กังวลระบาดรอบ2

กังวลระบาดรอบ2

ตลาดหุ้นวานนี้ปิดบวกกว่า 21 จุด แม้มีแรงขายในช่วงท้ายตลาด

อย่างไรก็ดี ดัชนียังคงได้แรงหนุนจากตลาดหุ้นภูมิภาค หลังแนวโน้มการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนเริ่มคลี่คลายลง ประกอบกับภายในประเทศยังได้ปัจจัยบวกจากความคาดหวังเชิงบวกในการปลดล็อกกิจกรรมเฟส 2 ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,287.30 จุด (+21.28 จุด) Volume 5.7 หมื่นลบ. ต่างชาติ -1,360.78 ลบ. TFEX Net +592 สัญญา ตราสารหนี้ +1,344 ลบ.

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 109.33 จุด -0.45% กังวลว่าการที่หลายประเทศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไปอาจทำให้ไวรัสโควิด-19 กลับมาแพร่ระบาดเป็นรอบสอง ซ้ำเติมเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะถดถอย

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง 60 เซนต์ -2.4% ปิดที่ 24.14 ดอลลาร์/บาร์เรลกังวลดีมานด์ทรุดหากโควิด-19 ระบาดรอบสอง แม้ซาอุฯประกาศปรับลดกำลังการผลิตเพิ่มอีก 1 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนมิ.ย.

-จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในจีน เกาหลีใต้ และเยอรมนีดีดตัวขึ้น หลังรัฐบาลประกาศคลายมาตรการล็อกดาวน์ในประเทศ

+ปธ.เฟดชิคาโกคาดเฟดตรึงดอกเบี้ยใกล้ 0% ต่อไปอีกนานเพื่อหนุนศก.

+จีนเผยยอดขายรถยนต์เพิ่มขึ้นครั้งแรกรอบ 2 ปีในเดือนเม.ย.

+15 พ.ค.นี้ ศบค.เตรียมพิจารณากิจกรรมที่ปลดล็อกเฟส 2

-S&Pประเมินว่ารัฐบาลทั่วโลกมีแนวโน้มที่จะถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น S&P ให้แนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือในเชิงลบ 25 ประเทศ ให้ความน่าเชื่อถือเชิงบวก 6 ประเทศ และมีแนวโน้มมีเสถียรภาพ 104 ประเทศ

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิด -0.54 จุด -0.02%

-เช้านี้ดัชนีนิกเกอิเปิดลบวิตกโควิด-19 ระบาดรอบสอง

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.72 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.19 บาท/US

*จับตาประชุม ครม. ส่วนสหรัฐและจีนเผยดัชนี CPI เดือนเม.ย.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยอ่อนตัวลงามทิศทางตลาดภูมิภาค จากความกังวลว่าจะเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19รอบสอง  จากรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อในจีน เกาหลีใต้ และเยอรมัน กลับมาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังรัฐบาลประกาศคลาย Lockdown คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,270-1,300 จุด

 

หุ้นรายงานพิเศษ

PTT (Bloomberg Consensus 39.06) รายงานขาดทุน 1.55 พันล้านบาท -105%YoY แล –109%QoQ โดยถูกกดดันจากบริษัทในกลุ่มโดย PTTEP ผลประกอบการอ่อนตัวลงสู่ 8.6 พันล้านบาท ขณะที่ TOP PTTGC และ IRPC ขาดทุน 1.37 หมื่นล้านบาท 8.8 พันล้านบาท และ 8.9 พันล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ผลประกอบการธุรกิจโรงแยกก๊าซธรรมชาติอ่อนตัวลงจากการหลุดซ่อมบำรุงของโรงแยกก๊าซฯ หน่วยที่ 5 และราคาผลิตภัณฑ์ลดลงตามราคา HDPE นอกจากนี้ยอดจำหน่ายน้ำมันปรับตัวลงจากการ Lockdown

ความเห็น เราคาดว่าผลประกอบการของ PTT ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน 1Q63 เนื่องจากกลุ่มโรงกลั่นมีผลขาดทุนจากสต็อกน้ำมันดิบ โดยจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ 2Q63 เป็นต้นไป อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับต่ำจะกดดันผลประกอบการในปีนี้ให้ลดลง 20% สู่ 7.5 หมื่นล้านบาท แนะนำ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่คาดว่าจะเข้าคำนวณ MSCI มีผล 29 พ.ค. (AWC TOA KTC)
  • หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการเปิดปลดล็อกดาวน์เฟส 2 ได้แก่ หุ้นกลุ่มห้างสรรพสินค้าและโมเดิร์นเทรด (CRC MBK CPN SF HMPRO DOHOME MC RSP COM7 JMART) หุ้นกลุ่มร้านอาหาร (AU M ZEN MINT) และหุ้นในกลุ่มบริการสปา (SPA)

