ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งเกินคาด

ราคาน้ำมันปรับตัวลงหลังสต็อกน้ำมันสหรัฐพุ่งเกินคาด

สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ปิดตลาดวันพุธ(1เม.ย.)ปรับตัวลงหลังการเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้นเกินคาด

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ลดลง 17 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ราคา 20.31 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน่้ำมันดิบเบรนท์ ร่วงลง 1.35 ดอลลาร์ หรือ 5.1% ปิดที่ราคา 24.99 ดอลลาร์/บาร์เรล

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (อีไอเอ) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐพุ่งขึ้น 13.8 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว โดยเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 10 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้นเพียง 4.6 ล้านบาร์เรล

สถาบันปิโตรเลียมอเมริกา (เอพีไอ) ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันของสหรัฐ เปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้น 10.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว

อีไอเอ ยังเปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 7.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 2.2 ล้านบาร์เรล ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลง 600,000 บาร์เรล

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากความวิตกที่ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะส่งผลให้เศรษฐกิจโลกประสบภาวะถดถอย ซึ่งจะกระทบต่ออุปสงค์น้ำมัน

ขณะเดียวกัน การทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียก็ได้เป็นปัจจัยฉุดราคาน้ำมัน

ทั้งนี้ ซาอุดีอาระเบีย ประกาศทำสงครามราคาน้ำมันกับรัสเซีย หลังจากที่รัสเซียแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันลดกำลังการผลิตอีก 1.5 ล้านบาร์เรล/วันจนถึงสิ้นปีนี้ โดยรัสเซียยืนยันจุดยืนเดิมที่ต้องการให้ผู้ผลิตน้ำมันปรับลดกำลังการผลิตตามโควตาเดิมต่อไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาส 2