ปรับตัวขึ้นต่อ

ปรับตัวขึ้นต่อ

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้นกว่า 24.69 จุด คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาคส่วนใหญ่ ขานรับข่าวดีจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่สดใส

ประกอบกับความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,374.13 จุด (+24.69 จุด) Volume 8.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -613.50 ลบ. TFEX Net +5,612 สัญญา ตราสารหนี้ +1,613 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 92.39 จุด +0.36% หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้นเกินคาดในเดือนมิ.ย. แต่นลท.ยังกังวลจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตจากไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดเพิ่มขึ้น 83 เซนต์ +2.1% ปิดที่ 40.65 ดอลลาร์/บาร์เรล ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่สดใสของสหรัฐ และตัวเลขสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐที่ลดลงมากกว่าคาด

+ การจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐใน เดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 4.8 ล้านตำแหน่ง มากกว่าที่คากว่าจะเพิ่มขึ้น 3 ล้านตำแหน่ง อัตราว่างงานลดลงแตะ 11.1%

+ดัชนีภาวะธุรกิจนิวยอร์กปรับตัวขึ้นในเดือนมิ.ย.

+สหรัฐรายงานคำสั่งซื้อภาคโรงงานเดือนพ.ค.เพิ่ม 8% ดีดขึ้นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน

-สหรัฐขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. หลังส่งออกร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 ปี

-วุฒิสภาสหรัฐผ่านกฎหมายคว่ำบาตรจีนกรณีฮ่องกง เพื่อแสดงออกถึงการสนับสนุนฮ่องกงซึ่งเพิ่งถูกจีนบังคับใช้กม.ความมั่นคง

+ไฉซินเผยดัชนี PMI ภาคบริการจีนเดือนมิ.ย.พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปี

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปรับตัวขึ้น 64.59 จุด เช้าบวก +2.13% 13.43 จุด ก่อนไฉซินเผย PMI ภาคบริการจีน

+ดัชนีนิกเกอิปิดเพิ่มขึ้น 24.23 จุด +0.11% เช้าเปิด +120.95 จุด

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 2.19 แสนลบ. ค่าเงินบาท 31.09 บาท/US

*จับตาสภาฯพิจารณาร่างงบประมาณฯปี 64 วันสุดท้าย กระทรวงพาณิชย์แถลงสถานการณ์ด้านราคาสินค้าและบริการ ส่วนจีนและยุโรปเปิดเผยดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายเดือนมิ.ย.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ หลังตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐปรับตัวดีขึ้นเกินคาด เป็นปัจจัยหนุนเศรษฐกิจให้กลับมาขยายตัว ประกอบกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่กลับมายืนเหนือระดับ 40 ดอลลาร์/บาร์เรล คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,370-1,390 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

SKY (ซื้อเมื่ออ่อนตัวราคาเหมาะสม 14.70 บาท)  

คาดผลประกอบการจะฟื้นตัวดีขึ้นในช่วง 3Q20 หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ซึ่งจะทำให้การส่งมอบงานเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ ประกอบกับคาดว่าการลงทุนของภาครัฐและเอกชนจะเริ่มทยอยกลับมา โดยบริษัทมียอด Backlog ณ ปัจจุบันที่ระดับ 3.5 พันล้านบาท ที่จะรับทยอยรู้รายได้ในปี 20-21 และอยู่ระหว่างเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐหลายโครงการมูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท โดยล่าสุดบริษัทได้เซ็นสัญญาจ้างงานให้บริการระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่องของ AOT มูลค่า 8.62 พันล้านบาท มีระยะเวลา 10 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2573 (ยังไม่รวมในประมาณการ) นอกจากนั้นบริษัทมีแผนที่จะขยายตลาดภาคเอกชน โดยเน้นไปที่ Smart Security Platform และ Facility Management ในกลุ่มอาคารที่อยู่อาศัย อาคารสำนักงาน โรงงาน โรงแรม และโรงพยาบาล คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ใน 3Q20 และมีแผนขยายธุรกิจ Smart Security ไปในต่างประเทศในช่วงกลางปี เช่น ประเทศมาเลเซีย ไต้หวัน สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย เราคงรายได้จากการดำเนินงานและกำไรสุทธิปี 20 ไว้ที่ 4,316.2 ล้านบาท และ 272.3 ล้านบาท เติบโต +9.0%YoY และ +24.6%YoY ตามลำดับ

เราประเมินราคาเหมาะสมอิงค่าเฉลี่ย PER +1SD  ของหุ้นกลุ่ม ICT ย้อนหลัง 3 ปีที่ 30 เท่า โดยใช้ EPS Fully Diluted (รวมหุ้น PP 20 ล้านหุ้น) ได้ราคาเป้าหมายเท่ากับ 14.70 บาท โดยราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจนใกล้เคียงมูลค่าพื้นฐานของเรา จึงปรับคำแนะนำจาก ซื้อ เป็น ซื้อเมื่ออ่อนตัว

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากแพ็กเกจ “เราเที่ยวด้วยกัน” (ERW CENTEL AOT AAV BA ASAP)
  • หุ้น Defensive Stock (ADVANC INTUCH DIF TTW BEM BTS CHG BCH)
  • หุ้น IAA Consensus แนะนำ (ADVANC CK CPALL CPF INTUCH)

