ย่อตัว

ย่อตัว

แนะนำ Short Agains Port โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

คาดการณ์ตลาดหุ้นไทยวันนี้

เราคาดดัชนีฯ ย่อตัว แนวรับ 1110 / 1095 จุด แนวต้าน 1140 / 1150 จุด ประเด็นที่มีผลต่อตลาด ได้แก่ 1) การสิ้นสุดการทำ Window Dressing และการแพร่ระบาดในสหรัฐฯ ที่อาจมีผู้เสียชีวิต1-2.4 แสนราย ใน 2 สัปดาห์นี้ อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเร่งขายสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น 2) การเปิดขายหน่วยลงทุน กองทุน SSF พิเศษ เป็นวันแรก คาดช่วยหนุนแรงซื้อคืนหุ้นบลูชิพร่วงแรงและหุ้นปันผลสูง 3) รายงานภาคการผลิตที่ดีขึ้นของจีนเป็นเพียงการฟื้นตัวชั่วคราว และมีแนวโน้มชะลอลงในช่วง 2Q20E จาก Final Demand ร่วงลง

ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้: OPEC-เริ่มวันแรกยกเลิกโควต้าการผลิต, รายงาน Mfg PMI มีค.คาดลดลง ยกเว้นจีน: จีน (Caixin) คาด 46 (Vs เดือน ก.พ. 40.3), ญี่ปุ่น (Jibun bank) คาด 44.8 (Vs เดือน ก.พ. 47.8), อียู (Markit) คาด 44.7 (Vs เดือน ก.พ. 49.2), สหรัฐฯ (Markit) คาด 49.2 (Vs เดือน ก.พ. 50.7) ISM คาด 45 (Vs เดือน ก.พ. 50.1)

สรุปภาวะตลาดหุ้น ทองคำ น้ำมัน วานนี้

+ ตลาดหุ้นไทยบวกแรง: ตัวเลขภาคการผลิตและบริการจีนเดือน มี.ค. ที่ดีกว่าคาด เป็นปัจจัยสนับสนุนการแรลลี่ของตลาดหุ้นไทยตลอดการซื้อขาย และไปปิดที่ 1125.86 จุด +38.04 จุด +3.5% วอลุ่ม 5.69 หมื่นล้านบาท นำโดยกลุ่มปิโตรฯ +10.3% ธนาคารฯ +5.59% มีเดีย +4.87% จากแรงซื้อหุ้นดิ่งแรงที่ผ่านมา IVL PTTGC JAS BAM TOP DTAC PTG HANA ESSO RBF

-/+ ตลาดหุ้นโลกปิดคละ: ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ร่วง เพราะวิตกผลกระทบทางเศรษฐกิจจากCOVID-19 นาโดย DJ -1.84% S&P500 -1.6% Nasdaq -0.95% ส่วนตลาดหุ้นยุโรปปรับสูงขึ้น จากตัวเลขการผลิตที่ดีขึ้นของจีน ขณะที่ DAX +1.22% FTSE +1.95% (สรุป1Q20 ตลาดหุ้นสหรัฐฯ DJ -23.2% QoQ S&P -20% QoQ Nasdaq -14.2% QoQ ส่วนตลาดหุ้นยุโรปร่วง -23% QoQ)

+/- น้ำมันดิบและทองคำร่วงต่อ: ข่าวการเจรจาระหว่างปธน.ทรัมป์กับปธน.ปูติน ช่วยหนุนตลาดน้ำมันได้จำกัด โดยวานนี้ WTI +USD0.39 +1.94% ปิด USD20.48/บาร์เรล Brent -USD0.02 ปิด USD22.74/บาร์เรล ส่วนทองคำร่วงต่อ -USD46.60 -2.48% ปิด USD1596.60/ออนซ์ จากแรงขายทำกำไร (สรุป 1Q20 WTI -54.2% QoQ Brent -55% QoQ ทองคำ +4.8% QoQ)

ประเด็นสำคัญ

- COVID-19 Update ณ วันที่ 31 มี.ค.: องค์การอนามัยโลก รายงานมีผู้ติดเชื้อทั่วโลก 750,890 ราย (+57,610 ราย) เสียชีวิตสะสม 36,405 ราย (+3,301) ส่วนม.จอห์น ฮอปกินส์ รายงานผู้ติดเชื้อทั่วโลก 850,000 ราย เสียชีวิต 41,000 ราย นำโดย USA 184,100 ราย เสียชีวิต 3,700 ราย ผู้ว่ารัฐนิวยอร์ก เผยจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 14% หรือ 9,298 ราย ภายในวันเดียวเป็น 75,795 ราย ในวันนี้ และมีผู้เสียชีวิต 1,550 ราย หรือประมาณเกือบครึ่งหนึ่งของสหรัฐฯ

