ทำไม 'ทรัมป์' อยากคลายล็อคดาวน์ ท่ามกลางวิกฤติโควิด?

ทำไม 'ทรัมป์' อยากคลายล็อคดาวน์ ท่ามกลางวิกฤติโควิด?

ไม่กี่วันที่ผ่านมา ชาวอเมริกันในหลายเมืองลุกฮือประท้วงมาตรการล็อคดาวน์ของรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับจุดยืนของ "โดนัลด์ ทรัมป์" ผู้นำสหรัฐ แล้วเหตุใดแม้แต่ทรัมป์ถึงอยากคลายล็อคดาวน์?

สำนักข่าวเอบีซีนิวส์ ออสเตรเลียระบุว่า เพียงไม่กี่เดือนหลังจากทางการสหรัฐรายงานผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) รายแรก สหรัฐก็กลายมาเป็นศูนย์กลางของโรคระบาดนี้ไปเรียบร้อย

เวลานี้ สหรัฐถือว่ามีผู้ป่วยโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 740,000 ราย และผู้เสียชีวิตกว่า 41,000 ราย (ณ วันที่ 20 เมษายน)

เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว มีชาวอเมริกันถึง 4,591 รายที่เสียชีวิตภายในวันเดียว ซึ่งเป็นจำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคโควิดมากที่สุดในหนึ่งวัน

แม้ประเทศจะอยู่ท่ามกลางวิกฤติ แต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับพูดเรื่องการเปิดทำการสถานที่ต่างๆ ของอเมริกาอีกครั้งในวันที่ 1 พ.ค. นี้

..ผู้ประท้วงกำลังเรียกร้องอะไร และเมื่อไหร่ที่สหรัฐจะเริ่มฟื้น? ต่อไปนี้ คือสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่สหรัฐ

 

  • อเมริกาติดเชื้อโควิดทุกรัฐ?

ถูกต้อง, การติดเชื้อไวรัสโคโรน่าระดับชุมชนของอเมริกาเริ่มต้นราวเดือนกุมภาพันธ์ และพอถึงกลางเดือนมีนาคม ทั้ง 50 รัฐของสหรัฐฯ โคลัมเบีย และอีก 4 เขตฯ พิเศษก็ติดเชื้อไปด้วย

ในอาทิตย์นี้ ที่คนอเมริกันกว่า 2,500 รายกำลังจะตายจากโควิด-19 ประธานาธิบดีทรัมป์กลับออกแผนผ่อนคลายมาตราการล็อคดาวน์

การระบาดยังเพิ่มขึ้นทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ที่รัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีประชากรหนาแน่นอันดับ 4 ของประเทศ และเป็นศูนย์กลางของการระบาดในเวลานี้ มีผู้ป่วยกว่า 236,000 รายและมีผู้เสียชีวิตกว่า 17,000 ราย

ในโรงพยาบาลต่างๆ มีการรายงานเคสใหม่ๆเกือบ 2,000 รายในแต่ละวัน

ที่รัฐนิวเจอร์ซีย์ที่อยู่ใกล้เคียง มีการรายงานจำนวนผู้ป่วยกว่า 81,000 ราย และผู้เสียชีวิตถึง 4,000 ราย ในขณะที่รัฐแมสซาชูเซตส์ เพนซิลเวเนีย แคลิฟอร์เนีย ต่างมีผู้ป่วยกว่า 30,000 ราย

ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมโรคติดต่อของสหรัฐ (CDC) จำนวนผู้เสียชีวิตน่าจะถูกรายงานในอีกหลายรัฐ

“รายงานผู้เสียชีวิตอาจต่ำกว่าความเป็นจริง เพราะการติดตามเคสไม่สมบูรณ์ครบถ้วน และมีรายที่เสียชีวิตที่ไม่ได้มีการตรวจวินิจฉัยโรคโควิด-19 ด้วย” รายงานระบุ

  • แล้วผู้ประท้วงกำลังเรียกร้องอะไร?

