คลังหนุนกลุ่มขนส่งเข้าถึงแหล่งทุน

คลังหนุนกลุ่มขนส่งเข้าถึงแหล่งทุน

คลังพร้อมหนุนกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งเข้าถึงแหล่งทุน และช่วยฟื้นฟูสภาพธุรกิจหลังจบโควิด-19 ขณะที่ ผู้ประกอบการขอลดภาษีหัก ณ ที่จ่ายลงจาก 1% เหลือ 0.5% ระบุ ขณะนี้ภาพรวมธุรกิจเสียหายแล้ว 50%

นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเปิดเผยว่า วันนี้(10มิ.ย.)ผู้แทนสมาพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือหลังจากได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) โดยเฉพาะในเรื่องของแหล่งทุน ซึ่งกระทรวงการคลังก็แจ้งว่า ขณะนี้ มีหลายแหล่งทุนที่ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปใช้ได้ ทั้งจากซอฟท์โลนของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ซอฟท์โลนของธนาคารออมสินและกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอีคนตัวเล็ก

“ผู้ประกอบการที่เข้ามาหารือนี้ ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการายกลางและเล็กทั่วประเทศที่มีสมาชิกราว 3 แสนราย มีการจ้างงาน 5-6 ล้านคน มาหารือว่า ทางรัฐบาลจะมีแนวทางดูแลสนับสนุนอย่างไร ได้เรียนไปว่า รัฐบาลมีนโยบายและเดินหน้าในการดูแลให้ครอบคลุมทุกกลุ่ม เพราะโควิด-19กระทบแรงหลายธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจโลจิสติกส์”

เขากล่าวว่า ได้ชี้แจงถึงการช่วยเหลือ โดยแบ่งเป็น 2 ระยะ ซึ่งระยะแรกจะเป็นระยะเฉพาะหน้า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องสภาพคล่อง ก็แจ้งไปว่า ขอให้ประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกสมาพันธ์ขนส่งว่า รัฐบาลมีช่องทางในการเข้าถึงแหล่งทุนหลายแห่ง

ทั้งนี้ สำหรับกองทุนช่วยเหลือเอสเอ็มอีคนตัวเล็กที่เข้าไม่ถึงแหล่งทุนนั้น เมื่อเช้าวันนี้ ได้เชิญสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม(สสว.)มาหารือถึงกลไกของกองทุนดังกล่าว คาดว่า จะสามารถสรุปได้เร็วภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับระยะฟื้นฟูนั้น เขากล่าวว่า เป็นระยะสำคัญ เพราะผู้ประกอบการตระหนักดีว่า หลังสถานการณ์โควิด-19จบลง การดำเนินธุรกิจจะเปลี่ยนไป มีผู้เล่นต่างชาติเข้ามาแข่งขัน ดังนั้น การปรับตัวของผู้ประกอบการจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยรัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญของธุรกิจนี้ว่า เป็นหนึ่งในเอสเคิฟที่รัฐบาลกำลังส่งเสริม จึงพร้อมที่จะสนับสนุนเรื่องการปรับตัว  โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากร

“อีกแนวคิด คือ ดิจิทัลแฟฟอร์ม โลจิสติกส์ระดับชาติ ถ้าสามารถรวบรวมข้อมูล ตรงกับที่รัฐบาลคิดอยู่แล้ว เราก็ช่วยดูแลในส่วนนี้ และจะประสานกับกระทรวงอื่น เช่น ดีอี อุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมเป้าหมายดังกล่าว”

ด้านนายทองอยู่ คงขันธ์ ประธานที่ปรึกษาสหพัน์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยกล่าวว่า ทางสหพันธ์ฯได้ขอให้กระทรวงการคลังช่วยเหลือในหลายด้าน ประกอบด้วย 1.ขอปรับลดการนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่ายจาก 1% เหลือ 0.5% เป็นระยะเวลา 2 ปี โดยปัจจุบันธุรกิจขนส่งมีรายได้ราว 2-3 แสนล้านบาทต่อปี 2.ขอให้สนับสนุนการเข้าถึงแหล่งทุนได้มากขึ้น 3.ช่วยฟื้นฟูหลังจบโควิด-19 โดยขณะนี้ภาพรวมธุรกิจได้รับผลกระทบราว 50% แบ่งเป็นกลุ่มรถโดยสารจะได้รับผลกระทบราว 60-70% ส่วนกลุ่มขนส่งรบรรทุก 40%