- ไทย: สธ. รายงานผู้ติดเชื้อ ณ วันที่ 31 มี.ค. มีจำนวน 1,651 ราย เพิ่มขึ้น 127 ราย (Vs 3วันก่อนหน้า มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่ม 136 ราย 143 ราย และ 109 ราย ตามลาดับ) เสียชีวิตสะสม 10 ราย (+1)

- การระบาด(Update): รัฐ Maine เป็นรัฐล่าสุดในสหรัฐฯ ต่อจาก NY, NJ, California, Washington DC ที่สั่งให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน

+ USA: ผลสำรวจผจก.กองทุนโดย Citigroup พบว่า 70% ของผจก.กองทุน ยังคงมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้น โดยมีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะขึ้น 20% >หุ้นที่จะร่วง 20% ทำให้ประมาณ 80% ของผจก.กองทุนที่มองบวก หันไปถือหุ้นแทนเงินสด

ตัวเลขเศรษฐกิจ:

+ จีน: กิจกรรมทางเศรษฐกิจเดือน มี.ค. ฟื้นตัวขึ้นมาก เมื่อเทียบเดือน ก.พ. แต่ยังไม่เทียบเท่าช่วงก่อนติดเชื้อไวรัสฯ โดยดัชนีภาคการผลิตอยู่ที่ 52.0 (ตลาดคาดที่ 45 และเดือน ก.พ. 35.7) และดัชนีภาคบริการอยู่ที่ 52.3 (ตลาดคาดที่ 40.4 และเดือน ก.พ. 29.6) และ Composite PMI อยู่ที่ 53 (Vs เดือน ก.พ. 28.9)

- Global Economy: S&P ปรับลดคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจโลกปีนี้จาก 3.3% เป็น 0.4% ใกล้เคียงกับช่วงวิกฤติเศรษฐกิจปี 1982 ที่ 0.43% และเติบโต 4.9% ในปี 2021E โดยคาดว่าเศรษฐกิจปี 2020-21E ของ USA เติบโต -1.3% (2Q20E -12% QoQ อัตราว่างงานสูงกว่า 10.2% ตอนวิกฤติเศรษฐกิจเดือน ต.ค. 2009) และ3.2% ตามลาดับ , ส่วนปีนี้คาด EU -2% China +3% , India -3.5%

+ ไทย: ครม. ปรับปรุงมติครม. โดยมาตรการชดเชยรายได้ 1) ปรับเพิ่มกลุ่มผู้ได้รับสิทธิ์เป็น 9 ล้านคน จากเดิม 3 ล้านคน โดยจะนำงบกลาง 4.5 หมื่นล้านบาท จ่ายชดเชยงวดเดือน เม.ย. และคลังจะนำเสนอครม. จัดหาแหล่งเงินทุนต่อไป และให้ยกเว้นภาษีรายได้บุคคลธรรมดาสำหรับรายได้ดังกล่าว 2) อนุมัติวงเงิน งบฯ เพิ่มเติม สำหรับโครงการสินเชื่อช่วยผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19 โดยจะจ่ายชดเชยต้นทุนของธนาคารออมสินและธกส. แห่งละ 800 ล้านบาท

- GOLD: ธนาคารกลางรัสเซีย ออกแถลงการณ์ว่า ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. จะยุติการซื้อทองเข้าเก็บในทุนสำรองระหว่างประเทศ

+ OIL: ปธน.ปูตินและปธน.ทรัมป์ มีการเจรจาทางโทรศัพท์และเห็นพ้องกันในการจัดการเจรจา เพื่อรักษาเสถียรภาพของตลาดน้ำมัน แต่ช่วยหนุนราคาน้ำมันโลกได้จำกัด หลังมีข่าวซาอุฯ เสนอขายราคาน้ำมันดิบแก่บางพื้นที่ที่ต่ำกว่า USD10 ต่อบาร์เรล

กลยุทธ์: แนะนำ Short Agains Port โดยมีจุดขายตัดขาดทุน 3%

หุ้นแนะนำรายสัปดาห์: STA ADVANC CPF

บจ. ทึ่คาดว่าจะมีแรงซื้อ จากกองทุน SSF พิเศษ: หุ้นที่คำนวณอยู่ใน SET50 Index แนะนำ PTT CPALL ADVANC SCC BDMS GULF CPF EGCO และหุ้นปันผลสูงและจ่ายสม่ำเสมอ JAS DIF INTUCH TISCO

Derivatives: ปิดสถานะ Long S50M20 ทำกำไรทั้งหมด (อ่านเพิ่มใน KTZ -D)