'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก' เตือน 'ทรัมป์' อย่าเร่งเปิดพื้นที่สาธารณะ

'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก' เตือน 'ทรัมป์' อย่าเร่งเปิดพื้นที่สาธารณะ

'มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก' เตือน 'ทรัมป์' อย่าเร่งเปิดพื้นที่สาธารณะ เนื่องจากอาจทำให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไม่หยุด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวกว่าที่คาดการณ์ไว้

ขณะที่สหรัฐ ยังคงเป็นประเทศที่มียอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ต้นตอโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก โดยนับจนถึงวันที่ 30 เม.ย. ยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐมีจำนวน 1,064,572 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิต มีจำนวนทั้งสิ้น 61,669 ราย หลายรัฐของสหรัฐเริ่มผ่อยคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่ประเด็นนี้ยังคงเป็นที่ถกเถียงในสหรัฐมีทั้งผู้เห็นด้วยและผู้ที่คัดค้านการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งหมายถึงการเปิดธุรกิจบางส่วนให้สามารถกลับมาดำเนินการได้ตามปกติ ภายใต้ข้อปฏิบัติต่างๆ เพื่อป้องกันการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ล่าสุด มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร(ซีอีโอ)เฟซบุ๊ค ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียชื่อดังของโลก เตือนไม่ให้เปิดพื้นที่สาธารณะเร็วเกินไป เนื่องจากอาจทำให้โรคโควิด-19 แพร่ระบาดไม่หยุด และส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในระยะยาวกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งถ้อยแถลงของซีอีโอเฟซบุ๊คมีขึ้นหลังบางรัฐในสหรัฐกำลังพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ธุรกิจที่ต้องปิดให้บริการเนื่องด้วยโควิด-19 กลับมาเปิดให้บริการอีกครั้งได้หรือไม่

ซัคเคอร์เบิร์ก บอกว่า ผลกระทบที่โควิด-19 มีต่อเฟซบุ๊คนั้นมีอยู่มาก และก่อให้เกิดต้นทุนทางสังคมอย่างใหญ่หลวง แต่การเปิดพื้นที่สาธารณะบางแห่งเร็วเกินไปทั้ง ๆ ที่โรคยังระบาดอยู่ จะทำให้โควิด-19 ระบาดไม่หยุด และส่งผลกระทบด้านลบต่อระบบสุขภาพและเศรษฐกิจในระยะยาว

วันเดียวกันนี้ เฟซบุ๊ค ได้เปิดเผยผลกำไรไตรมาส 1/2563 เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.90 พันล้านดอลลาร์ หรือ 1.71 ดอลลาร์ต่อหุ้น จาก 2.43 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.85 ดอลลาร์ต่อหุ้นในปีที่ผ่านมา ต่ำกว่าเล็กน้อยจากที่บรรดานักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้โดยเฉลี่ยที่ 1.74 ดอลลาร์ต่อหุ้น ส่วนรายได้ในไตรมาสแรกปีนี้ พุ่งขึ้น 18% สู่ระดับ 1.774 หมื่นล้านดอลลาร์ จาก 1.508 หมื่นล้านดอลลาร์ในปีที่ผ่านมา และสูงกว่าที่บรรดานักวิเคราะห์คาดไว้ที่ประมาณ 1.748 หมื่นล้านดอลลาร์

ด้านจำนวนผู้ใช้เฟซบุ๊ครายวัน เพิ่มขึ้น 11% สู่ระดับ 1.73 พันล้านคนโดยเฉลี่ยในเดือนมี.ค. ขณะที่ผู้ใช้งานรายเดือน เพิ่มขึ้น 10% สู่ 2.60 พันล้านคน

ส่วนรายได้ทั้งหมดจากการโฆษณา เพิ่มขึ้น 17% สู่ระดับ 1.744 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งการเปิดเผยผลประกอบการเพิ่มขึ้นนี้ หนุนให้ราคาหุ้นเฟซบุ๊ค พุ่งขึ้นกว่า 8% หลังปิดตลาดเมื่อคืนนี้ หลังจากที่เฟซบุ๊ค ยืนยันว่า รายได้จากการโฆษณายังคงมีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพต่อไป โดยธุรกิจโฆษณายังคงทรงตัวในช่วงสัปดาห์แรกๆ ของเดือนเม.ย. ท่ามกลางการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทั่วโลก

