ผอ.แล็บอู่ฮั่น ยอมรับมีไวรัสค้างคาว ‘3 สายพันธุ์’

เมื่อคืนวันเสาร์ (23 พ.ค.) สถานีโทรทัศน์ซีจีทีเอ็นของทางการจีน เผยแพร่บทสัมภาษณ์นางหวัง ย่านอี้ ผู้อำนวยการสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น ที่ถ่ายทำไว้เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ระบุว่า ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ และอีกหลายๆ คนเชื่อว่า ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่สาเหตุโรคโควิด-19 อาจหลุดจากห้องแล็บของสถาบันล้วนเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่เป็นความจริง

ศูนย์คัดแยกและได้ไวรัสโคโรน่าบางตัวจากค้างคาว ตอนนี้มีไวรัสเป็น 3 สายพันธุ์ แต่ที่คล้ายคลึงกับไวรัสซาร์สคอฟ 2 สาเหตุโรคโควิด-19 มากที่สุดก็แค่ 79.8%

ทีมวิจัยทีมหนึ่งนำโดยศาสตราจารย์จี้ เจิ้งหลี่ วิจัยไวรัสโคโรนาจากค้างคาวมาตั้งแต่ปี 2547 มุ่งเน้นตามรอยแหล่งที่มาของโรคซาร์ส ซึ่งจีโนมของซาร์สคอฟ 2 คล้ายคลึงกับซาร์สเพียง 80% เท่านั้น ถือว่าแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทีมของศาสตราจารย์จี้จึงไม่สนใจไวรัสที่ไม่คล้ายคลึงกับไวรัสซาร์ส

ส่วนไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ที่ยังไม่มีใครรู้จักในตอนแรก สถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นได้ตัวอย่างมาในวันที่ 30 ธ.ค.2562 แยกลำดับจีโนมได้ในวันที่ 2 ม.ค. แล้วส่งข้อมูลการแพร่ระบาดให้องค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) ในวันที่ 11 ม.ค. นางหวังย้ำว่า ก่อนได้รับตัวอย่างในเดือน ธ.ค. ทีมวิจัยไม่เคยเจอ วิจัย หรือเก็บไวรัสนี้ไว้เลย

“จริงๆ แล้วเราก็ไม่เหมือนคนอื่นๆ ที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีไวรัสตัวนี้ แล้วมันจะหลุดไปจากห้องแล็บของเราได้ยังไง ในเมื่อเราไม่เคยมีมันมาก่อน”ผู้อำนวยการสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่นยืนยัน

ตอนที่ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Scientific American นางจีกล่าวว่า ลำดับจีโนมซาร์สคอฟ 2 ไม่ตรงกับไวรัสโคโรน่าจากค้างคาวที่ห้องแล็บของเธอเคยเก็บรวบรวมและศึกษามาก่อน

หลายเดือนมาแล้วที่ชาวเน็ตลือกันว่า ไวรัสหลุดไปจากห้องแล็บของอู่ฮั่น จากนั้นประธานาธิบดีทรัมป์และนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ หยิบเรื่องนี้ไปเล่นว่ามีหลักฐานระบุการแพร่ระบาดมาจากสถาบันไวรัสวิทยาอู่ฮั่น แต่ดับเบิลยูเอชโอชี้แจงว่า รัฐบาลวอชิงตันไม่เคยมีหลักฐานมาสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าวเลย