แห่ทิ้งหุ้น 'การบิน' ตามบัฟเฟตต์ ฉุดราคา 'บินไทย-บีเอ-เอเอวี' ดิ่ง 5-6%

แห่ทิ้งหุ้น 'การบิน' ตามบัฟเฟตต์ ฉุดราคา 'บินไทย-บีเอ-เอเอวี' ดิ่ง 5-6%

หุ้น “สายการบิน” ในไทยร่วงตามทั่วโลกกว่า 5-6% หลัง “บัฟเฟตต์” สั่งล้างพอร์ตขายหุ้นสายการบินทั่วโลก ชี้อนาคตยังมืดมน บล.โนมูระ พัฒนสิน ประเมิน กลุ่มสายการบินปีนี้ ส่อขาดทุน 6.3 หมื่นล้าน เผย “บินไทย” หนักสุด 5.9 หมื่นล้านบาท

จากการประชุมผู้ถือหุ้นฉบับออนไลน์ของบริษัทการลงทุนยักษ์ใหญ่ 'เบิร์กเชียร์ แฮธาเวย์ (Berkshire Hathaway)' เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ที่ผ่านมา ซึ่งหนึ่งในประเด็นสำคัญที่ถูกหยิบยกขึ้นมาพูดกันภายหลังจากประชุมในครั้งนี้คือ การตัดสินใจเทขายหุ้นสายการบินออกไปรวมกันมากถึง 6.5 พันล้านเหรียญ หรือกว่า 2 แสนล้านบาท จากการเปิดเผยของผ่านปาฐกถาของ วอร์เรน บัฟเฟตต์ ผู้ถือหุ้นใหญ่และประธานฯ บริษัท

สำหรับเหตุผลที่ขายออกไปนั้น บัฟเฟตต์ เปิดเผยว่า เขาตัดสินใจผิดพลาด เนื่องจากธุรกิจสายการบินกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ และวอร์เรน บัฟเฟตต์เองก็มองภาพไม่ออกว่ามันจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร ภายหลังจากที่สถานการณ์ทุกอย่างคลี่คลายลง

เมื่อประเด็นในเรื่องของการเทขายหุ้นสายการบินถูกหยิบยกมาพูดเช่นนี้ หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐเปิดทำการในวันที่ 4 พ.ค. ที่ผ่านมา หุ้นสายการบินหลายบริษัทต่างถูกเทขายจนราคาหุ้นลดลงไปกว่า 10%

ในขณะที่หุ้นสายการบินในประเทศไทยหลังจากตลาดกลับมาเปิดทำการซื้อขายอีกครั้ง วานนี้ (5 พ.ค.) ต่างปรับตัวลดลง 5-6% จากวันทำการก่อนหน้า โดย บมจ.การบินไทย (THAI) ลดลง 6.12% บมจ.เอเชีย เอวิเอชั่น (AAV) ลดลง 5.35% บมจ.การบินกรุงเทพ (BA) ลดลง 5.08% และ บมจ.สายการบินนกแอร์ (NOK) ลดลง 0.85%  

นายดิษฐนพ วัธนเวคิน นักวิเคราะห์อาวุโส บล.โนมูระ พัฒนสิน เปิดเผยว่า ภาพรวมของหุ้นกลุ่มสายการบินเมื่อมองไปข้างหน้า มีแนวโน้มที่จะฟื้นตัวได้ช้ากว่าอุตสาหกรรมอื่น ๆ ภายหลังจากที่การแพร่ระบาดของโควิด-19 คลี่คลายลง เนื่องจากการเดินทางระหว่างประเทศน่าจะต้องใช้เวลาจนกว่าแต่ละประเทศพร้อมที่จะเปิดรับการเดินทางจากต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าจะต้องรอจนกว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรค

“แม้ว่าหลายประเทศจะเริ่มออกมาบอกว่าสามารถคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคได้แล้ว แต่กระบวนการทดสอบเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลา ทำให้กว่าจะใช้งานกันได้จริงก็อาจจะต้องรอไปจนถึงปีหน้า ขณะที่การเดินทางภายในประเทศ แม้จะเริ่มกลับมาให้บริการได้บ้างแล้ว แต่ภาพรวมยังมีมาตรการ Social distancing คอยเบรกอยู่ ซึ่งการให้บริการในขณะนี้ดูเหมือนจะเป็นเพียงแค่การสร้างกระแสเงินสดเข้ามาบ้าง เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายประจำที่ยังคงมีอยู่”

สำหรับแนวโน้มผลประกอบการของหุ้นสายการบินและสนามบิน 4 บริษัท ได้แก่ THAI, AAV,BA และ AOT ในปี 2563 คาดว่าจะมีผลขาดทุนรวม 6.3 หมื่นล้านบาท โดยหุ้นสายการบินคาดว่าจะขาดทุนทั้งหมด โดยคาด THAI ขาดทุน 5.9 หมื่นล้านบาท AAV ขาดทุน 3.8 พันล้านบาท BA ขาดทุน 3 พันล้านบาท ส่วน AOT คาดว่าจะมีกำไร 3.1 พันล้านบาท แต่ก็ลดลงเกือบ 90% จากปีก่อน

“ผลกระทบจากโควิด-19 จะเริ่มเห็นตั้งแต่ไตรมาสแรกนี้ ส่วนไตรมาส 2 น่าจะเป็นช่วงหนักที่สุดของปี เพราะการเดินทางในประเทศหยุดชะงัก 1 เดือนเต็ม ส่วนระหว่างประเทศน่าจะไม่มีเลยทั้งไตรมาส ซึ่งภาพรวมของไตรมาส 2 อาจจะแย่กว่าที่ประเมินกันไว้อีกด้วย โดยหุ้นอย่าง AOT ก็มีโอกาสจะพลิกเป็นขาดทุนครั้งแรกในรอบหลายปี ขณะที่การบินไทยช่วงครึ่งปีแรกน่าจะขาดทุนกว่า 3 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ส่วนของผู้ถือหุ้นจะพลิกเป็นติดลบ เพราะ ณ สิ้นปี 2562 ส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่เพียง 1.17 หมื่นล้านบาท”

ส่วนการฟื้นตัวของราคาหุ้นที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ น่าจะเป็นผลจากการคาดหวังว่าสถานการณ์โควิด-19 น่าจะผ่านจุดแย่สุดไปแล้ว แต่เมื่อมองไปในอนาคตจะเห็นว่าความเสี่ยงหลายอย่างยังมีอยู่ อาทิ ความเสี่ยงในเรื่องของสภาพคล่อง ซึ่งหลายบริษัทจำเป็นจะต้องหาแหล่งเงินทุนเข้ามาช่วยโดยเร็ว โดยภาพรวมการลงทุนในหุ้นกลุ่มนี้ยังไม่น่าสนใจนัก เพราะผลประกอบการมีโอกาสจะแย่กว่าคาดได้

ทั้งนี้ AOT ได้เปิดเผย การดำเนินงานด้านการจราจรทางอากาศ ใช่วงเดือน ม.ค. - มี.ค. 2563 ว่า มีผู้โดยสารใช้บริการท่าอากาศยาน 6 แห่ง รวมทั้งสิ้น 27 ล้านคน ลดลง 30.35% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแบ่งเป็นผู้โดยสารระหว่างประเทศ 15 ล้านคน ลดลง 35.5% และภายในประเทศ 12 ล้านคน ลดลง 22.7% สำหรับปริมาณเที่ยวบินผ่าน 6 ท่าอากาศยานของ AOT มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1.9 แสนเที่ยวบิน ลดลง 18.54%