นครพนม งัดกฎเหล็ก ฝ่าฝืนเคอร์ฟิว จำคุก 15 วัน
ผู้ว่าฯ นครพนม งัดกฎเหล็กสั่งปิดสะพานไทยลาว 3 ประกาศเคอร์ฟิวเข้มงดเข้าออก ห้ามต่างด้าวเข้าพื้นที่ จับจริงดำเนินคดีแล้ว เคสแรกลาวฝ่าฝืนคำสั่งเคอร์ฟิว ศาลสั่งจำคุกไม่รอ
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนคพรนม ยังคงเพิ่มความเข้ม ในการยกระดับมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด19 หลังก่อนนี้มีคำสั่ง ให้มีการปิดธุรกิจกลุ่มเสี่ยงทุกประเภท รวมถึง การปิดด่านจุดผ่อนปรน ตามอำเภอชายแดน รวม 4 อำเภอ เหลือเพียงด่านถาวร คือ ด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน ที่ยังอนุโลมให้แรงงานต่างด้าวชาวลาวเดินทางกลับประเทศ รวมถึงเปิดให้รถบรรทุกขนส่งสินค้าข้ามแต่ห้ามประชาชน นักท่องเที่ยวเข้า-ออก เพื่อเป็นการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด และมีการตรวจคัดกรอง ทุกรายที่มีการอนุโลมให้ข้าม เข้า ออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุด ทางด้านจังหวัดนครพนม โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม ได้มีประกาศเคอร์ฟิวคำสั่งห้ามบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ รวมถึงงดการอนุโลมการเดินทางเข้า-ออก บริเวณด่านพรมแดนสะพานมิตรภาพไทยลาว แห่งที่ 3 นครพนม-คำม่วน ตั้งแต่วันที่ 5 เม.ย. 63 ส่วนรถบรรทุกสินค้า ยังสามารถเดินทางขนส่งระหว่างประเทศได้ แต่บุคคลที่ประจำรถคนขับ พนักงานรถ หากมีการออกนอกประเทศเกิน 5 ชั่วโมง หากเข้ามาจะต้องถูกเข้าสู่กระบวนการกักตัว เพื่อควบคุมโรค พร้อมมีคำสั่งเด็ดขาด หากพบบุคคลต่างด้าวเข้ามาในพื้นที่ จะมีการจับกุมดำเนินคดี ทันที นอกจากนี้ ในช่วงคำสั่งเคอร์ฟิว ได้ประสานเจ้าหน้าที่ทั้ง 12 อำเภอ ตั้งจุดตรวจสกัด คัดกรอง หากพบผู้ฝ่าฝืน จะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายไม่มียกเว้น
ขณะเดียวกัน ทางด้าน พ.ต.อ.พลาเดช เพ็ชรหว้าโง๊ะ รอง ผบก.ภ.จว.นครพนม เปิดเผยถึงผลการดำเนินการทางคดี หลังมีการเพิ่มมาตรการเข้ม ตามคำสั่งรัฐบาล ในการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด19 รวมถึงคำสั่ง เคอร์ฟิว ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน 2563 เป็นวันแรก ทางจังหวัดนครพนม บูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงาน ทั้งตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนท้องถิ่น แต่ยังพบผู้ฝ่าฝืนกระทำผิดตั้งแต่วันแรก ซึ่งทาง เจ้าหน้าที่ตำรวจด่านตรวจคนเข้าเมืองนครพนม พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจงานป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครพนม และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ได้ มีการจับกุม ชาวไทย จำนวน 1 ราย พร้อมแรงงานต่างด้าว ชาวลาว จำนวน 5 ราย ที่เดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด เพื่อเข้ามาในพื้นที่ หาทางข้ามไปยัง สปป.ลาว โดยตรวจสอบพบนั่งรถตู้โดยสาร มาบริเวณจุดตรวจคัดกรอง ถนนสกลนคร-นครพนม เขต ต.นาทราย อ.เมือง จ.นครพนม ช่วง เวลา 23.00 น. ซึ่งถือเป็นช่วง เคอร์ฟิว ตรวจสอบมีเอกสารหนังสือเดินทางถูกต้อง จึงได้จับกุมดำเนินคดี ในข้อหา ออกนอกเคหะสถานเวลา 22.00-04.00 น. ของวันรุ่งขึ้น โดยไม่ได้รับการยกเว้นหรือเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ พร้อมนำตัวดำเนินคดี ส่งฟ้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ทางศาลจังหวัดนครพนม ได้พิจารณาตัดสิน เป็นเคสแรก หลังคำสั่ง โดยศาลตัดสินจำคุก 1 เดือน แต่ผู้ต้องหารับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง เหลือจำคุก 15 วัน อีกทั้ง ผู้ต้องหาไม่เคยต้องโทษคดีอาญามาก่อน เปลี่ยนโทษจากจำคุก 15 วัน เป็นกักขัง 15 วัน ก่อนควบคุมตัวนำส่งไปกักขัง ที่เรือนจำกลางนครพนม หลังพ้นโทษ จะได้ มีการผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป