ศบค. จ่อทบทวนคลายล็อกดาวน์ หากผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม

ศบค. จ่อทบทวนคลายล็อกดาวน์  หากผู้ติดเชื้อ 'โควิด-19' เพิ่ม

"นพ.ทวีศิลป์" แถลง "ศบค." จ่อทบทวนคลายล็อกดาวน์ หากมาตรการผ่อนคลาย 14 วัน พบตัวเลขผู้ติดเชื้อ "โควิด-19" เพิ่ม

เมื่อวันที่ 4 พ.ค. 63 นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงย้ำให้ประชาชนอย่าปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตช่วงของการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยขอให้ปฏิบัติตนใน 5 มาตรการที่ประกาศไปก่อนหน้านี้และยังไม่อนุญาตให้ผ่อนคลาย คือ ทำความสะอาดผิวสัมผัส, สวมหน้ากากอนามัย, ล้างมือ, เว้นระยะห่างทางสังคมและหลีกเลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่แออัดในพื้นที่สาธารณะ หลังจากที่เมื่อวันที่ 3 พ.ค. ซึ่งเป็นวันแรกของการผ่อนคลายมาตรการพบภาพข่าวและวิดีโอประชาชนแย่งซื้อสินค้าและไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่ประกาศไป ทั้งนี้ ศบค. ขอให้ประชาชนร่วมมือปฏิบัติตนตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ​เพื่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นศูนย์ต่อเนื่อง 2-3 สัปดาห์ เพื่อให้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติ ตามมาตรการผ่อนคลายสถานการณ์แต่ละขั้น

“หากมีชุดมาตรการผ่อนคลาย 14 วัน แต่ยังพบตัวเลขติดเชื้อมากขึ้น มาตรการคลายล็อกนั้นต้องถูกทบทวน และกลับไปใช้มาตรการบังคับ และมีข้อจำกัดจำนวนมาก ซึ่งผมขอความร่วมมือ ที่ต้องทำแบบนี้เพื่อไม่ให้มีใครป่วย หรือตายจากโรคนี้เหมือนต่างประเทศ​ แต่หากประชาชนให้ความร่วมมือระยะแรก 14 วัน มีผู้ติดเชื้อน้อย จะเพิ่มมาตรการคลายล็อกให้มากกว่านี้ ซึ่ง ศบค. จะเก็บข้อมูลและสถิติผู้ติดเชื้อ เช่นเดียวกับพฤติกรรมของประชาชน เพื่อกำหนดเป็นมาตรการผ่อนปรน ทั้งนี้ ผมขอให้ประชาชนและผู้ประกอบการร่วมมือกันด้วย” นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าว

นายแพทย์ทวีศิลป์ กล่าวตอบคำถามถึงการเปิดสถานเสริมความงามด้วยว่า คลินิคเสริมความงามยังมีความจำเป็นน้อยในช่วงนี้ เพราะต้องใช้เวลาทำกิจกรรมต่างๆ นาน