ลุ้น Rebound
สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีปรับตัวลงเล็กน้อยราว 7.62 จุด หรือ -0.6% แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ภายในประเทศจะมีแนวโน้มดีขึ้น
อย่างไรก็ดี ดัชนีถูกกดันจากกลุ่ม ENERG หลังราคาน้ำมันโลกร่วงกว่า 32% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับ WHO ออกมาประกาศว่ายา Remdesivir ยังไม่มีประสิทธิภาพในการรักษาโควิด-19 ขณะที่วันศุกร์ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,258.78 จุด (-13.75 จุด) Volume 6.9 หมื่นลบ. ต่างชาติ -3,156.04 ลบ. TFEX Net -1,602 สัญญา ตราสารหนี้ -83 ลบ.
ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ
+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 260.01 จุด +1.11% ขานรับสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ในบางรัฐ สัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนีดาวโจนส์ -1.9% ดัชนี S&P500 -1.3% และดัชนี Nasdaq -0.2%
+ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวก 44 เซนต์ +2.7% ปิดที่ 16.94 ดอลลาร์/บาร์เรล จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐลดลง และประเทศในกลุ่มโอเปกพลัสเริ่มปรับลดการผลิตน้ำมัน ในรอบสัปดาห์น้ำมัน WTI -32.3% น้ำมันเบรนท์ -23.7%
+มนูชินรมว.คลังสหรัฐมั่นใจศก.สหรัฐฟื้นตัวใน Q3 หลังเปิดศก.ในเดือนพ.ค. มิ.ย.
+27 เม.ย. ศบค.เผยพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ 15 ราย สะสม 2,922 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม สะสม 51 ราย คาดจะเห็นการผ่อนคลายมาตรการ lockdown ในไทยเร็ว ๆ นี้
-สหรัฐยืนยันตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) สินค้าไทยเริ่ม 25 เม.ย.63 ซึ่งกระทบการส่งออกสินค้าไทยไปสหรัฐ 573 รายการ ทำให้ผู้ส่งออกไทยต้องเสียภาษีเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 4-5% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,500-1,800 ล้านบาท
+/-ธนาคารกลางรัสเซียประกาศปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% เหลือ 5.50% รับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
+ทองคำปรับตัวลงจากแรงขานในสินทรัพย์ปลอดภัยและเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยง
-ดัชนีนิกเกอิปิด -167.44 จุด -0.86% เช้านี้เปิด +148.84 จุด ตามทิศทางดาวโจนส์
-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต -29.97 จุด - 1.06% เช้านี้เปิด +3.71 จุดจากแรงช้อนซื้อ
-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 1.59 แสนลบ. ค่าเงินบาท 32.45 บาท/US
**จับตานายกฯประชุมศบค. จะมีการเสนอมาตราผ่อนปรนเปิดบริการในบางกิจการได้ ญี่ปุ่นมีการประชุม BOJ ออกมาตรการลดผลกระทบโควิด-19 สหรัฐเผยดัชนีการผลิตเดือนเม.ย. ส่วนจีนเผยกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนมี.ค.
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย
คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นตามทิศทางตลาดภูมิภาค หลังบังคับใช้มาตรการเยียวยาธุรกิจขนาดเล็กและโรงพยาบาลที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 วงเงิน 4.84 แสนล้านดอลลาร์ ประกอบกับแรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ที่ปรับตัวขึ้นหลังประเทศในกลุ่มโอเปกพลัสเริ่มปรับลดการผลิต คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,270 จุด
หุ้นรายงานพิเศษ
เราคาดว่าตลาดหุ้นไทยจะทยอยฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 3 เป็นต้นไป หุ้นที่น่าสนใจลงทุน ได้แก่
1) หุ้นกลุ่มท่องเที่ยว (AOT MINT ERW CENTEL) หากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ดีขึ้น น่าจะทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทยอยกลับเข้าประเทศไทย
2) หุ้นกลุ่มโรงกลั่น (TOP SPRC PTTGC) ผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในช่วงไตรมาส 1 ประกอบกับไม่มีผลขาดทุนจาก Stock Loss
3) หุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ (KCE HANA DELTA) กลับมาเร่งผลิตสินค้าต่างเพื่อเติม Stock สินค้าที่ลดลงอย่างมาก หลังจากหยุดผลิตในช่วงของการแพร่ระบาดของโควิด-19
กลยุทธ์การลงทุน
- หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
- หุ้นได้ประโยชน์จากการ Work from home (ADVANC INTUCH DTAC TRUE JAS JASIF DIF COM7 SIS SYNEX)
- หุ้นที่ได้ประโยชน์หากมีการทยอยปลด Lockdown (BTS BTSGIF BEM CRC MC AU)
- หุ้น mai ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลดลงอยู่ในธุรกิจขนส่ง (ATP30 VL SONIC AMA KIAT)
ส่องหุ้น
CENTEL แนวรับ 21.30 บาท แนวต้าน 22.50 บาท
MC แนวรับ 8.55 บาท แนวต้าน 8.85 , 9.00 บาท
FVC แนวรับ 0.35 บาท แนวต้าน 0.40-0.42 , 0.45 บาท
หุ้นมีข่าว
· (+) JMART (Bloomberg Consensus 12.31 บาท) เปิดทาง “KB Kookmin Card” บริษัทลูก “KB Financial Group” แบงก์ยักษ์เกาหลี ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนใน “เจ ฟินเทค” ส่งผลถือหุ้นรวม 50.99% ประกาศลั่น! พร้อมลุยตลาดสินเชื่อบุคคลทุกรูปแบบ ทั้งบัตรเครดิต สินเชื่อเงินสด สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และอื่นๆ ในช่องทางดิจิทัล หวังสร้างอาณาจักร เจ ฟินเทค ให้ใหญ่กว่า KTC AEONTS MTC และ SAWAD ด้านเจมาร์ท ได้รับหนี้คืน 3 พันล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอีกกว่า 100 ล้านบาท บันทึกในปีนี้ (ที่มาข่าวหุ้น)
· (+/-) THAI (Bloomberg Consensus 3.99 บาท) ดีเดย์ 29 เม.ย.นี้ “ประยุทธ์” นั่งหัวโต๊ะประชุมคนร.ชี้ชะตา THAI เป็นรัฐวิสาหกิจต่อหรือพ้นสภาพ ขณะที่ “สมคิด” มั่นใจแนวทางฟื้นฟูพร้อมเสนอ ฟาก “ศักดิ์สยาม” แย้มมีหลายแนวทางทั้งระยะสั้นและยาว ด้านคลังเตรียมทยอยกู้เติมสภาพคล่องบินไทยกลาง พ.ค.นี้ ก่อนเกณฑ์รัฐวิสาหกิจเข้าร่วมเพิ่มทุน 7-8 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
· (+) PLANB (Bloomberg Consensus 5.37 บาท) ชนะประมูลป้ายรถเมล์อัจฉริยะ Smart bus shelter จากสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพฯ คว้าสิทธิ์สร้างและบำรุงรักษาศาลาที่พักผู้โดยสารรถประจำทางอัจฉริยะทั่วกทม.รวม 691 ศาลา พร้อมบริหารจัดการพื้นที่สื่อโฆษณาป้ายกล่องไฟ 1,170 จุด งบลงทุน 400 ล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)
· (+) AAV (Bloomberg Consensus 2.24 บาท) ประเดิมรายแรก แจ้ง 1 พ.ค.นี้ กลับมาบินเส้นทางภายในประเทศไม่ต่ำกว่า 10 เส้นทาง พร้อมจำหน่ายตั๋วเว้นที่นั่ง แถมคุมเข้มการเดินทางตามมาตรการป้องกันไวรัส COVID-19 (ที่มา ข่าวหุ้น)
· (+) BEAUTY (Bloomberg Consensus 2.19 บาท) "หมอสุวิน" ถอดรหัสแนวคิด BEAUTY สู่ค้าปลีกยุคใหม่ ไร้ข้อจำกัดด้านเวลา พนักงานขายได้ตลอด วางหมากประสานออฟไลน์-ออนไลน์ลงตัว เพิ่มประสิทธิภาพ เผยใช้จุดเด่นออนไลน์ดึงผู้บริโภคเข้าร้านออฟไลน์ เพื่อเลือกซื้อสินค้าเพิ่มเติม รับปีนี้ได้รับผลกระทบโควิด-19 แต่สถานะการเงินยังแกร่ง (ที่มา ทันหุ้น)
· (+) III (Bloomberg Consensus 5.10 บาท) ปรับโมเดลธุรกิจสู้โควิด-19 เร่งเครื่องขยายตลาดออนไลน์ผสานระบบอีโลจิสติกส์และ อี-คอมเมิร์ซ คาดชัดเจนไตรมาส 3/63 รุกบริการเช่าเหมาลำพร้อมเดินหน้าควบรวม-ร่วมทุนเสริมอนาคต (ที่มา ทันหุ้น)
· (+) SKE (Bloomberg Consensus - บาท) แย้มครึ่งแรกปี 2563 ฟอร์มสวย เก็บเกี่ยวโรงไฟฟ้าแม่กระทิง พร้อมยืนเป้าปี 2563 รายได้โต 50% จากปีก่อน อานิสงส์รับรู้รายได้ขายไฟเต็มปี แถมเดินหน้าขยายฐานรูฟท็อปอัพกำลังผลิตไฟฟ้าเพิ่ม (ที่มา ทันหุ้น)
· (+) WP (Bloomberg Consensus - บาท) ไฟเขียวปันผลระหว่างกาล 0.05 บาท ขึ้นป้าย XD วันที่ 7 พ.ค.นี้ พร้อมลุ้นคลายล็อกดาวน์ หนุนดีมานด์ LPG ฟื้นตัว ทุ่มงบ 350 ล้านบาท เพิ่มจุดกระจายสินค้า-ลงทุนถังก๊าซ สยายปีกรับทรัพย์ปูทางโกยเงินระยะยาว แถมเพิ่มทุนบริษัทย่อยรองรับธุรกิจร้านอาหารเพิ่ม (ที่มา ทั นหุ้น)
· บริษัท ซิโนเปค ซึ่งเป็นบริษัทพลังงานรายใหญ่ของจีน อยู่ในระหว่างการเจรจาในเบื้องต้น เพื่อซื้อหุ้นในบริษัท Hin Leong Trading ซึ่งเป็น Trading น้ำมันรายใหญ่ของสิงคโปร์ (ที่มา อินโฟเควสท์)
ความเห็น เราคาดว่าการล้มละลายของ Hin leong Trading จะไม่ส่งผลกระทบต่อการซื้อขายน้ำมันในสิงคโปร์เนื่องจาก บริษัท ซิโนเปค จากจีนสนใจที่จะเข้าถือหุ้นในบริษัทดังกล่าว ซึ่งส่งผลให้บริษัทสามารถดำเนินธุรกิจได้ต่อเนื่อง ทั้งนี้เราคาดว่าการล้มละลายของ Hin leong จะไม่ส่งผลกระทบต่อการบริษัทน้ำมันในไทยเนื่องจากส่วนใหญ่สั่งน้ำมันตรงจากตะวันออกกลาง