คำต่อคำ! นายกฯประยุทธ์ เปิดใจ กรณี VIP ติด 'โควิด-19'

คำต่อคำ! นายกฯประยุทธ์ เปิดใจ กรณี VIP ติด 'โควิด-19'

ถอดคำพูด คำต่อคำ! นายกฯ ประยุทธ์ จันทร์โอชา แถลงหลังเกิดกรณี VIP "คณะทูตซูดาน" และ "ทหารอียิปต์" ป่วยโควิด-19 และทำไทยเสี่ยงระบาดรอบสอง

วันนี้ (14 ก.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยประเด็นสำคัญที่ทุกฝ่ายรอฟัง คือ กรณีเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ซึ่งเป็นหนึ่งในครอบครัวของคณะทูตซูดาน ติดเชื้อโควิด-19 แต่ครอบครัวไม่ได้กักตัวตามข้อกำหนดของ ศบค. ประกอบกับเคส "ทหารอียิปต์" ซึ่งตรวจพบป่วยโควิด-19 เช่นกัน และสอบพบประวัติ ได้ออกนอกโรงแรม ไปเดิน 2 ห้างสรรพสินค้าในจ.ระยอง

"กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้ถอดเทป คำต่อคำ ในประเด็นสถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ดังนี้..

"สถานการณ์ที่ระยอง วันนี้ มันไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย เพราะเป็นเรื่องของการไม่เคารพกติกา ไม่มีวินัย ไม่คิดถึงส่วนรวม ทำให้เกิดปัญหา ก็รับผิดชอบกันไปกันมา โทษกันไปกันมา

159471755019

ผมในฐานะ ผอ.ศูนย์โควิด ผมก็ขอรับผิดชอบในส่วนตรงนี้ด้วย แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ การหาวิธีการในการจะปิดจุดต่างๆ ความหละหลวมต่างๆ เหล่านี้

วันนี้ได้ส่งทีมลงพื้นที่ติดตามเก็บข้อมูลเชิงลึกแล้ว และตรวจหาพื้นที่สัมผัส และผู้ที่อยู่ในช่วงเวลาดังกล่าว ในการลงทะเบียนเข้าออกผ่านระบบไทยชนะด้วย นอกจากนี้ยังมีการตรวจเชื้อเพิ่มเติมให้บุคคลที่สัมผัสและกังวลตามช่วงเวลาดังกล่าว เพื่อจะทำให้ทุกคนสบายใจให้ได้มากที่สุด เร็วที่สุด

ได้มีการให้ ศบค. ไปทบทวนเรื่องเหล่านี้ มาตรการผ่อนคลายต่างๆ ทั้งในส่วนของบรรดาสถานทูตต่างๆ เอกอัครราชทูตต่างๆ จะต้องทำตามระบบระเบียบทุกประการ ต้องไปทบทวนตรงนี้ใหม่

ในส่วนของการอนุญาตบินเข้ามาจากต่างประเทศ ไม่ว่าจะเครื่องบินทหาร หรือเครื่องบินใดก็ตาม ก็ต้องมีมาตรการตามที่เรากำหนดไปแล้ว อันนี้เป็นเรื่องของการที่เรียกว่า ไม่รับผิดชอบ ในส่วนที่รับปากกันไปแล้ว ผ่านการตรวจสอบไปแล้วด้วย แต่ออกไปนอกพื้นที่ อันนี้ถือว่าเป็นการฝ่าฝืน ผมได้ให้กระทรวงต่างประเทศไปหารือกับสถานทูต เอกอัครราชทูตประจำประเทศไทยไปแล้ว ว่าอย่าให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ตอนนี้ได้มีการระงับเที่ยวบินทุกเที่ยวบินที่เข้ามาในลักษณะนี้ทั้งหมด ไม่มีการอนุมัติให้เข้ามาอีกจนกว่าจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้

ปัญหาทุกปัญหา ก็มีทั้งที่สำเร็จ และที่ต้องแก้ไข ต้องเพิ่มเติมมาตรการ เพราะรัฐบาลและศูนย์โควิด ไม่ได้หยุดยั้งในเรื่องเหล่านี้เลย

ขอให้มีความเชื่อมั่นว่า มาตรการทางด้านสาธารณสุขเรา ถ้าจะมองว่าเลวร้ายหรือไม่ดี ก็ขอให้เชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขของเรา สามารถรองรับได้ แต่ว่ามันก็ไม่ควรจะเกิดขึ้น

..ฉะนั้นมันเป็นสิ่งที่ผมเสียใจ และขอโทษพี่น้องประชาชนคนไทยด้วย

ก็จะต้องมาดูแลให้มากที่สุดในหลายๆ ประเด็น เพราะหลายปัญหา มันเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด บางปัญหาไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หรือมันอาจจะเกิดข้อบกพร่องในบางประการ ผมได้ย้ำในที่ประชุม ครม. ไปแล้วด้วย ให้ศบค. แก้ไขในเรื่องเหล่านี้ ทบทวนทุกอย่าง โดยเฉพาะมาตรการในการผ่อนคลายต่างๆ เพราะมันมีผลกระทบด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเชื่อมั่น ด้านความปลอดภัยของประชาชนโดยรวม ซึ่งไม่ควรจะเกิดขึ้น

ก็รับว่า จะดำเนินการให้ดีที่สุด ขอเวลาให้หน่วยงานราชการ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ ศบค. ให้ได้แก้ปัญหา

