ปรับสูงขึ้น

ปรับสูงขึ้น

ทยอยขายที่แนวต้าน เพื่อซื้อคืนที่แนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้ :

คาดดัชนีฯ ปรับสูงขึ้น แนวต้าน 1392 / 1400 จุด แนวรับ 1370 / 1360 จุด แนะนำ ขาย แนวต้าน เพื่อซื้อคืนที่แนวรับ (Short Against Port) หลังทางเทคนิคเริ่มเกิดสัญญาณเตือนว่า ตลาดหุ้นโลกรวมถึงตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับลดลงในระยะสั้น 1-2 สัปดาห์ ความเสี่ยง คือ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจเปลี่ยนจาก U-Shape เป็น W-Shape หากมีการระบาดรอบสองของไวรัสฯ ซึ่งเริ่มเห็นบ้างแล้วในหลายเมืองของสหรัฐฯ และบางประเทศที่เร่งเปิดธุรกิจ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังสูงอยู่ เช่น บราซิล อินเดีย รวมถึงจีน ที่พบ ผู้ติดเชื้อใหม่แบบ Cluster ในตลาดค้าส่งในปักกิ่งเป็นครั้งแรก ส่วนปัจจัยบวก คือ สภาพคล่องที่มีอยู่สูง และ Search for Yield ส่งผลให้การร่วงลงแรงของตลาดหุ้นทุกครั้ง จะมีแรงซื้อเก็งกำไร

ประเด็นที่มีผลต่อตลาดวันนี้  ได้แก่

1) ตลาดหุ้นเอเชียวันนี้ มีสัญญาณเชิงบวก จากการฟื้นตัวของตลาดหุ้นโลกเมื่อวันศุกร์ จากแรงซื้อเก็งกำไรหุ้นร่วงแรง อาทิ กลุ่มสายการบิน ธนาคาร เป็นต้น

2) CDC สหรัฐฯ เตือนอาจต้องใช้มาตรการเข้มงวดเพิ่มขึ้น เพราะจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในหลายเมืองของสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นหลังผ่อนคลาย lockdown

3) จีนพบผู้ติดเชื้อใหม่ในประเทศแบบ Cluster เป็นครั้งแรก ส่งผลต้องประกาศปิดตลาดอาหารค้าส่งใหญ่สุดในกรุงปักกิ่ง รวมถึงโรงเรียน อาคารใกล้เคียงทันที

4) ผจก.ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งสัญญาณเลื่อนการทำ Short Position ออกไปอีก 3 เดือนจากสิ้นเดือน มิ.ย.

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: China-รายงานยอดค้าปลีกเดือน พ.ค. คาด -2% YoY (Vs เดือน เม.ย.-7.5%) ผลผลิตภาคอุตฯ เดือน พ.ค. คาด 5% YoY (Vs เดือน เม.ย.3.9%) Fixed Asset Investment เดือน พ.ค.(YTD) คาด -5.9% YoY (Vs เดือน เม.ย. -10.3%) EU-ดุลการค้าเดือน เม.ย. คาด 15.9 พันล้านยูโร (Vs เดือน มี.ค. 28.2 พันล้านยูโร) USA- สุนทรพจน์ประธานเฟด สาขาดัลลัสและซานฟรานซิสโก

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วันทำการที่ผ่านมา

- ตลาดหุ้นไทยร่วงเป็นวันที่สอง: ตลาดหุ้นไทยร่วงลงไปต่ำสุดในช่วงเปิดตลาดที่ 1353.51จุด -43.26 จุด ก่อนค่อยๆ ฟื้นตัวและขึ้นมาปิดตลาดที่ 1382.56 จุด -14.21 จุด -1.02% วอลุ่ม 8.58 หมื่นล้านบาท กลุ่มธนาคารฯ -2.6% อสังหาฯ -2.1% ปิโตรฯและพลังงาน -1.87% หลักทรัพย์ที่ดิ่งแรงกว่า 4% ได้แก่ KBANK CBG DOHOME ACAP SMPC INET (สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยแย่สุดในเอเชีย ร่วง 3.7% WoW)

