MINT - อยู่ระหว่างทบทวน

• What’s new

MINT ได้จัดการประชุมนักวิเคราะห์ออนไลน์สำหรับ 1Q20: โดยมีประเด็นสำคัญดังนี้:

 

1. คาดว่าจะมีการประหยัดต้นทุน 25% จากฐานค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานในปี 2019 สำหรับปี FY2020 (ไม่รวมค่าเสื่อมราคา ดอกเบี้ยจ่ายและภาษี) ซึ่งมาจากหลายแหล่ง (เช่น เงินเดือน ห่วงโซ่อุปทาน ค่าเช่า และต้นทุนอื่นๆ) โดยการลดค่าใช้จ่ายในรอบนี้ ค่าเช่าจะลดลง 30% สำหรับใน 2Q20 เท่านั้น แต่จะมีการพูดคุยเป็นนแบบไตรมาสต่อไตรมาสในการขอส่วนลด

 

1. การฟื้นตัวของธุรกิจท่องเที่ยวภายในกลุ่มประเทศยุโรปจะเป็นประโยชน์ต่ออัตราการเข้าพักของโรงแรม NH ถึงแม้ว่าบริษัทจะยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับกลยุทธ์การเปิดโรงแรมอีกครั้ง MINT คาดว่าจะเปิดโรงแรมของบริษัทเองก่อนเพื่อตอบรับกับการฟื้นตัวของความต้องการ แล้วค่อยเปิดโรงแรมที่เช่ามาเพื่อที่จะลดค่าเช่าให้มากที่สุดกับเจ้าของทรัพย์สิน MINT คาดว่าจะเปิดโรงแรมอีกครั้ง 50% 60% และ 70% ของโรงแรมทั้งหมดของบริษัทในพฤษภาคม มิถุนายนและกรกฎาคมตามลำดับ จาก 2 สัปดาห์ในเดือนพฤษภาคม คาดว่าอัตราการเข้าพักของ NH จะอยู่ที่ 40% จากจำนวนห้องพักที่เปิดน้อยลง (20% จาก 100% ที่จะเปิด)

 

1. นอกจากการเลื่อนงบลงทุน (เหลือเพียง 1หมื่นล้านบาทใน 2020) และการยกเลิกการจ่ายเงินปันผล (รอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น) MINT ยังคาดว่าการเพิ่มทุนจะช่วยเพิ่มส่วนทุนให้แข็งแกร่งขึ้นและทำให้ D/E ลดลงไปอยู่ที่ 1.35 เท่าภายในปี 2020 นอกจากใช้สำหรับการจ่ายหนี้แล้ว MINT ยังคาดหวังงบดุลที่แข็งแกร่งที่จะช่วยให้บริษัทผ่านวิกฤตในปีนี้ไปได้ รวมถึงโอกาสในการทำ M&A ในธุรกิจใหม่ (ขนาดไม่ใหญ่นัก) ในปี2021

 

• Analysis

โทนที่ดีจากการประชุมนักวิเคราะห์ ในขณะที่การเพิ่มทุนจะสร้างแรงกดดันเชิงลบต่อมุมมองของตลาดต่อหุ้น รายละเอียดในการประหยัดต้นทุนของ MINT และรายละเอียดการจองโรงแรม NH hotels ได้แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วจากการท่องเที่ยวภายในประเทศของยุโรป ซึ่งหมายถึงการขาดทุนที่น้อยลง ที่จะไม่ถึง 1หมื่นล้านบาทอย่างที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ ความคาดหวังเบื้องต้นของเราจะขาดทุนที่ 8.5พันล้านบาทใน FY2020

 

• Action/ Recommendation

จากทุนที่ได้จากการเพิ่มทุนแบบ RO, warrant, และ หุ้นกู้ชั่วนิรันดร์ จะช่วยลดความเสี่ยงในการละเมิด debt covenant ถ้าการทดสอบเกิดขึ้นใน 1Q21 (MINT กำลังขอให้ผ่อนผันการทดสอบในช่วงปลาย 2Q20) และจะช่วยให้ MINT มีความยืดหยุ่นทางการเงินมากพอที่จะเข้าร่วมในกิจกรรมต่างๆ (เช่น การควบรวมกิจการในช่วงวิกฤตจะได้การประเมินมูลค่าที่ถูก หลีกเลี่ยงรายการการขายและเช่ากลับสำหรับทรัพย์สินที่มีคุณภาพสูงซึ่งจะทำให้เกิดค่าเช่าในระยะยาว) ซึ่งจะเกิดประโยชน์ในระยะยาวต่อผู้ถือหุ้น เรายังอยู่ระหว่างการทบทวนประมาณการกำไรและราคาเป้าหมายของเรา พร้อมกับมุมมองเชิงลบจากผลประกอบการที่อ่อนแอใน 1Q20