4 พื้นที่สกัดโควิด-19 'ไม่ง้อล็อกดาวน์'

4 พื้นที่สกัดโควิด-19 'ไม่ง้อล็อกดาวน์'

การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าส่งผลให้ทั่วโลกต้องล็อกดาวน์ ยกเว้นไต้หวัน เกาหลีใต้ และฮ่องกง เพราะรัฐบาลและพลเมืองใช้มาตรการขั้นเด็ดขาดรับมือกับวิกฤติเสียแต่เนิ่นๆ

เริ่มต้นจากไต้หวันพื้นที่ที่น่าจะเกิดการระบาดอย่างรุนแรง เพราะห่างจากจีนแผ่นดินใหญ่เพียง 180 กิโลเมตร ผ่านไปเกือบ 100 วัน ไต้หวันมีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วเพียง 376 คน เสียชีวิต 5 คน ขณะเดียวกัน ร้านอาหาร บาร์ โรงเรียน มหาวิทยาลัย และสำนักงานยังคงเปิดทำการ

รัฐบาลประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ที่มีนักระบาดวิทยาเป็นผู้ช่วย ตัดสินใจเด็ดขาดรับมือตั้งแต่วิกฤติยังไม่สร้างความเสียหายให้กับโลกมากขนาดนี้

“ประเทศอย่างไต้หวันเป็นตัวอย่างที่ดี ส่งผลให้พวกเขาไม่มีภาระด้านเชื้อโรคและผลกระทบทางเศรษฐกิจ ที่ประเทศอื่นต้องเจอ” บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ และให้เงินนับพันๆ ล้านสนับสนุนการวิจัยวัคซีน กล่าวกับฟอกซ์นิวส์ในสัปดาห์นี้

 ส่วนการเตรียมแอนติบอดี้เพื่อสู้กับการแพร่ระบาดรอบใหม่ ไต้หวันเริ่มเตรียมการมาตั้งแต่โรคซาร์สระบาดในปี 2546 ถึงตอนนี้ไต้หวันจึีงพร้อมแล้ว

ก่อนอู่ฮั่นปิดเมือง ไต้หวันตั้งศูนย์บัญชาการการระบาดกลาง (ซีอีซีซี) เริ่มคัดกรองผู้เดินทางเข้าไต้หวัน ตรวจหาเชื้ออย่างครอบคลุม และตามรอยโรคไม่นานหลังจากนั้นไต้หวันห้ามการเดินทางจากจีนทุกชนิด ทั้งๆ ที่จีนคือคู่ค้ารายใหญ่สุดของไต้หวัน และองค์การอนามัยโลก (ดับเบิลยูเอชโอ) องค์กรที่ถูกจีนกดดันไม่ให้ไต้หวันได้เป็นสมาชิกไม่เห็นด้วยกับการห้ามคนจีนเดินทางเข้ามา

รายงานล่าสุดเผยแพร่ในวารสารสมาคมแพทย์อเมริกัน ระบุถึง124 มาตรการที่ซีอีซีซีของไต้หวันลงมือทำเสียแต่เนิ่นๆ ตั้งแต่ส่วนอื่นๆ ของโลกยังคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าไวรัสโคโรนาจะระบาดไปทั่วโลก

เจสัน หวัง อาจารย์แพทย์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด หนึ่งในผู้ร่วมวิจัย กล่าวว่า มาตรการดังกล่าวช่วยซื้อเวลาให้ไต้หวันเพิ่มการตรวจหาเชื้อและผลิตหน้ากากได้ทัน

ลดจำนวนผู้ติดเชื้อ

เกาหลีใต้เป็นอีกหนึี่งประเทศที่ได้รับคำชมโดยใช้วิธีท่ี่แตกต่างออกไป นั่นคือการลดจำนวนผู้ติดเชื้อแม้ว่าจะระบาดหนัก

ปลายเดือน ก.พ.ไวรัสโคโรนาปะทุหนักในเมืองแทกูทางภาคใต้ของประเทศ ผ่านคลัสเตอร์กลุ่มศาสนากลุ่มหนึ่ง ตอนที่พีคสุดเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อใหม่ 909 คนในวันเดียว รวมแล้วแดนโสมขาวมีผู้ติดเชื้อกว่า 10,000 คน เสียชีวิต 192 คน

แต่ 6 สัปดาห์ผ่านไป ยอดผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นในระดับตัวเลขหลักเดียวเป็นครั้งแรก ส่วนพื้นที่อื่นๆ ในเกาหลีใต้ชีวิตดำเนินไปอย่างราบรื่น มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมที่ใช้กันอย่างกว้างขวางเป็นเพียงข้อแนะนำไม่ใช่การบังคับ

ผู้เชี่ยวชาญอ้างว่า การรุกตรวจหาเชื้อในวงกว้างการตามรอยโรคและการกักตัวผู้ป่วยทุกคน เป็นปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จ

เกาหลีใต้ตรวจหาเชื้ออย่างได้ผลภายในไม่กี่สัปดาห์หลังรัฐเปิดให้มีการประมูล ตอนนี้กลายเป็นผู้ส่งออกชุดตรวจรายใหญ่ส่งขายทั่วโลก

ความสำเร็จเสื่อมถอย

ความสำเร็จแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นในฮ่องกงและสิงคโปร์ด้วย แม้ว่าการแพร่ระบาดกำลังเริ่มเลวร้ายลง

ทั้งสองเมืองเคลื่อนไหวค่อนข้างเร็วในการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากจีน และใช้การตามรอยโรคเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในช่วงแรก ทำให้ไม่ต้องล็อกดาวน์ทั้งหมดอย่างที่ทั่วโลกทำกันแต่ช่วงหลังการติดเชื้อพุ่งขึ้นเนื่องจากประชาชนหนีการแพร่ระบาดในยุโรปและอเมริกาเหนือกลับมาตุภูมิ

ตอนนี้ฮ่องกงมีผู้ติดเชื้อยืนยันแล้ว 936 คน เสียชีวิต 4 คน สิงคโปร์ติดเชื้อ 1,375 คน เสียชีวิต 6 คน และกำลังเร่งใช้มาตรการเว้นระยะทางสังคม

ส่วนสิงคโปร์เพิ่งประกาศปิดโรงเรียนและสถานประกอบการ พร้อมกักกันแรงงานย้ายถิ่นราว 20,000 คนให้อยู่เฉพาะในที่พักขณะที่ฮ่องกงปิดโรงเรียนไปตั้งแต่ช่วงแรกๆ ข้าราชการส่วนใหญ่ทำงานจากบ้านอยู่แล้ว แต่เมื่อเร็วๆ นี้รัฐบาลสั่งห้ามประชาชนรวมตัวกันเกิน 4 คนในที่สาธารณะ สั่งปิดสถานบันเทิง เช่น บาร์ คาราโอเกะ และโรงเล่นไพ่นกกระจอก

เบอร์นาร์ด ชาน หัวหน้าคณะที่ปรึกษาของแคร์รี หล่ำ ผู้บริหารสูงสุดเขตบริหารพิเศษฮ่องกง เพิ่งเตือนว่าถ้ายอดติดเชื้อไม่ลดจะใช้มาตรการเข้มงวดขึ้นไปอีก

“เราอาจต้องสั่งล็อกดาวน์กว้างขึ้นทั่วเมือง สั่งธุรกิจที่ไม่จำเป็นหยุดให้บริการ ประชาชนแทบทุกคนต้องหยุดอยู่บ้าน สัก 2-3 สัปดาห์” ชานกล่าวกับสำนักข่าวอาร์ทีเอชเค