการพัฒนาวัคซีน : ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 557 จุด (+2.13%) ปิดที่ระดับ 26,643 จุด นักลงทุนกลับเข้าซื้อหุ้นในกลุ่มพลังงาน คาดหวังราคาน้ำมันดิบยังฟื้นตัวต่อ และยังมีข่าวเชิงบวกจากการแสดงความเห็นเจ้าหน้าที่เฟดออกมาหนุนให้เฟดรุกซื้อสินทรัพย์จำนวนมากอย่างต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งถูกกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ขณะที่เช้าวันนีดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์เพิ่มขึ้นอีก 260 จุด (+1%) รับข่าว Moderna บริษัทเทคโนโลยีชีวภาพของสหรัฐเปิดเผยว่า วัคซีน mRNA-1273 สำหรับต้านไวรัส Covid-19 ซึ่งทางบริษัทผลิตขึ้นนั้น สามารถสร้างการตอบสนองด้านภูมิคุ้มกันได้อย่างแข็งแกร่ง
  • (+/-) น้ำมันยังพักตัวรอดูผลประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันนี้ (ตลาดคาดอาจผ่อนคลายข้อตกลงในการลดกำลังการผลิต) ราคาน้ำมันดิบยังผันผวนในกรอบแคบโดยวานนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นเพียง 19 เซนต์ (+0.5%) ปิดที่ 40.29 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตลาดได้แรงหนุนจาก 1) OPEC ออกรายงานประจำเดือนระบุว่าความต้องการน้ำมันดิบของโลกในปีนี้ลดลงน้อยกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ในเดือนก่อนหน้า, 2)ผลตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการปฏิบัติตามข้อตกลงปรับลดกำลังการผลิต (JMMC) ระบุว่ากลุ่มประเทศสมาชิกปฏิบัติตามข้อตกลงได้มากถึง 107% อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในกรอบจำกัดเท่านั้นเนื่องจากนักลงทุนยังรอดูการประชุมของ JMMC ในวันนี้ ตลาดคาดที่ประชุมจะผ่อนคลายมาตรการลดกำลังการผลิต (ลดกำลังการผลิตน้อยลงจาก 9.7 ล้านบาร์เรลต่อวันเป็น 7.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ไปจนถึงสิ้นปี ดังนั้นหากวันนี้ JMMC มีมติให้ขยายเวลาการลดกำลังการผลิตออกไปจะเป็นบวกต่อทิศทางราคาน้ำมันดิบทันที
  • (+/-) วันนี้ติดตาม BoJ meeting คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ -0.1% ตามเดิม และ DTAC ประกาศงบคาดกำไรสุทธิหดตัวทั้ง qoq และ yoy : วันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของญี่ปุ่น (BoJ) จะมีการประชุมหารือเพื่อปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยนโยบายเราคงมุมมองเดิมโดยคาดว่า BoJ จะยังตึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% ตามเดิม แต่แนะนำให้ติดตามการประเมินทิศทางเศรษฐกิจว่าจะมีการปรับลดคาดการณ์ GDP ในปีนี้ลงอีกหรือไม่ ส่วนในประเทศวันนี้ภาครัฐเปิดให้
  • ประชาชนทั่วไปลงทะเบียนเราเที่ยวด้วยกัน เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยววันนี้เป็นวันแรก ขณะที่ช่วงเย็น (หลังปิดตลาด) DTAC จะประกาศงบ 2Q20 คาดกำไรสุทธิหดตัว 30%qoq และ 38%yoy (งบของ DTAC จะมีผลต่อการลงทุนในกลุ่ม ICT ในวันพรุ่งนี้ด้วย)