เชือดโหด 'ซุปเปอร์' ผวาเงินทุน 'สะดุด'

เชือดโหด 'ซุปเปอร์' ผวาเงินทุน 'สะดุด'

นักลงทุน ถล่มขายหุ้น “ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี” ฉุดราคารูดเฉียด 10% หลังถูกลากขึ้นไปกว่า 3 เท่าตัว ในช่วง 3 เดือน โบรกเกอร์ ชี้ นักลงทุนห่วงแผนระดมทุน หลังตลาดหุ้นกู้ยังไม่ปกติ

ความเคลื่อนไหวราคาหุ้น บมจ.ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น (SUPER) วานนี้ (16 มิ.ย.) ปรับตัวลดลง 9.7% จากวันทำการก่อนหน้า ปิดที่ 0.93 บาท โดยก่อนหน้านี้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 1.10 บาท ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องนับแต่ปลายเดือน มี.ค. ที่ผ่านมา กว่า 3 เท่าตัว จากบริเวณ 0.3 – 0.4 บาท

นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ราคาหุ้น SUPER ที่ปรับตัวลดลงมานี้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นความกังวลต่อการลงทุนตามแผนงานในอนาคตของบริษัท ซึ่งจากแผนงานที่วางไว้นั้น คาดว่ากำลังการผลิตของบริษัทจะเพิ่มขึ้นเท่าตัวในระหว่างปี 2562 - 2565 ดังนั้นบริษัทจำเป็นจะต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมาก

“ภาพระยะยาวของ SUPER ค่อนข้างจะดี ด้วยกำลังการผลิตที่จะเพิ่มสูงขึ้นมาก แต่จุดอ่อนของ SUPER คือเรื่องของโครงสร้างเงินลงทุน ซึ่งปัจจุบันบริษัทใช้เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์เป็นหลัก ส่วนเงินกู้อื่นๆ มีสัดส่วนค่อนข้างน้อย ถึงจุดหนึ่งบริษัทอาจจะมีปัญหาในการเติบโตได้”

ปัจจุบันหนี้สินต่อทุน (D/E) ของบริษัทอยู่ที่ราว 2.42 เท่า อาจจะดูค่อนข้างสูง แต่ลักษณะของธุรกิจโรงไฟฟ้าจะเป็นการใช้ Project finance หากบริษัทสามารถหาเงินลงทุนได้ราว 1 ใน 3 ของแต่ละโครงการ ส่วนที่เหลือก็อาจจะกู้เพิ่มได้ ไม่ว่าจะผ่านธนาคารพาณิชย์หรือออกหุ้นกู้

ปัญหาหนึ่งของ SUPER ในปัจจุบัน คือ ตลาดตราสารหนี้ที่ยังไม่เข้าสู่ภาวะปกติ ทำให้นักลงทุนยังมีความกังวลต่อการลงทุน ส่งผลให้บริษัทระดมทุนจากหุ้นกู้ได้ลำบากมากขึ้น ขณะที่เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ก็เริ่มเป็นสัดส่วนที่สูงขึ้นมาก ทำให้ธนาคารอาจจะพิจารณาปล่อยเงินกู้ได้ยากขึ้น

“ราคาหุ้น SUPER ในช่วงที่ผ่านมา ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องตอบรับกับโอกาสในการเติบโตตามแผนที่วางไว้ แต่การเติบโตจากจุดนี้ต้องการเงินลงทุนเพิ่มพอสมควร ซึ่งมีคำถามว่าบริษัทจะหาแหล่งเงินทุนมาได้เพียงพอหรือไม่ และหากบริษัทไม่สามารถหาเงินทุนได้เพียงพอ จะมีโอกาสที่บริษัทจะต้องเพิ่มทุนหรือไม่”

โดยรวมแล้วกลยุทธ์การลงทุนในหุ้น SUPER ณ ขณะนี้ ควรติดตามแนวทางการหาแหล่งเงินทุนเพิ่ม หากมีแนวโน้มว่าบริษัทจะมีเงินลงทุนเพียงพอ หุ้น SUPER จะกลับมาน่าสนใจอีกครั้ง โดยเราประเมินราคาเหมาะสม ณ ขณะนี้ไว้ที่ 1.20 บาท

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)ระบุว่า คาดกำลังผลิตของ SUPERจะเติบโตจาก 806 เมกะวัตต์ ในปี 2562 ไปเป็น 1,718 เมกะวัตต์ ในปี 2565 ซึ่งจากกำลังผลิตที่ส่วนใหญ่จะเริ่มรับรู้ตั้งแต่สิ้นปี 2563 ทำให้กำไรปกติปี 2564 จะเป็นปีที่เติบโตก้าวกระโดดมากสุดมาที่ 2,562 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59.2% และกลับสู่ระดับการเติบโตปกติไปถึงปี 2566 ที่ 2,900 ล้านบาท