ผู้ว่าการรัฐที่มีอำนาจในการสั่งล็อกดาวน์ในเวลานี้กำลังเผชิญกับการประท้วงมากขึ้นทุกขณะ ในขณะที่มาตรการที่เข้มงวดกำลังทำให้เศรษฐกิจต้องชะงัก ผู้ประท้วงจำนวนมากกำลังเรียกร้องให้มีการยกเลิกมาตรการที่เข้มงวดเหล่านั้นโดยทันทีและให้ธุรกิจต่างๆ เปิดทำการ

การประท้วงล่าสุดเกิดขึ้นในรัฐเท็กซัส อินดีแอนา วิสคอนซิน แคโรไลนา เคนตักกี เวอร์จิเนีย มิชิแกน มินิโซตา และไอดาโฮ ตลอดช่วงอาทิตย์ที่ผ่านมา

ดูเหมือนว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ จะสนับสนุนผู้ประท้วงเหล่านี้ผ่านทวิตเตอร์ โดยเรียกร้องให้พวกเขา "ปลดปล่อย" มิชิแกน มินิโซตา และเวอร์จิเนีย ซึ่งทั้งหมดบริหารโดยผู้ว่าฯ จากพรรคเดโมแครต

ฐานเสียงของเดโมแครตในเขตเมืองที่หนาแน่นอย่างเมืองซีแอตเทิลและดีทรอยต์ต่างได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาด ในขณะที่เขตชนบทที่เป็นฐานเสียงรีพับลิกันก็ประสบกับปัญหาเศรษฐกิจ แต่มีเคสน้อยกว่า

แต่การประท้วงก็ได้เกิดขึ้นในรัฐที่เป็นฐานเสียงของรีพับลิกันเช่นกัน รวมทั้งเทกซัส และหน้าบ้านผู้ว่าการรัฐอินดีแอนาเองด้วย

ชาวเทกซัส ตะโกนว่า "ให้เราทำงานเถอะ" ซึ่งเทกซัสเป็นรัฐที่มีคนมากกว่า 1 ล้านคนที่ลงทะเบียนว่างงานตั้งแต่วิกฤติเริ่มเกิด

การประท้วงในเมืองออสตินถูกจัดตั้งโดยกลุ่มอินโฟวอร์ส (Infowars) ซึ่งตั้งโดย อเล็กซ์ โจนส์ นักทฤษฎีสมคบคิด

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวว่า ความสามารถในการตรวจและค้นหาคนที่ติดเชื้อเป็นสิ่งสำคัญก่อนที่จะมีการผ่อนคลายมาตรการที่เข้มงวด และระบาดอาจกลับมาได้อีกครั้งถ้าคนไม่ระมัดระวัง

  • ทุกรัฐในสหรัฐถูกล็อคดาวน์?

ทั้งนี้ มาตรการที่เข้มงวดมีความแตกต่างกันไปในรัฐต่างๆ ทั่วสหรัฐ อาทิ รัฐส่วนใหญ่ห้ามการวมตัวกันของคนเกินสิบคนขึ้นไป ในแคลิฟอร์เนีย หรือนิวยอร์ก ประชาชนจะสามารถออกจากบ้านได้เท่าที่จำเป็นหรือเพื่อไปทำงานเท่านั้น

ร้านอาหารหรือบาร์ต่างถูกปิดไปและเปิดแค่ให้ซื้อกลับบ้าน โดยส่วนใหญ่ของประเทศเกือบทุกรัฐ ต่างปิดโรงเรียนตั้งแต่มีนาคม และมีเป็นจำนวนมากที่จะปิดไปจนถึงพฤษภาคม

กาวิน นิวซัม ผู้ว่าการของแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า โรงเรียนที่นั่นจะไม่เปิดไปจนจบภาคเรียนซึ่งตกในราวเดือนมิถุนายน

อย่างไรก็ตาม รัฐนอร์ทดาโกตา และในเนบราสกา ไอโอวา หรืออาร์คันซอ กลับมีมาตรการที่เข้มงวดน้อยมากหรือไม่มีเลย

ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศเมื่อวันหยุดที่ผ่านมาเทกซัสกับเวอร์มอนต์ ซึ่งต่างมีผู้ว่าฯรีพับลิกัน จะอนุญาตให้ธุรกิจบางประเภทเปิดกิจการได้ในไม่ช้า ในขณะที่ยังจะดำเนินมาตรการเฝ้าระวังโควิดอยู่

