เอกชนหนุน 'สตาร์ทอัพ' 3สาขา ยกระดับการพัฒนาประเทศ

เอกชนหนุน 'สตาร์ทอัพ' 3สาขา  ยกระดับการพัฒนาประเทศ

ภาคเอกชนหนุนรัฐ พัฒนาสตาร์ทอัพเกษตร-สุขภาพ-ท่องเที่ยว ต่อยอดจุดแข็งไทย ยกระดับเศรษฐกิจทั้งประเทศ

นางสาวอรพิมพ์ เหลืองอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอมสไปร์ จำกัด บริษัทพัฒนาสตาร์ทอัพรายใหญ่ของไทย เปิดเผยว่าแนวทางการพัฒนาสตาร์ทอัพของไทย ควรมุ่งเน้นส่งเสริมสตาร์ทอัพที่เป็นจุดแข็งของไทย ได้แก่ กลุ่มสตาร์ทอัพเกษตร สตาร์ทอัพด้านสุขภาพ และสตาร์ทอัพด้านการท่องเที่ยว เพราะไทยมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและมีพื้นฐานด้านเทคโนโลยีเหล่านี้สูง และมีความได้เปรียบมากกว่าประเทศอื่นๆ ซึ่งหากยกระดับเทคโนโลยีในกลุ่มนี้ได้ จะเกิดประโยชน์ต่อคนไทยโดยรวม ทำให้รายได้ของคนไทยในท้องถิ่นเพิ่มขึ้นมาก ซึ่งจะเกิดประโยชน์มากกว่าสตาร์ทอัพกลุ่มอื่นๆ

โดยเฉพาะในด้านการเกษตรเป็นไทยมีพื้นฐานที่ดี หากไทยสร้างสตาร์ทอัพเกษตรได้จะมีความโดดเด่นมาก ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีอยู่ในมหาวิทยาลัยต่างๆ โดยจะต้องประสานความร่วมมือกับสตาร์ทอัพที่มีแนวคิดใหม่ๆกับผลงานการวิจัยในมหาวิทยาลัย ก็จะเกิดสตาร์ทอัพเกษตรที่หลากหลาย ยกระดับผลผลิต และการตลาดให้สินค้าเกษตรของไทยได้มาก

ส่วนสตาร์ทอัพด้านสุขภาพจะมาต่อยอดความโดดเด่นด้านสาธารณสุขของไทยที่ทั่วโลกยอมรับ จะทำให้ไทยไปสู่การเป็นฮับด้านการรักษาพยาบาล ศัยกรรมความงาม และการดูแลสุขภาพได้เร็วขึ้นปัจจุบันสตาร์ทอัพไทยก็กำลังพัฒนาในหลายเรื่องที่น่าในใจ เช่น อุปกรณ์ตรวจมะเร็งจากเลือด หรืออุปกรณ์ที่มีเซ็นเซอร์ตรวจวัดต่างๆสวมติดตัวคนไข้ เพื่อส่งข้อมูลสุขภาพไปให้แพทย์ผ่านแอพลิเคชั่น และพูดคุยกับแพทย์ผ่านมือถือได้ ก็จะช่วยลดความแออัดในโรงพยาบาล และมีอีกหลายเทคโนโลยีที่อยู่ระหว่างการพัฒนา ขณะที่สตาร์ทอัพการท่องเที่ยว ก็จะเข้ามาช่วยอำนวยความสะดวก และสร้างความปลอดภัยเพิ่มมากขึ้น ก็จะช่วยเพิ่มมูลค่า และปริมาณนักท่องเที่ยวให้กับประเทศไทยมากขึ้น

“ไทยอาจไม่ต้องมุ่งไปสู่การสร้างยูนิคอร์น (สตาร์ทอัพที่มีมูลค่าเกิน 1 พันล้านดอลลาร์) แต่ควรสร้างสตาร์ทอัพที่มาจากจุดแข็งของประเทศ ก็จะเกิดประโยชน์กว่าการเกิดยูนิคอร์นในด้านอื่นๆ ที่อาจจะสร้างประโยชน์ให้กับคนเพียงส่วนน้อย”