ตลท.เล็งออกเกณฑ์'เพิ่ม’ รับมือตลาด‘ผันผวน’แรง 

ตลท.เล็งออกเกณฑ์'เพิ่ม’  รับมือตลาด‘ผันผวน’แรง 

ตลท.พร้อมออกมาตรการใหม่ทันที หากตลาดหุ้นไทยผันผวนรุนแรง หลังก.ล.ต.ไฟเขียวให้อำนาจตัดสินใจ  เผยปีนี้ต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่องกว่าแสนล้าน ส่วนใหญ่เป็นนักลงทุนระยะสั้นที่ใช้โปรแกรมเทรด ปลื้มดัชนีเดือนนี้ปรับขึ้นสูงอันดับ 2 ในตลาดหุ้นภูมิภาค

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ จะมีการติดตามภาวะการซื้อหลักทรัพย์ใกล้ชิด ซึ่งหากมีเหตุการณ์ที่สร้างความผันผวนให้กับตลาดหุ้นรุนแรง ตลาดหลักทรัพย์ พร้อมมีมาตรการอื่นที่จะเข้ามาช่วยลดความผันผวนของดัชนีฯได้ทันที หากมีความจำเป็น

ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ได้อนุญาตให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดำเนินการได้ จากเดิมก่อนหน้านี้ หากตลาดหลักทรัพย์ จะปรับหรือออกเกณฑ์อะไร ต้องขอความเห็นชอบก.ล.ต.ก่อนทุกครั้ง

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทยช่วงวันที่ 1-7 เม.ย.2563 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 7.9%จากเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นตลาดหุ้นที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดอันดับที่ 2 ของตลาดหุ้นภูมิภาค เป็นรองแค่ตลาดหุ้นเวียดนาม ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 12.7% เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ ได้ออกมาตรการลดความผันผวน เช่น การปรับเกณฑ์ขายชอร์ตเป็นการชั่วคราว ที่ขายได้เฉพาะในราคาที่สูงกว่าราคาซื้อขายครั้งสุดท้าย (last trading price) เท่านั้น 

อีกทั้งยังได้ปรับเกณฑ์หยุดพักการซื้อขาย  (เซอร์กิตเบรกเกอร์) และเกณฑ์ราคาซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling-Floor) เป็นการชั่วคราว รวมถึงประเทศไทยควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 ได้ดี ซึ่งมีผู้ติดเชื้อลดลงต่ำกว่า50 คนหลายวัน แม้วานนี้จะปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ประมาณ 100 คน ขณะที่หุ้นหลายอุตสาหกรรมเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น

ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิตลาดหุ้นไทย (2ม.ค.-7 เม.ย.)จำนวน 121,423.8 ล้านบาทนั้น เป็นการขายของนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนระยะสั้นโดยใช้โปรแกรมเทรด เพราะนักลงทุนต่างชาติที่เป็นพันธมิตรทางธุรกิจ มีสัดส่วนการถือครองหุ้นไทยอยู่ที่ 27.6% ลดลงไม่มาก จากปกติอยู่ที่ 29-30 % ส่วนทิศทางการขายหุ้นของนักลงทุนต่างชาตินั้น ไม่สามารถตอบได้ เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย แต่เริ่มมีสัญญาณที่ดี ที่เห็นต่างชาติกลับมาซื้อหุ้นไทยบ้าง

"ที่เห็นนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิหุ้นไทยกว่า1 แสนล้านบาทนั้น เป็นการขายของนักลงทุนต่างชาติระยะสั้นที่ใช้โปรแกรมเทรด ซึ่งเป็นเทรนด์ของตลาดหุ้นทั่วโลก ที่มีนักลงทุนกลุ่มนี้เข้ามาเทรดมากขึ้น ซึ่งก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งข้อดีคือทำให้ตลาดมีสภาพคล่อง ส่วนข้อเสียทำให้ตลาดผันผวนแรง มีผลทำให้นักลงทุนกลุ่มอื่นแพนิกตาม ซึ่งเป็นหน้าที่ของตลาดหลักทรัพย์ ที่จะต้องดูแลนักลงทุนกลุ่มนี้  ที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ได้ปรับเกณฑ์เรื่องการชอร์ตเซลชั่วคราวไปแล้ว" 

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลประกาศห้ามประชาชนออกนอกเคหะสถาน (เคอร์ฟิว) 24 ชั่วโมง ปัจจัยที่ทำให้ตลาดหลักทรัพย์ต้องปิดทำการซื้อขาย คือ ธนาคารพาณิชย์ปิดทำการและหยุดทำธุรกรรมทางการเงินต่างๆ แต่หากธนาคารพาณิชย์ยังคงเปิดให้บริการ ทำธุรกรรมทางการเงินได้ ตลาดหลักทรัพย์ก็จะเปิดซื้อขาย แต่อาจต้องปรับเวลาการซื้อขาย