เช็คเลย 'หลักเกณฑ์ใหม่' เดินทางเที่ยวบินในประเทศ เริ่ม 1 พ.ค.นี้

เช็คเลย 'หลักเกณฑ์ใหม่' เดินทางเที่ยวบินในประเทศ เริ่ม 1 พ.ค.นี้

เปิดหลักเกณฑ์บริการเที่ยวบินในประเทศและข้อควรปฏิบัติสำหรับผู้โดยสาร มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้ ใครจะเดินทางด้วยเครื่องบินช่วงที่ยังมีโควิด-19 ระบาด ตรวจสอบข้อมูลได้ที่นี่!

วันนี้ (30 เม.ย.) เพจไทยคู่ฟ้า โพสต์ว่า ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (1 พ.ค. 63) กระทรวงคมนาคมจะเปิดเส้นทางการบินภายในประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชนที่จำเป็นต้องเดินทาง ในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังแพร่ระบาด โดยมีแนวทางดังนี้

ผู้ดำเนินการเดินอากาศ

(1) จำกัดจำนวนที่นั่งบนเครื่องบิน จัดที่นั่งโดยเว้นระยะห่างอย่างน้อย 1 ที่นั่ง ระหว่างผู้โดยสารแต่ละคน ยกเว้น
- สภาพทางกายภาพของที่นั่งส่วนใดส่วนหนี่งของเครื่องบิน มีระยะห่างเพียงพอที่จะป้องกันการติดต่อสัมผัส และการแพร่เชื้อโรค
- เป็นอากาศยานขนาดเล็กที่มีจำนวนที่นั่งทั้งหมด ไม่เกิน 19 ที่นั่ง และปฏิบัติการบินแบบเช่าเหมาลำ
- เป็นอากาศยานที่มีจำนวนที่นั่งทั้งหมด ไม่เกิน 90 ที่นั่ง โดยให้จำหน่ายบัตรโดยสารได้ไม่เกิน 70% ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด

(2) ถ้าสนามบินต้นทางไม่มีการตรวจคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการ
- ให้ตรวจวัดอุณหภูมิก่อนขึ้นเครื่อง และสังเกตอาการโดยทั่วไป ถ้าพบว่ามีอุณหภูมิสูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส หรือมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขในพื้นที่ทันที
- ถ้าเห็นว่ามีความเสี่ยง ให้งดการออกบัตรขึ้นเครื่องแก่ผู้โดยสารนั้น

(3) กำหนดให้รักษาระยะห่างของผู้โดยสารตลอดระยะเวลาเดินทาง
- การลำเลียงผู้โดยสารขึ้นและลงจากอากาศยาน ไม่ว่าจะดำเนินการด้วยการเดินเท้า การใช้รถบัสหรือสะพานเทียบอากาศยาน
- การรวมกลุ่มในขณะจัดเก็บสัมภาระในที่เก็บของเหนือศีรษะและการเข้าแถวรอใช้ห้องน้ำในห้องโดยสาร

(4) งดการให้บริการอาหารและเครื่องดื่มในระหว่างการปฏิบัติการบิน ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือจำเป็น อาจจัดน้ำดื่มให้บริการแก่ผู้โดยสารได้ แต่ต้องห่างจากผู้โดยสารคนอื่นให้มากที่สุด

(5) จัดเตรียมแอลกอฮอล์เจลไว้ให้บริการแก่ผู้โดยสารตามความเหมาะสม

(6) กำหนดให้ผู้ปฏิบัติหน้าที่ในเครื่องบินใช้อุปกรณ์ช่วยป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ดังนี้
- นักบินให้สวมหน้ากากอนามัยทางการแพทย์
- ลูกเรือให้สวมหน้ากากอนามัยและถุงมือยาง ตลอดระยะเวลาปฏิบัติการบิน และอาจใช้อุปกรณ์อื่นร่วมด้วยได้ เช่น แว่นตา อุปกรณ์ป้องกันใบหน้า หรือชุดป้องกันเชื้อโรค เป็นต้น
- จัดหาอุปกรณ์ทำความสะอาดชีวภาพ ให้เพียงพอและเหมาะสมในแต่ละเที่ยวบิน

(7) การบินที่ใช้เวลามากกว่า 90 นาที ให้สำรองที่นั่ง 2 แถวหลังสุดด้านใดด้านหนึ่งไว้ สำหรับแยกกักผู้โดยสารที่ป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วย เพื่อเฝ้าสังเกตอาการและป้องกันการแพร่กระจายของโรค

(8) กรณีที่พบผู้โดยสารหรือลูกเรือที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยเป็นโรคโควิด-19 ขณะอยู่บนเครื่องบิน ให้ดำเนินการดังนี้
- ให้แยกกักผู้ป่วยหรือผู้ที่สงสัยว่าจะป่วยนั่งที่ที่นั่งริมหน้าต่างด้านขวาแถวหลังสุด ให้ห่างไกลจากผู้โดยสารคนอื่นมากที่สุด
- ให้กันห้องน้ำห้องหลังสุดไว้ใช้สำหรับกรณีการกักกันโรคโดยเฉพาะ
- ให้มอบหมายลูกเรือคนหนึ่งทำหน้าที่ในพื้นที่แยกกัก และให้ลูกเรือที่ทำหน้าที่นั้น หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้ชิดกับลูกเรือคนอื่นในระยะใกล้กว่า 2 เมตร
- ให้นักบินแจ้งข้อมูลการตรวจพบผู้โดยสารหรือลูกเรือที่มีอาการป่วยหรือสงสัยว่าจะป่วยให้เจ้าหน้าที่ควบคุมการจราจรทางอากาศ เพื่อรายงานไปยังปลายทาง

(9) แจ้งเตือนผู้โดยสารเพื่อให้รับทราบและปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขก่อนเดินทาง และระหว่างการเดินทาง โดยเฉพาะการสวมหน้ากากอนามัยและอื่น ๆ

(10) ฆ่าเชื้อโรคในห้องโดยสาร หลังการบินทุกเที่ยวบิน

ผู้ดำเนินการสนามบิน

(1) ตรวจคัดกรองบุคคลที่เข้ามาใช้บริการในสนามบิน
- ตรวจสอบการสวมหน้ากากอนามัย
- ตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย
- ถ้าบุคคลนั้นไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือวัดอุณหภูมิได้สูงกว่า 37.3 องศาเซลเซียส ให้ปฏิเสธการให้เข้าพื้นที่สนามบิน

(2) จัดการเว้นระยะนั่งหรือยืนห่างกันอย่างน้อย 1 เมตรในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น พื้นที่ออกบัตรขึ้นเครื่อง พื้นที่ที่ผู้โดยสารรอขึ้นเครื่อง

ผู้โดยสาร

(1) สวมหน้ากากอนามัย ตลอดเวลาตั้งแต่ขึ้นเครื่องจนกว่าจะออกจากเครื่อง
- ระหว่างออกบัตรขึ้นเครื่อง ถ้าผู้โดยสารไม่มีหน้ากากอนามัย และไม่สามารถจัดหามาแสดงได้ จะถูกงดการออกบัตรขึ้นเครื่องให้

(2) ห้ามรับประทานอาหารและเครื่องดื่มที่นำติดตัวมาบนเครื่องบิน

*ขอให้ผู้โดยสารติดต่อกับทางสายการบินที่จะใช้บริการโดยตรง เพราะบางสายการบินอาจจะยังไม่เปิดให้บริการ

158824408721