+ ตลาดหุ้นโลกผันผวนก่อนปิดบวก: แรงซื้อเก็งกำไร หลังตลาดหุ้นร่วงแรง 3 วันที่ผ่านมา ส่งผลบวกต่อการฟื้นตัวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ +1.9% S&P500 +1.3% Nasdax +1.01% โดย 8 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมปิดในแดนบวก นำโดยกลุ่มการเงิน วัสดุก่อสร้าง เพิ่มขึ้นกว่า 1.3% และหุ้นโบอิ้ง +11% ช่วยหนุนตลาด ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปิดคละ DAX -0.18% CAC +0.49% FTSE +0.47% โดยหุ้นกลุ่มยานยนต์ ทรัพยากร อสังหาฯ ฟื้นตัว หลังดิ่งแรง (ทั้งสัปดาห์ DJ -5.6% WoW S&P -4.8% WoW Nasdaq -2.3% WoW ร่วงรายสัปดาห์สูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 20 มี.ค.)

- น้ำมันดิบปิดคละ ทองย่อตัว: WTI-USD8 เซนต์ ปิด USD36.26/บาร์เรล Brent เพิ่มขึ้น 18 เซนต์ ปิดUSD38.73/บาร์เรล วิตกอุปสงค์น้ำมันดิบโลกลดลง หากเกิดการระบาดรอบสองของไวรัสฯ ส่วนราคาทองคำ -USD2.5 +0.14% ปิดUSD1,737.3/ออนซ์ จากการขายทำกำไร (ทั้งสัปดาห์ WTI -8.3% WoW Brent -8.4% WoW Gold +3.2% WoW )

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update ณ วันที่ 14 มิ.ย.: สรุปผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วโลกล่าสุดกว่า 7.7 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 4.27 แสนราย โดยสหรัฐฯ มีผู้ติดเชื้อสูงสุดมากกว่า 2.05 ล้านราย เสียชีวิตมากกว่า 1.15 แสนราย รองลงมา คือ บราซิล รัสเซีย UK อินเดีย

+ ไทย: ศบค. รายงานจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้น 1 ราย (Vs วันศุกร์และวันเสาร์ที่ผ่านมา 5 ราย และ 4 ราย) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่สะสมรวม 3,134 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต

- USA: CDC เตือนอาจกลับมาใช้มาตรการเข้มงวดในการควบคุมการระบาดของไวรัสฯ ถ้าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่พุ่งขึ้นอย่างมีนัยสาคัญ (สัปดาห์นี้มีโอกาสปรับสูงขึ้นมาก จากการผ่อนปรนให้เปิดธุรกิจที่ผ่านมา และการชุมนุมประท้วงเรื่องจอร์จ ฟลอยด์ ที่ครบกำหนด 2 สัปดาห์)

- China: ประกาศปิดตลาดค้าส่งอาหาร ผัก ผลไม้ ขนาดใหญ่ที่สุดในปักกิ่ง (Xinfadi Market ในเขตการค้า Fengtai) เมื่อวันเสาร์ หลังจากพบจำนวนผู้ติดเชื้อสูงถึง 45 คน จาก 517 คน

- Fund Flow: สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 6 ชาติในเอเชีย (ไม่รวมญี่ปุ่น) เป็นสัปดาห์ที่สอง +USD999mn (Vs สัปดาห์ก่อน +USD4,899mn) โดยซื้อไต้หวัน อินเดีย ส่วนตลาดหุ้นไทยกลับมามีแรงขายสุทธิ –USD71mn หลังจากซื้อต่อเนื่อง 2 สัปดาห์ (Vs สัปดาห์ก่อน +USD190mn) ทาให้ 2020E YTD มีแรงขายสะสม –USD5,943mn

+ ตลาดหลักทรัพย์: ผจก. ตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งสัญญาณเลื่อนการทำ Short Position ออกไปอีก 3 เดือน จากสิ้นเดือน มิ.ย.

แนะนำ ทยอยขายที่แนวต้าน เพื่อซื้อคืนที่แนวรับ (โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%)

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: CPALL PTTGC ADVANC

หุ้นแนะนำขึ้นขาย เพื่อรอซื้อคืนเมื่ออ่อนตัว: AOT BBL MINT PTTGC OSP TOP SUPER CPALL CBG HMPRO KBANK SCC

Derivatives: แนะปิด Long S50M50C950 กับ Long S50M20P950 เพื่อทำกำไร (อ่านเพิ่มใน KTZ-D)