สิ่งที่ผมเป็นกังวลอีกเรื่องหนึ่ง คือ เรื่องที่เรามีการ์ดตกหลายอย่าง หลายส่วนด้วยกัน ทั้งในส่วนของประชาชน ในส่วนของผู้ประกอบการต่างๆ ผมได้เน้นย้ำให้ไปตรวจตราให้รัดกุมมากกว่าเดิม และปิดทันที ยิ่งที่ท่องเที่ยวเวลากลางคืน ผับ บาร์ ที่แน่นขนัด ก็ได้รับการรายงานมา ถ้าไม่แก้ไข ก็ต้องปิดทันที

นี่คือสิ่งที่ท่านต้องร่วมมือกับเรา เมื่อกำหนดมาตรการไปแล้ว แต่ท่านไม่ร่วมมือปฏิบัติ ก็ต้องยกเลิกไปจนกว่าท่านจะแก้ไขให้ได้

ก็ขอย้ำ สวมหน้ากาก ล้างมือ และใช้แอพพลิเคชั่นในการเช็คอินต่างๆ Social Distancing ยังคงต้องมีอยู่

วันนี้ก็เห็นแล้วว่า ที่เราทำมาขนาดนั้น ลำบากขนานนั้นมาโดยตลอด ผลมันออกมาวันนี้ เราอยู่ในอันดับที่รักษาความปลอดภัย รักษาด้านสาธารณสุข ในเรื่องโควิดได้ อาจจะเป็นอันดับแรกๆ ของโลกด้วยซ้ำไป

เรื่องวัคซีนก็มีความก้าวหน้าตามลำดับ เตรียมการที่ก้าวไปสู่การทดลองกับคนด้วย วันนี้ก็ต้องไปหาอาสาสมัครต่างๆ จำนวนหลายพันคน เพื่อจะทดสอบวัคซีนตัวนี้ ขณะเดียวกันก็ต้องส่งไปตรวจสอบกับต่างประเทศด้วย ก่อนจะมีการทดลองเหล่านี้

ถ้าเราสามารถจะทำได้เป็นประเทศต้นๆ ของโลก ก็จะเป็นชื่อเสียงของประเทศไทยเป็นอย้่างยิ่ง ข้อสำคัญที่สุด คือ ประเทศไทยจะปลอดภัยจากโรคนี้

ขอขอบคุณคณะแพทย์ต่างๆ โดยเฉพาะโรงพยาบาลจุฬาฯ และที่เกี่ยวข้องกับหลายโรงพยาบาลด้วยกัน ที่ออกมาช่วยกันทำตรงนี้

  

ส่วนเรื่อง จะกลับมาล็อกดาวน์ ห้ามต่างประเทศเข้ามาหรือไม่ ก็อยากจะกราบเรียนว่า ต้องทบทวนก่อน ถ้าจะบอกว่า ปิดเลยทีเดียว บางทีก็ต้องหามาตรการที่เหมาะสมกับสถานการณ์ ตอนนี้ก็ยังมีการติดตามอยู่ ว่า ไปที่ไหน ยังไง มีใครติดเชื้อหรือยัง ก็ยังติดตามอยู่ ขอให้ช่วยกันดูแลด้วย

มันขึ้นอยู่กับคนหลายคน ถ้าทุกคนไม่ทำตามระเบียบ ระบบ มันก็มีปัญหาอีก

เพราะฉะนั้น วันนี้ เครื่องบินที่เข้ามา เป็นเครื่องบินที่ทรานซิท เข้ามาเพื่อเปลี่ยนเที่ยวบินเท่านั้น เป็นเครื่องบินทางทหาร ซึ่งปกติมาแล้วจะต้องไปเลย แต่ปรากฏว่า มีการไปหยุดค้างคืนขึ้นมา และมีบริษัทพาไปเข้าโรงแรมต่างๆ เหล่านี้ แล้วตามกติกา จะต้องอยู่แต่ในโรงแรม แต่ปรากฏว่าไม่ควบคุม ควบคุมกันไม่ได้ดีนัก ผมได้สั่งการให้เข้มงวดทุกพื้นที่ ไม่อยากให้เป็นประเด็นที่ทำให้ความก้าวหน้าในเรื่องมาตรการต่างๆ เหล่านี้ มีปัญหาอีก

ในเรื่องของการรับนักท่องเที่ยว ก็ได้บอกกับกระทรวงการท่องเที่ยวไปแล้ว ให้เตรียมการไว้ก่อน ในการที่จะอนุมัติหรือไม่อนุมัติต่างๆ ต้องดูสถานการณ์ทั้งภายใน ภายนอกประเทศ เราไม่ผลีผลาม ไม่งั้นเราจะเกิดปัญหาอีก เพราะคนจำนวนมากเข้ามา เราก็จะเกิดปัญหาอีก.. เราก็จะเจอคนแบบนี้ ที่ไม่รักษาวินัย ไม่เคารพกติกา

เพราะฉะนั้นเรายังไม่ผ่อนคลายตรงนี้

แต่ยังไม่ถึงขั้นว่า จะล็อคดาวน์ หรือ ห้ามทั้งหมด แต่จะต้องหามาตรการที่เข้มข้นในจุดที่อ่อนไหว มีปัญหา เช่น ในส่วนของเจ้าหน้าที่ทูต ครอบครัว การเข้าสู่ State Quarantine บุคคลวีไอพี นักธุรกิจ ต้องทบทวนมาตรการต่างๆ ความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ มีความพร้อมแค่ไหน อย่างไร

ในเรื่องของน้ำยาตรวจเชื้อต่างๆ ก็จะต้องดำเนินการให้เพียงพอในทุกพื้นที่ ผมย้ำว่า ในทุกสนามบิน ต้องมีมาตรการเช่นเดียวกันหมดในการตรวจสอบ กรณีจะต้องมีการขึ้นเครื่องบิน"