เปิดประวัติ! ปากกา ‘แลนเซอร์’ หลังประกาศ 'ปิดชั่วคราว' เซ่นพิษโควิด

เปิดประวัติ! ปากกา ‘แลนเซอร์’ หลังประกาศ 'ปิดชั่วคราว' เซ่นพิษโควิด

ย้อนตำนาน "ปากกาแลนเซอร์"​ หลัง บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ “ปิดกิจการชั่วคราว” หลังขายสินค้าไม่ได้ เพราะคู่ค้าปิดร้านตามคำสั่งรัฐ ยังไม่รู้อนาคตจะได้กลับมาเปิดอีกหรือไม่!

วันนี้ (27 เม..) บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ DTCI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ปิดกิจการชั่วคราวโดยให้เหตุผลว่า ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดต่อไวรัสโคโรน่า หรือ “โควิด-19” ได้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อการดำเนินกิจการของบริษัท คือ ไม่มีรายการสั่งซื้อจากลูกค้าที่เคยสั่งซื้อ และทางบริษัทไม่สามารถจัดส่งสินค้าไปยังลูกค้าได้ เนื่องจากลูกค้าซึ่งเป็นร้านค้าต่างๆ ล้วนต้องปิดร้านตามคำสั่งของภาครัฐ และยังไม่อาจทราบได้ว่า จะกลับมาเปิดดำเนินการได้เมื่อไหร่

เพื่อเป็นการลดผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าวนั้น บริษัท บริษัท ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ จำกัด (มหาชน) จึงได้ประกาศปิดกิจการชั่วคราว ตั้งแต่วันที่ 24 เมษายน 2563 เป็นต้นไป และจะเปิดดำเนินการต่อไปเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น

158800013541

สำหรับประวัติ บมจ. ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2506 จดทะเบียนเป็น บริษัทจำกัดเมื่อเดือนธันวาคม 2514 และแปลงสภาพเป็นบริษัทมหาชน เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2537 บริษัทฯ ประกอบกิจการในประเทศไทย โดยประกอบธุรกิจในด้านอุตสาหกรรมผลิตสินค้าเครื่องเขียนประเภทปากกาลูกลื่น ปากกาเคมี ยางลบ ดินสอ แท่นประทับตรา และผลิตภัณฑ์อื่น ที่เกี่ยวข้องอย่างครบวงจร เพื่อจำหน่ายสินค้าทั้งในประเทศและส่งออก ขายในต่างประเทศ

ทั้งนี้ บริษัทได้ผลิตสินค้าเครื่องเขียนเพื่อจัดจำหน่ายภายใต้หลายเครื่องหมายการค้า อาทิ LANCER, CANDY, CHEETAH, CLASSMATE และ GOLDMEDAL เป็นต้น

ทั้งนี้ ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ ก่อตั้งขึ้นโดยเริ่มต้นจากการดำเนินกิจการนำเข้าและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปากกาลูกลื่นจากยุโรป หลังจากนั้นได้พยายามพัฒนาสินค้าของตัวเองจนสามารถผลิตปากกาลูกลื่นข้ึนได้เองเป็นรายแรกในประเทศไทย เมื่อปี 2514 โดยผลิตตัวด้าม ปากกา ไส้ปากกา และหัวปากกาจากการคิดสร้างสรรค์แบบผลิตภัณฑ์ ประดิษฐ์แม่พิมพ์ข้ึนผลิตสินค้าเองจนครบวงจร และได้จดสิทธิบัตรการออกแบบผลิตภัณฑ์ ของสินค้าปากกาไว้หลายแบบด้วยกัน ทั้งที่เป็นสิทธิบัตรไทย และสิทธิบัตรของประเทศต่างๆ ท่ัวโลก และเครื่องหมายการค้าไว้กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ โดยเฉพาะเครื่องหมายการค้า คำว่า “LANCER” ที่คุ้นหูกัน

158800436617

ในยุคหนึ่ง แบรนด์ปากกา "แลนเซอร์" ถือว่า ติดตลาดอย่างมาก เห็นได้จากผลวิจัยโดย สถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เมื่อสิงหาคม 2550  (อ้างอิงจากรายงานประจำปี 2561 ของ DTCI)  ที่ได้สำรวจกลุ่มตัวอย่าง 1,200 คน พบว่า "ทั้งหมด" ต่างก็รู้จักปากกายี่ห้อแลนเซอร์ โดยมีการรับรู้ "ตราสินค้า" ของปากกาแลนเซอร์ พบว่ามีถึงร้อยละ 96.1 ที่รู้จักตราสินค้าของปากกายี่ห้อนี้

แต่เมื่อเวลาผ่านไป บริษัทฯ ยอมรับว่า ได้รับผลกระทบจากสภาพการณ์ที่เปลี่ยนไปของยุคสมัย โดยเฉพาะการเรียนรู้รูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อยอดขายปากกาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ ตลาดปากกาลูกลื่นท้ังภายในประเทศและต่างประเทศ ยังมีสภาพการแข่งขันสูงข้ึนมาก ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลเรื่องการลดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าสาเร็จรูปให้เหลือเพียง 5% และ 0% จึงเป็นช่องทางให้คู่แข่งมีการนำเข้าปากกาจากประเทศจีน ซึ่งมีรูปแบบปากกาที่มีความหลากหลาย สีสันสวยงามมาจำหน่ายในราคาถูกกว่า จึงนำมาสู่ความพยายามปรับตัวของ ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิต รวมถึงลดต้นทุน ลดปริมาณของเสียระหว่างการผลิตให้ได้มากที่สุด

โดยผลประกอบการ 5 ปีล่าสุด (2557-2561) ที่บริษัทฯ แจ้งไว้กับตลาดหลักทรัพย์ "ไม่มีปีไหนที่ขาดทุนเลย" โดยในปีล่าสุด คือ 2561 ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์ มีรายได้รวม 223 ล้านบาท กำไรราว 18 ล้านบาทเศษ

ขณะที่ปี 2560 มีรายได้รวม 240 ล้านบาท มีกำไร 25 ล้านบาท ปี 2559 มีรายได้รวม 232 ล้านบาท ทำกำไรได้ 30 ล้านบาท ส่วนปี 2558 มีรายได้รวม 247 ล้านบาท มีกำไร 17.7 ล้านบาท และปี 2557 มีรายได้รวม 238 ล้านบาท มีกำไรราว 3 ล้านบาทเศษ

158800490116

ที่มา : รายงานประจำปี 2561 บมจ. ดี.ที.ซี.อินดัสตรี่ส์

สำหรับวิกฤติในแง่การตลาด จากรายงานประจำปี 2561 บริษัทฯ​ได้อธิบายถึงการจัดจำหน่ายสินค้าไว้ว่า บริษัทฯ ไม่มีลูกค้ารายใหญ่ที่รับซื้อสินค้าไปจำหน่ายที่มีเกินร้อยละ 30 ของยอดขายรวมแม้แต่รายเดียว แต่มีลูกค้ากระจายไปทั้งในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดต่างๆ ท่ัวประเทศ” ดังนั้น เมื่อต้องพบกับคำสั่งปิดห้างร้านต่างๆ ตามประกาศ ...ฉุกเฉิน เพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้ จึงไม่น่าแปลกใจ ที่ปากกาแลนเซอร์ในตำนาน และในความทรงจำของใครหลายๆ คนจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจนถึงขั้นต้องปิดกิจการชั่วคราวเช่นนี้!