หุ้นมีข่าว   

(-) AU (ราคาเหมาะสม 10.20 บาท) รายงานกำไร 1Q63 เท่ากับ 13 ลบ. -78%YoY เนื่องจากรายได้ที่ลดลงจาก 287 ลบ. ในงวดเดียวกันของปีก่อนลดลงสู่ 219 ลบ. -24%YoY เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ทำให้คนเดินห้างสรรพสินค้าลดลง ตลอดจนมาตรการปิดพื้นที่เสี่ยงในช่วงต้นเดือน มี.ค. ทำให้มีราว 3 สาขา ปิดทำการชั่วคราว ส่งผลให้ SSSG ในงวดนี้หดตัว 28.8%YoY  สอดคล้องกับ %GPM ที่ลดลงสู่ระดับ 62.6% จากปีก่อนอยู่ที่ 65.5%

ความเห็น คาดแนวโน้ม 2Q63 ถูกกดดันต่อเนื่องจากจากมาตรการปิดพื้นที่เสี่ยงในห้างสรรพสินค้า แต่คาดหวังเชิงบวกจากมาตรการปลดล็อกกิจกรรมเฟส 2 ที่ให้ลูกค้ารับประทานอาหารภายในร้านได้ โดยทั้งปีเราคาดผลประกอบการทำได้มากสุดเพียงทรงตัวจากปีที่ผ่านมา และคาดหวังว่าผลประกอบการจะฟื้นตัวในช่วงครึ่งปีหลัง

(+) WHA Group ประกาศชัดไถ่ถอนหุ้นกู้แล้ว 5.1 พันล้านบาท แถมได้ดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิม ระบุทั้งกลุ่มเหลือหุ้นกู้ที่ต้องชำระคืนปีนี้อีกแค่ 4 พันล้านบาทเท่านั้น ชี้มีวงเงินสถาบันการเงินหนุนหลังนับหมื่นล้านไม่ต้องกังวล (ที่มาทันหุ้น)

(+) STC (ซื้อ ราคาเหมาะสม0.77) ประกาศงบ Q1/63 รายได้อยู่ที่ราว 131 ล้านบาท โตกว่า 21% เผยไม่หวั่นผลกระทบโควิด-19 หลังงานโครงการในมือเดินหน้าต่อเนื่อง ไม่มีสะดุด ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เกี่ยวข้องเริ่มฟื้นตัว เร่งจัดทัพทีมงานเดินหน้าแผนการผลิตและขาย หนุนรายได้ปีนี้โต 10% ตามเป้า(ที่มาทันหุ้น)

ความเห็น ฝ่ายวิจัยคาดว่าธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ติดต่องานภาครัฐในระดับจังหวัดจะได้รับผลกระทบน้อยเนื่องจากทางเมืองพัทยาได้รับการอนุมัติงบประมาณจากภาครัฐทำให้มีเงินในการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐานต่อเนื่อง โดยกำไร 1Q63 คิดเป็น 21% ของประมาณการ ทั้งนี้เราคาดว่าผลประกอบการจะเร่งตัวขึ้นครึ่งปีหลังจากการเร่งเบิกจ่ายของภาครัฐก่อนสิ้นสุดปีงบประมาณ

(+) SINGER (Bloomberg Consensus - บาท) กำไรไตรมาสแรก 87 ล้านบาท เพิ่ม 117% จากเครื่องใช้ไฟฟ้ายอดขายพุ่ง สินเชื่อเพิ่มจาก 3,600 ล้านบาทเป็น 3,900 ล้านบาท สุดปลื้ม NPL วูบเหลือ 8.1% คาดไตรมาส 2 มีโอกาสนิวไฮได้อีก (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) INSET (ราคาเหมาะสม 3.26 บาท)   ประกาศไตรมาส 1/63 มีกำไรสุทธิ 20 ล้าน โต 5% หลังบุ๊กรายได้แบ็กล็อก 204 ล้านบาท และโปรเจกต์ใหม่ 15 ล้านบาท จับตาครึ่งปีหลังลุยประมูลงานใหม่ อานิสงส์รัฐ-เอกชนเดินหน้าขยายลงทุน 5G มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10-15% (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+) EPG (Bloomberg Consensus 7.04 บาท) คาดผลงานไตรมาส 4 งวดปี 62/63 อานิสงส์ราคาน้ำมันลด ส่งผลราคาวัตถุดิบถูกลง รวมถึงเงินบาทอ่อนค่า ฟุ้งมีอัตรากำไรขั้นต้นโดยเฉลี่ยประมาณ 28-30% ได้ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ จาก 3 ธุรกิจ Aeroflex-Aeroklas-EPP (ที่มา ข่าวหุ้น)

