ตลาดกลัวตกรถ และยกเลิกข้อตกลงการค้า มากกว่าไวรัส

ตลาดกลัวตกรถ และยกเลิกข้อตกลงการค้า มากกว่าไวรัส

คงมุมมองสงครามการค้าไม่กลับมาในเร็วๆนี้

การเคลื่อนไหวของหุ้นเอเชียวานนี้ผันผวนจากกระแสข่าวยกเลิกข้อตกลงการค้า สหรัฐฯ-จีน จากการให้สัมภาษณ์ของที่ปรึกษาการค้าสหรัฐฯ ปีเตอร์ นาวาโร่ ก่อนที่จะมีการออกมาแก้ข่าว รวมถึงประธานาธิปดีทรัมป์ ออกมาทวีตยืนยันถึงข้อตกลงการค้า ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวยืนยันมุมมองที่เราเคยคาดว่าสหรัฐ จะไม่เสี่ยงทำอะไรที่กระทบต่อโมเมนตัมการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงห่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิปดีรอบใหม่ที่จะเกิดขึ้น ในเดือนพ.ย.63

คาดกนง.คงดอกเบี้ยนโยบาย แต่มีโอกาสปรับลงในช่วงไตรมาส 3/63 เราคาดกนง.จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.50% ในการประชุม ส.ค.-ก.ย. เนื่องจากโฟกัสของนักลงทุนในปัจจุบันคือเรื่องคุณภาพของลูกหนี้และการตั้งสำรองที่มาจากโควิด ดังนั้นการเลื่อนการลดดอกเบี้ยออกไปเป็นในการประชุมรอบหน้า ช่วง ส.ค.-ก.ย. จะมีผลในการช่วยหนุนต่อการฟื้นตัวและกระตุ้นเศรษฐกิจมากกว่า กลุ่มธนาคารและการเงินมีโอกาสฟื้นในระยะสั้น อย่างไรก็ตามความกังวลเรื่องผลประกอบการจะยังเป็นปัจจัยจำกัดการฟื้นตัวของหุ้นในกลุ่มการเงินโดยรวม

กลุ่มหุ้นกลาง-เล็ก ยังมีโอกาสเคลื่อนไหวดีกว่า ตราบใดที่ประมาณการกำไรบจ.ยังไม่กลับมาเพิ่มขึ้น หุ้นขนาดกลาง (FTSE SET Mid Cap) และเล็ก (FTSE SET Small Cap) เคลื่อนไหวดีกว่ากลุ่มหุ้นใหญ่ (FTSE SET Large Cap) ในช่วงปีนี้ ซึ่งสอดคล้องกับทิศทางการปรับประมาณการกำไรบจ.ลง ที่ดำเนินมาตั้งแต่ต้นปี เราคาดแนวโน้มดังกล่าวยังดำเนินต่อเนื่อง จนกว่าจะเห็นการจบของการปรับประมาณการลง (End of downgraded earnings cycle) ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นในช่วงไตรมาส 3/63 หากการฟื้นตัวของกำไรบจ.ดีกว่าคาด หรือดีกว่ามุมมองเชิงลบที่นักวิเคราะห์ได้ประเมินไว้

Theme การลงทุนและกลุ่มที่น่าใจ 1) ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/63 ออกมาดี ได้แก่ ปิโตรเคมี บรรจุภัณฑ์ ได้แก่ SCC, IVL, AJ, PTL, TIP, THRE, STA 2) กลุ่มปลอดภัยหรือรายได้มั่นคง (defensive) ได้แก่ ADVANC, INTUCH, RATCH, SSP 3) กลุ่มที่เห็นการฟื้นตัวของผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลัง EASTW, WHAUP, CPF, TU 4) น้ำมันดิบ PTTEP (ต้าน 99-99 ตัดขาดทุน 92.75)

ภาพรวมกลยุทธ์ แกว่งตัว1333-1372 โดยผันผวนไปตามข้อมูลการระบาดระลอกสองและการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ คาดกลุ่มสื่อสารมีแรงหนุนจากกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการปันผลระหว่างกาล ขณะที่อาหาร ได้แรงบวกจากจีนระงับนำเข้าไก่จากโรงงานในสหรัฐฯ โดยอาจผันผวนตามประเด็นข้อมูลการระบาดระลอกสองที่กำลังเร่งตัว  // หุ้นแนะนำวันนี้ เก็งกำไร  CPF, WHAUP*, THRE* / ขายชอร์ต AOT (เป้า 56 ตัดขาดทุน 62)

แนวรับ 1,333 จุด / แนวต้าน : 1,372 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

ตัวเลข PMI สหรัฐดีดตัวสูงสุดในรอบ 4 เดือน - ดัชนี รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐดีดตัวสู่ระดับ 46.8 ในเดือนมิ.ย. ระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือน จากระดับ 37.0 ในเดือนพ.ค. แสดงถึงความฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับ 50

แนวโน้มกำไรโรงกลั่นในเอเชีนยังไม่ดีขึ้น – แม้เศรษฐกิจฟื้นตัวอีกครั้งหลังโควิด-19 ระบาด แต่กำไรขั้นต้นของโรงกลั่นในเอเชียยังไม่น่าจะดีขึ้น ดีมานด์เชื้อเพลิงที่ฟื้นตัวกลับมาไม่เพียงพอที่จะทำให้ปริมาณน้ำมันที่สะสมไว้มากในช่วงสองสามเดือนที่ผ่านมาหมดไปได้

ยกเลิกเสนอซื้อ BHร.พ.กรุงเทพ (BDMS) ประกาศยกเลิกความพยายามเข้าซื้อกิจการ ร.พ.บำรุงราษฎร์ (BH) เนื่องจากภาวะตลาดที่ไม่เอื้อ และไม่ได้รับการต้อนรับจากอีกฝ่าย

MINT ประกาศราคาเพิ่มทุน – ที่ 18.90 บาท โดยมีอัตราเพิ่มทุนที่ 8.20 หุ้นเดิม : 1 หุ้นเพิ่มทุน เสนอขายช่วง 17-29 ก.ค. โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XR 26 มิ.ย.นี้ ราคาเพิ่มทุนดังกล่าวต่ำกว่าราคาปิดในกระดานที่ 20.60 บาท ซึ่งเราประเมินว่ากระแสเงินสดจะเพียงพอสำหรับการดำเนินงานในช่วง 12 เดือน ข้างหน้าม่ดขึ้น ดีมานด์น้ำมันฟื้นไม่มาอที่จะ

ประเด็นติดตาม: 24 มิ.ย. – TH Industrial Production, ประชุม กนง / 30 มิ.ย.รายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)