'อีพี' ลุยซื้อหุ้นโรงไฟฟ้า ฟันธงงบไตรมาส 2 'แจ่ม'
“อีสเทอร์น พาวเวอร์” เผย บริษัทย่อย “อีเทอร์นีตี้พาวเวอร์” ซื้อหุ้น “เอสทีซี โฮลดิ้ง” จำนวน 4.75 ล้านหุ้น คิดเป็น 18.75% ราคาหุ้น 18.92 บาท มูลค่ารวม 90 ล้าน เพื่อถือหุ้นทางอ้อมโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก
นายวีระ เหล่าวิทวัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่า บริษัท อีเทอร์นีตี้ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETP ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ที่บริษัทถือหุ้นสัดส่วน 75% ได้เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เอเพ็กซ์ เอ็นเนอร์ยี่ โซลูชั่น จำกัด (APEX) จำนวน 4,754,398 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 18.75% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดในราคาหุ้นละ 18.9298 บาท รวมมูลค่า 90 ล้านบาท จากบริษัท เอสทีซี โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งไม่ใช่บุคคลที่เกี่ยวโยงกัน
ทั้งนี้เพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้นทางอ้อมในบริษัท แทค เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (TAC) จำนวน 447,600 หุ้น คิดเป็น 2.40% เพื่อให้ได้มาซึ่งการถือหุ้นทางอ้อมใน บริษัท พีพีทีซี จำกัด (PPTC) จำนวน 178,080 หุ้น คิดเป็น 1.20% และเพื่อให้ได้ตามซึ่งการถือหุ้นทางอ้อมในบริษัท เอสเอสยูที จำกัด (SSUT) จำนวน 280,224 หุ้น คิดเป็น 0.96% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้ว
สำหรับบริษัท PPTC เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบ Cogeneration กำลังการผลิตสูงสุด 120 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิต 30 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง และ บริษัท SSUT เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบ Cogeneration กำลังการผลิต 240 เมกะวัตต์ และไอน้ำกำลังการผลิต 60 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมบางปู จ.สมุทรปราการ
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) เคจีไอ (ประเทศไทย) คาดแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 2563 ของ EP จะมีกำไรปกติทรงตัว จากไตรมาสก่อนหน้า ที่ 138 ล้านบาท แต่จากค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นราว 5% ทำให้คาดว่ามีโอกาสที่จะกลับรายการผลขาดทุนเป็นกำไรในไตรมาส 2 ปี 2563
แนวธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ดีมานด์ไฟฟ้าในไตรมาส 2 ปี 2562 ชะลอบ้างช่วงโควิด-19 แต่ล่าสุดปริมาณขายไฟฟ้าในเดือน มิ.ย.กลับสู่ระดับใกล้เคียงปกติแล้ว ทั้งนี้ฝ่ายวิจัยคาดว่าปี 2563 EPจะมีการบันทึกผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนราว 105 ล้านบาท กำไรสุทธิจึงปรับลดลงเป็น 207.6 ล้านบาท หรือ ลดลง 34% แต่ยังคงประมาณการกำไรปกติไว้ตามเดิม 313 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนโรงไฟฟ้าที่ประเทศเวียดนาม ส่วนธุรกิจสิ่งพิมพ์ และบรรจุภัณฑ์กระดาษในไตรมาส 2 ปีนี้คาดชะลอตัวลงบ้าง แต่คาดว่าจะฟื้นตัวในครึ่งปีหลัง 2563
อย่างไรก็ตาม EP จะทำการย้ายหมวดอุตสาหกรรมจากหมวดสิ่งพิมพ์ไปยังหมวดพลังงาน คาดเป็นบวกต่อการลงทุน เนื่องจากการย้ายจากกลุ่มอุตสาหกรรมที่แนวโน้มชะลอตัวไปยังกลุ่มอุตสาหกรรมที่ยังเติบโต และ PE อาจถูก Re-rate ขึ้น เมื่อทำการพิจารณาเปรียบเทียบกับกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะโรงไฟฟ้า