(+/-) MTC (Bloomberg Consensus - บาท)  ประกาศพร้อมขยายธุรกิจต่อเนื่อง ไม่ห่วงเรื่องการคืนหนี้หุ้นกู้ 6 พันล้านบาทปีนี้ ชี้มีวงเงินเกิน 7 พันล้านบาท แต่พร้อมพิจารณาออกหุ้นกู้เบาๆ 3,000 ล้านบาท คาดต้นทุนดอกเบี้ยต่ำกว่าเดิมเหลือ 3-3.5% แต่รับต้องพิจารณารัฐบาลจะขายพันธบัตรด้วย ชี้บริษัทจะได้รับซอฟต์โลนด้วย 4-5 พันล้านบาท เก็งลดดอกเบี้ยนโยบาย (ที่มา ทันหุ้น)

(+) QTC (Bloomberg Consensus 49.09 บาทปรับกลยุทธ์ จับมือพันธมิตร LONGI Solar-Huawei ต่อยอดการจำหน่ายแผงโซลาร์เซลล์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวเนื่อง ล่าสุดประกาศรับตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ส่งสัญญาณประมูลงานราชการ มูลค่าไม่ต่ำกว่า 3 พันล้านบาท โชว์กำไรไตรมาส 1/2563 ที่ 30 ล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

MONO Conference Call (“Wait & See” ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 1.53)

งวด 1Q63 MONO ขาดทุนสุทธิ 390 ล้านบาท หากไม่รวมคชจ.จำนวน 121 ล้านบาทที่เกิดครั้งเดียวจากการปรับโครงสร้างองค์กรหยุดทำธุรกิจที่ไม่มีกำไรจะเหลือขาดทุน 269 ล้านบาท ทั้งนี้ช่อง MONO29 มีเรตติ้งในลำดับที่ 3 โดยมีเรตติ้งปรับขึ้นสู่ 1.274 จาก 1.037 ใน 1Q62 สมาชิกแพ็คเกจ “MonoMax”  มีจำนวน 378,000 ราย ณ สิ้น 1Q63 เพิ่มขึ้นจาก 33,000 บาท ณ สิ้นปี 62

ความเห็น คาดไตรมาสถัดไปผลการดำเนินงานจะดีขึ้นเนื่องจากไม่มีค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียวอีกและ MonoMax จะเริ่มคิดค่าบริการตั้งแต่เดือนเม.ย. การควบคุมคชจ. อย่างไรก็ดีคาดรายได้ค่าโฆษณายังเติบโตน้อยจากลูกค้าลดใช้งบโฆษณาและระงับกิจกรรมทางการตลาด  เราแนะนำ “Wait & See” เพื่อรอดูความชัดเจนและผลการดำเนินจะฟื้นตัวใน 2H63 ได้หรือไม่ 

(+) GLOBAL (Bloomberg Consensus 14.94 บาท)  เผยเริ่มกลับมาเปิดให้บริการ 2 ใน 3 จากจำนวนสาขาทั้งหมด เล็งทบทวนเป้าปีนี้ใหม่หลังความชัดเจนในเรื่องการเปิดดำเนินการสาขา ส่วนผลงานไตรมาส 1/2563 ดีกว่าคาดที่ 616 ล้านบาท เติบโต 14% จากการกระตุ้นการขายสินค้ากลุ่ม House Brand หนุนมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น พร้อมรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากสาขาโกลบอลเฮ้าส์ที่กัมพูชา (ที่มา ทันหุ้น)

(+) JWD (Bloomberg Consensus 8.80 บาท)  โดดรับคลายล็อกดาวน์ดันโลจิสติกส์ขยายยอดเช่าคลังหนุนผลงานครึ่งหลังฟื้น "ชวนินทร์ บัณฑิตกฤษดา" ย้ำรายได้ทั้งปีเข้าเป้า แถมเดินหน้าขายธุรกิจอาหารไต้หวันเปิดช่องรับทรัพย์ โบรกแนะซื้อ-เคาะเป้า 8 บาท (ที่มา ทันหุ้น)