ส่วนสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในสหรัฐนั้น “อีริค การ์เซ็ตตี” นายกเทศมนตรีนครลอสแองเจลิส ระบุว่า นครลอสแองเจลิสเตรียมตรวจหาการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โดยไม่คิดค่าบริการให้กับพลเมืองทุกคนในพื้นที่ ไม่ว่าจะแสดงอาการหรือไม่ แต่ผู้ที่แสดงอาการนั้นจะได้รับสิทธิตรวจก่อน ซึ่งความเคลื่อนไหวนี้สะท้อนให้เห็นว่า นครลอสแองเจลิสเป็นเมืองแรกของสหรัฐที่ประกาศตรวจโควิด-19 ฟรีให้พลเมืองทุกคน โดยนครลอสแองเจลิสมีศักยภาพตรวจโควิด-19 ประมาณ 9% ของทั้งหมดในสหรัฐ

ทั้งนี้ สหรัฐ เริ่มเปิดพื้นที่บางส่วนแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์แนะให้เร่งการตรวจหาผู้ติดเชื้อและติดตามผู้สัมผัสผู้ติดเชื้อ และแยกคนเหล่านั้นเพื่อป้องกันไม่ให้แพร่เชื้อสู่ผู้อื่น ส่วนรัฐอื่นๆ มีการตรวจโควิด-19 เพิ่มขึ้น แต่ก็ยังมีชุดตรวจไม่พอ

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่านักโทษเกือบครึ่งหนึ่งของเรือนจำในภูมิภาคเซาท์เทิร์น แคลิฟอร์เนีย มีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ซึ่งถือเป็นเรือนจำที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 รุนแรงที่สุดในสหรัฐ โดยลอสแองเจลิส ไทมส์ รายงานอ้างอิงข้อมูลจากสำนักเรือนจำกลางของสหรัฐ(บีโอพี) ที่รายงานว่า มีนักโทษ 443 รายจากทั้งหมด 1,055 ราย และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์อีก 10 ราย ในทัณฑสถานเทอร์มินัล ไอส์แลนด์ ซึ่งตั้งอยู่ที่ชุมชนซานเปโดร ติดเชื้อไวรัสโคโรนา เมื่อนับถึงวันอังคาร (28 เม.ย.) โดยมีนักโทษเสียชีวิตจากอาการป่วยแทรกซ้อนที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 จำนวน 2 ราย

สหรัฐมีนักโทษในระบบเรือนจำกลางทั่วประเทศราว 153,000 คน ปัจจุบันตรวจพบนักโทษ 1,313 ราย และเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ 335 ราย ที่มีผลตรวจโรคโควิด-19 เป็นบวก และมีนักโทษเสียชีวิตจากอาการป่วยที่เกี่ยวกับโรคโควิด-19 แล้ว 30 ราย

ลอสแองเจลิส ไทมส์ รายงานว่า ทัณฑสถานได้ย้ายนักโทษหลายสิบรายไปพักอยู่ในเต็นท์เพื่อสร้างระยะห่างทางสังคม โดยกลุ่มนักโทษเล่าให้ครอบครัวของพวกเขาฟังว่าเรือนจำตั้งศูนย์การแพทย์ทหารบนลานกว้างที่มีการรักษาความปลอดภัยต่ำ เพื่อรับมือกับจำนวนผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

ส่วนซีบีเอสแอลเอ สถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น รายงานว่า ทัณฑสถานพบนักโทษมีผลตรวจโรคเป็นบวกเพียง 57 รายในสัปดาห์ก่อน แต่จำนวนกลับพุ่งสูงเกือบ 700% ในช่วงเวลาแค่ 7 วัน ส่วนเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ของทัณฑสถาน เผยว่า มีการตรวจโรคโควิด-19 ในนักโทษกว่า 1,000 ราย และดำเนินมาตรการหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรค รวมถึงแจกจ่ายหน้ากากอนามัยแก่นักโทษและเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ด้วย

เมื่อวันพุธ(29 เม.ย.)รัฐบาลสหรัฐพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ บนเรือพิฆาตยูเอสเอส คิดด์ของกองทัพเรือสหรัฐ จำนวน 64 ราย จากลูกเรือบนเรือดังกล่าวทั้งหมดประมาณ 300 ราย โดยล่าสุด เรือรบดังกล่าวได้จอดเทียบท่าที่ฐานทัพเรือแห่งหนึ่งในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย และได้มีการตรวจลูกเรือบนเรือพิฆาตยูเอสเอส คิดด์ไปแล้ว 63%

เรือพิฆาตยูเอสเอส คิดด์ เป็นเรือรบลำที่ 2 ของสหรัฐที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะปฏิบัติการอยู่ในทะเล โดยก่อนหน้านี้เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินยูเอสเอส ธีโอดอร์ รูสเวลท์