เป็นครั้งแรกในหลายสัปดาห์ที่ประชาชนสามารถไปเดินชายหาดบางที่ได้ในฟลอริดา แต่ยังถูกกำหนดเรื่องเวลาและอนุญาตให้ทำได้แค่บางกิจกรรรม

ในรัฐอื่นๆ กำลังพิจารณาการเปลี่ยนผ่านไปสู่การคลายล็อคดาวน์ในไม่กี่สัปดาห์ที่จะถึงนี้

"มอนทานาจะยกเลิกมาตรการที่เข้มงวดในวันศุกร์นี้ โอไฮโอ นอร์ทดาโกตา และไอดาโฮกำลังให้คำแนะนำแก่ธุรกิจทั่วไปให้เตรียมเปิดกิจการเป็นระยะ แต่เริ่มวันที่ 1 พฤษภาคมนี้" ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าว

แกรี เฮอร์เบิร์ต ผู้ว่าการรัฐยูทาห์ กล่าวว่า จะเริ่มเปิดร้านอาหารและยิมในรัฐ ในช่วงต้นพฤษภาคมนี้

  • จะเริ่มฟื้นกันได้เมื่อไหร่?

ยังไม่มีความแน่ชัด หลายรัฐเริ่มผ่อนคลายมาตรการและเปิดกิจการต่างกันไป

จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐ ชาวอเมริกันกว่า 22 ล้านคนขึ้นทะเบียนคนว่างงานในช่วง 4 อาทิตย์จนถึงวันที่ 11 เมษายน นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่า เศรษฐกิจชะลอตัวยากที่จะหลีกเลี่ยง

ประธานาธิบดีทรัมป์กระตือรือร้นอย่างมากที่จะเปิดกิจการต่างๆ ให้เร็วที่สัดเท่าที่เป็นไปได้ โดยเขาได้ออกแผนเปิดอเมริกาอีกครั้งเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว (three-phase Opening Up America Again)

เขากล่าวว่า บางรัฐ อย่างมอนทานา ไวโอมิงหรือนอร์ทดาโกตา สามารถเริ่มเดินหน้าเข้าสู่ระยะที่ 1 ได้ “ในวันพรุ่งนี้ด้วยซ้ำเพราะพวกเขาเป็นไปตามคำแนะนำทุกประการ”

ผู้เชี่ยวชาญทางระบาดวิทยา แอนโทนี เฟาซี ผู้ประสานงานหน่วยเฉพาะกิจโควิด เดบรา เบริกส์ และ โรเบิร์ต เรดฟิลด์ ผู้อำนวยการของ CDC ต่างสนับสนุนแผนนี้

ฟอกซ์นิวส์ รายงานว่า ลูกสาวของทรัมป์ อิวานกา และลูกเขย จาเร็ด คุชเนอร์ จะร่วมในคณะนี้ด้วยเพื่อนำการฟื้นฟูฯ ร่วมกับคณะรัฐมนตรีของเขา

“เมื่อใครคนหนึ่งเป็นประธานาธิบดีของสหรัฐ เขามีอำนาจมากที่สุด” ประธานาธิบดีทรัมป์อ้างช่วงต้นเดือนนี้ หลังมีประเด็นกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐ โดยอ้างถึงอำนาจประธานาธิบดีที่เหนือกว่าและสามารถผ่อนคลายมาตรการเข้มงวดได้

แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายหลายคนท้าทายคำพูดนี้ โดยกล่าวว่าภายใต้ระบบสาธารณรัฐ ท้ายที่สุดมันขึ้นอยู่กับผู้ว่าการรรัฐที่จะเป็นผู้กำหนดว่าจะยกเลิกมาตรการต่างๆ เมื่อไหร่และอย่างไร

ประธานาบดีสหรัฐ ตอนหลังจึงเสียงอ่อนลง โดยกล่าวว่า “พวกเขา (ผู้ว่าการรัฐ) สามารถกำหนดกันเองได้ว่าจะเริ่มกอบกู้เศรษฐกิจกันอย่างไรจากโรคระบาดนี้”