พาณิชย์ เดินหน้าขายข้าวฮ่องกง

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ  เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ค. 2563 ที่ผ่านมา  กรมได้ประชุมผ่านระบบ Video Conference กับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย สมาคมผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง และสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง (สคต. ฮ่องกง) 2563 เพื่อติดตามความคืบหน้าเกี่ยวกับสถานการณ์การค้าข้าวในตลาดฮ่องกง ซึ่งเป็นตลาดส่งออกข้าวหอมมะลิที่สำคัญของไทย รวมทั้งติดตามข้อมูลสถานการณ์การผลิตและการค้าในช่วงการแพร่ระบาดโรคโควิด-19

โดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาฮ่องกงเกิดปรากฏการณ์ Panic Buying ที่ผู้บริโภคชาวฮ่องกงเกิดความวิตกกังวลว่าจะไม่มีข้าวเพียงพอสำหรับการบริโภค จึงซื้อข้าวเพื่อกักตุนเป็นจำนวนมาก ประกอบกับเวียดนามระงับการส่งออกข้าวชั่วคราว ขณะที่ไทยไม่มีมาตรการจำกัดปริมาณการส่งออกข้าว ส่งผลดีให้การนำเข้าข้าวไทยของฮ่องกง ปี 2563 (ม.ค. – เม.ย.) มีปริมาณ 69,339 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  27% ครองส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกง 66%  โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิไทยและข้าวหอมไทย

 

นายกีรติ กล่าวว่า   ฝ่ายฮ่องกงได้ขอบคุณประเทศไทยที่ส่งออกข้าวให้ฮ่องกงอย่างต่อเนื่อง และมีความเชื่อมั่นว่าไทยมีปริมาณผลผลิตเพียงพอที่จะส่งออกข้าวให้ชาวฮ่องกง ด้านไทยได้ยืนยันว่ารัฐบาลไทยไม่มีมาตรการจำกัดหรือห้ามการส่งออกข้าวไปต่างประเทศ และขอเชื่อมั่นว่าไทยมีปริมาณผลผลิตข้าวเพียงพอพร้อมที่จะส่งออกไปฮ่องกง  รวมทั้งขอให้ฮ่องกงพิจารณานำเข้าข้าวไทยเพิ่มมากขึ้นด้วย  

อย่างไรก็ตามภายหลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ในฮ่องกงดีขึ้น ทาง สคต. ณ เมืองฮ่องกง ก็จะดำเนินการส่งเสริมข้าวไทยผ่านเครือร้านอาหารรายใหญ่ เพื่อประชาสัมพันธ์และรักษาตลาดข้าวไทยในฮ่องกงอีกทางหนึ่งด้วย  ซึ่งการประชุมครั้งนี้ถือว่าบรรลุวัตถุประสงค์ โดยสามารถสร้างความเชื่อมั่นทางการค้าข้าวในช่วงสถานการณ์ของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี ซึ่งกรมฯ จะใช้ช่องทางดังกล่าวติดตามสถานการณ์การค้ากับประเทศผู้นำเข้าข้าวที่สำคัญของไทยในระยะต่อไป

         

 

ทั้งนี้ ในแต่ละปีฮ่องกงนำเข้าข้าวประมาณ 327,055 ตัน โดยเป็นข้าวจากไทยประมาณ 190,180 ตัน  หรือคิดเป็นส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกง 52 %  โดยไทยเป็นอันดับหนึ่งในส่วนแบ่งตลาดข้าวของฮ่องกงมาโดยตลอด ชนิดข้าวที่นำเข้า ได้แก่ ข้าวหอมมะลิไทย ข้าวหอมไทย และข้าวขาว โดยการนำเข้าข้าวไทยของฮ่องกง 4 เดือนแรก ปี 2563คือตั้งแต่เดือน ม.ค. – เม.ย. มีปริมาณ 69,339 ตัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน  27 % คิดเป็น84,240,366  ดอลลาร์