หุ้นมีข่าว   

(+) GULF (Bloomberg Consensus 34.70 บาท)  ลุยซื้อหุ้น DGI โรงไฟฟ้าพลังงานลมบนบก 2 โครงการ “Ia Pech 1 และ Ia Pech 2ในเวียดนาม กำลังผลิตรวม 100 เมกะวัตต์ มูลค่าโครงการรวมกว่า 200 ล้านเหรียญสหรัฐ เริ่มก่อสร้างภายในปีหน้า คาด COD ในไตรมาส 4/65 (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TSR (Bloomberg Consensus 2.40 บาท)   คาดผลงานครึ่งปีแรกดี มั่นใจไตรมาส 2/63 ยอดขายออนไลน์เครื่องใช้ไฟฟ้า-เครื่องกรองน้ำแตะนิวไฮ ลั่นครึ่งปีหลังเดินหน้ารุกธุรกิจเครื่องทำน้ำแข็ง หนุนรายได้ปีนี้โต 10% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) ALL (Bloomberg Consensus - บาท)   บอร์ด ALL ไฟเขียวแจกวอร์แรนต์ ALL-W1 จำนวน 140 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (RO) ในอัตรา 4 หุ้นเดิมต่อ 1 วอร์แรนต์ ชงผู้ถือหุ้นอนุมัติ 30 ก.ค.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงิน รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) RATCH (Bloomberg Consensus 73.37 บาท) ลุ้นกระทรวงพลังงาน ชง กพช.ปรับรูปแบบโครงสร้างการแข่งขันกิจการก๊าซระยะที่ 2 จ่อเดินหน้าเจรจาจัดซื้อ LNG 1.4 ล้านตัน นำเข้าป้อนโรงไฟฟ้าหินกอง ฟาก กฟผ.จ่อคิวเจรจาปรับลดต้นทุนค่าไฟฟ้าลง (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) TKN (Bloomberg Consensus  12.02 บาท)  เตรียมส่งผลิตภัณฑ์ใหม่กระตุ้นตลาดช่วงไฮซีซัน ดันผลงานครึ่งปีหลังเด่น เผยยอดขายจีนเริ่มกลับมาดีมากกว่าไตรมาสแรก เน้นกลยุทธ์เดินหน้าบริหารต้นทุน ขณะที่ต้นทุนสาหร่ายลดลงหนุนอัตรากำไรดีขึ้น มั่นใจปีนี้รักษารายได้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 5,300 ล้านบาท ด้านโบรกชี้ปี 2564 เข้าสู่ช่วงขาขึ้นรอบใหม่ และมีลุ้นทำกำไรสูงสุด เป้า 16.10 บาท (ที่มา ทันหุ้น)

(+) BRR (Bloomberg Consensus - บาท) จัดทัพลุยควิกวิน! จ่อยื่นโรงไฟฟ้าชีวมวล 9.9 เมกะวัตต์ เสริมแกร่งอนาคต พร้อมเดินหน้าขยายฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่องเล็งสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายแถมยิ้มรับราคาน้ำตาลโลกฟื้นตัวหนุนรายได้พุ่ง (ที่มา ทันหุ้น)

(+/-) JMART (Bloomberg Consensus 8.00 บาท) นำหุ้นเพิ่มทุน JMART-W3 และ JMART-W4 เริ่มซื้อขายบนกระดานวันที่ 3 กรกฎาคมนี้ สะท้อนความเชื่อมั่นกลุ่มธุรกิจแข็งแกร่งที่สามารถต่อยอดการเติบโตในธุรกิจการเงิน ธุรกิจค้าปลีกและธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มองระยะยาวขับเคลื่อนการเติบโตด้วยเทคโนโลยี วางหมากมุ่งดิจิทัลและไฟแนนซ์ (ที่มา ทันหุ้น)

(+) WICE (Bloomberg Consensus 3.50 บาท)  ผงาดรับขนส่งคลายล็อกเปิดน่านฟ้าหนุนดีมานด์ฟื้น จัดงบ 200 ล้านบาท เพิ่มทุน "WICE SG" อัพฐานโลจิสติกส์ พร้อมเดินหน้าเจาะการบิน-รีเทลล์นำเข้า ปูทางโกยเงินเพิ่ม บิ๊ก "ชูเดช คงสุนทร" คาดปี 2563 ปั๊มรายได้ 2.7 พันล้านบาท โต 20% จากพอร์ตลูกค้าขยายตัว (ที่มา ทันหุ้น)

(+) CK (Bloomberg Consensus 23)  ร.ฟ.ท.มั่นใจปีนี้เปิดประมูลรถไฟทางคู่สายใหม่ 2 เส้น วงเงินกว่า 1.52 แสนล้านบาท เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ 8.5 หมื่นล้านบาท และบ้านไผ่-นครพนม 6.6 หมื่นล้านบาท ล่าสุดผ่าน EIA-ออกพ.ร.ฎ.เวนคืนแล้ว พร้อมเร่งประมูลทางคู่เฟส 2 ที่ค้างท่ออีก 7 เส้นทาง รอ สศช.พิจารณาก่อนชง ครม.” (ที่มาข่าวหุ้น)

ความเห็น CK มีศักยภาพในการประมูลงานรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงของ และบ้านไผ่-นครพนม เนื่องจากเป็นการก่อสร้างต่อจากสายชุมทางจิระ-ขอนแก่น ทั้งนี้บริษัทสนใจเข้าร่วมชิงงาน รถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้และส้มตะวันตกมูลค่ารวม 1.74 แสนล้านบาท งานก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาภรณ์มูลค่า 4 พันล้านบาท เพื่อเพิ่ม Backlog อย่างต่อเนื่อง เราจึงแนะนำ "ซื้อ"