ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุดไปแล้ว แต่ผลกระทบเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มต้น

ตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงสุดไปแล้ว แต่ผลกระทบเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มต้น

ตลาดตอบรับผู้ติดเชื้อสูงสุดไปล่วงหน้า แต่ยังไม่สะท้อนผลกระทบทางเศรษฐกิจและผลประกอบการ

แม้ประธานาธิปดีทรัมป์จะออกมายืนยันถึงจำนวนผู้ติดเชื้อโควิดของสหรัฐฯ ว่าได้ผ่านจุดสูงสุดแล้ว แต่ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับตัวเลขเศรษฐกิจเพิ่งเริ่มต้น ยอดค้าปลีกมี.ค.ของสหรัฐฯ ปรับลดลง 8.7% ปรับลดลงมากสุดตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลปี 2535 เป็นต้นมา ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับลด 5.4% ขณะที่การรายงานผลประกอบการกลุ่มธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ออกมาต่ำคาดจากการกันสำรองหนี้เสียเพิ่มขึ้น

อาจเปิดเมืองแต่ยังมีแนวโน้มปิดประเทศ สหรัฐฯ และยุโรป เริ่มมีการพูดถึงการกลับมาเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ แต่บทเรียนจากผู้ติดเชื้อญี่ปุ่นและสิงคโปร์ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้เราประเมินรัฐบาลอยู่ในภาวะลำบากใจต่อการเลือกดำเนินนโยบาย และอาจตัดสินใจ “เปิดเมืองปิดประเทศ” เพื่อกันความเสี่ยงของการระบาดจากเชื้อโคโรนาต่างสายพันธ์ ทำให้ผลกระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวน่าจะยืดเยื้อและยังประเมินได้ยาก ขณะที่ปัจจัยบวกจากเปิดเมืองทีละส่วนไม่เพียงพอที่จะส่งผลบวกต่อหุ้นในกลุ่มพื้นที่เช่า และค้าปลีกที่ ราคาปรับขึ้นตอบรับมาระดับหนึ่งแล้ว

ตลาดหุ้นและตราสารล่วงหน้าไทยวันนี้ยังมีแนวโน้มผันผวนจาก 1) การลดลงของราคาน้ำมันดิบจากภาวะอุปทานส่วนเกิน 2) ข่าวกบข.ได้รับอนุมัติให้ลงทุนต่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 40% (จาก 30%) 3) การปรับเพิ่มหลักประกัน TFEX โดย SET50 ขึ้น 19% เพิ่มเป็น 32,452 บาท/สัญญา (จาก 27,170) ขณะที่ GF (ทองคำ) ปรับขึ้น 56% ซึ่งอาจทำให้มีการปรับลดสถานะการลงทุนให้สอดคล้องกับหลักประกัน 4) การต่อรองของภาครัฐให้ผู้ประกอบการช่วยลดภาระ ค่าไฟ, ค่ามือถือ ยังเป็นปัจจัยรบกวนคงค้าง (overhang) ในกลุ่มดังกล่าว

เพิ่มความระวังและแบ่งทำกำไรเพิ่มการถือเงินสด แม้ดัชนีความเสี่ยงและความผันผวนหลายตัวส่งสัญญาณดีขึ้นในระยะสั้น แต่ผลประกอบการมีโอกาสปรับลดลง และความเสี่ยงจากตลาดตราสารหนี้ที่คาดว่าจะเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้เราเน้นการแบ่งทำกำไรและเพิ่มการถือเงินสด หลังประเมินตลาดจะฟื้น 200 จุด มาตั้งแต่ 24 มี.ค.

ภาพรวมกลยุทธ์ แม้มีโอกาสจะลุ้นต่อยอดไป 1250-1270 จุด หรืออาจถึง 1300 จุด แต่การเก็งกำไรควรกำหนดจุดตัดขาดทุนทุกครั้ง และใช้การหลุด 1205 และ 1185 จุด เป็นจุดทยอยขายชะลอการเก็งกำไร // หุ้นแนะนำวันนี้ รอซื้อเมื่ออ่อนตัว SCC*, IVL*, THRE*  / ทยอยสะสม ADVANC, CPALL*, THRE*, EGCO, RATCH

แนวรับ 1205-1,233 / แนวต้าน : 1,245 จุด สัดส่วน : เงินสด 70% : พอร์ตหุ้น 30%

ประเด็นการลงทุน

IEA เตือน Covid-19 กระทบอุปสงค์น้ำมันทั่วโลก - เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของประเทศต่างๆ โดย IEA คาดว่าอุปสงค์น้ำมันทั่วโลกปีนี้จะลดลง 9.3 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อน

รอออก พ.ร.ก.กู้เงินฯ จ่ายเยียวยา 5 พัน - นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เผยเงินจ่ายในมาตรการเยียวยาผลกระทบ Covid-19 หัวละ 5 พันบาท มีเพียงพอจ่ายแค่เดือน เม.ย.เท่านั้น ขณะที่ในอีก 2 เดือนที่เหลือ (พ.ค.-มิ.ย.) ขึ้นอยู่กับว่า พ.ร.ก.กู้เงินฯ มีผลบังคับ

ครม.เห็นชอบปรับปรุงงบประมาณปี 2564 - ครม.มีมติเห็นชอบปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 โดยจะลดงบรายจ่าย-ลงทุน ที่ไม่จำเป็นมาใช้รองรับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของ Covid-19

สื่อสาร - การหารือระหว่างกสทช.และผู้ให้บริการมือถือ ยังไม่ได้ข้อสรุป ประเมินเบื้องต้นการลดราคา 10% กระทบรายได้ 0.83% และกระทบกำไรราว 4.8% สำหรับ ADVANC (คนอื่นจะมากกว่านี้ เพราะอัตรากำไรต่ำกว่า) เรามองหากมีการประกาศปรับลดราคาและหุ้นปรับลงจะเป็นจุดซื้อ เน้น ADVANC กับ INTUCH

 

ประเด็นติดตาม: 16 เม.ย. – US Beige Book, 17 เม.ย. – China GDP Q1/20, 23 เม.ย. – EU PMI เดือน เม.ย.

(* หมายถึง หุ้นทางกลยุทธ์ ซึ่งอาจมีคำแนะนำต่างกับพื้นฐาน หรือที่ไม่ ได้อยู่ในการวิเคราะห์ของ UOBKH ซึ่งนักลงทุนควรพิจารณาตั้งจุดตัดขาดทุน 3-5% ของราคาที่เข้าซื้อ)