'280 คนไทย' กลับจากมาเลย์ ไม่พบติด 'โควิด-19' แต่ต้องเฝ้าอาการต่อ

เมื่อวันที่ 29 มี.ค.63 เวลา 11.15 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุมวงเล็กที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานศบค. ว่า นายกฯ ชอบคุณประชาชนและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยไม่มีหยุด โดยประชาชนก็ได้ให้ความร่วมมือการเว้นระยะห่างทางสังคมมากขึ้น และได้ขอบคุณสื่อมวลชนที่นำเสนอเรื่องสร้างสรรค์ รวมถึงประชาชนด้วย ซึ่งนายกฯ มองว่าเรื่องสร้างสรรค์แบบนี้เป็นสิ่งที่ประเทศต้องการ

นอกจากนั้น นายกฯ ยังได้ชื่นชมเจ้าหน้าที่ในการแก้ปัญหาต่างๆ ได้รวดเร็ว แม้มีบางคนยังปฏิบัติตัวไม่ถูกต้องในภาวะพ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีการลงโทษเด็ดขาด

"ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีการประกาศเพิ่มเติมเรื่องการห้ามเดินทางเข้าออกพื้นที่ข้ามเขตจังหวัด ห้ามเข้าออกบางหมู่บ้าน ชุมชน ที่มีการแพร่ระบาดสูง ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน2ปีปรับ4หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ยกเว้นให้เข้าออกเพื่อรักษาพยาบาล ขนส่งสินค้าจำเป็นเพื่อการอุปโภคบริโภค การที่รัฐทำอย่างนี้ก็เพื่อท่านเอง อดทนสักนิด เพื่อให้สถานการณ์กลับเป็นปกติ" นพ.ทวีศิลป์ กล่าว 

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า ส่วนการส่งเครื่องบินเช่าเหมาลำไปรับคนไทยในอิตาลีกลับนั้น เดิมพบว่ามี 200-300 คนประสงค์จะเดินทางกลับ จึงประสานการบินไทยให้บินไปรับ แต่ล่าสุด พบว่า นักศึกษาและนักท่องเที่ยวไทยในอิตาลีกลับมาหมดแล้ว จะมีเพียงคนที่พำนักในอิตาลีเท่านั้น ซึ่งเป็นจำนวนน้อย การบินไทยจึงไม่ได้ไปรับกลับ ทั้งนี้ การประชุมศบค.พรุ่งนี้ จะมีเรื่องเพิ่มเติมตามที่นายกฯ ได้เคยสั่งการไปในคราวที่แล้ว โดยเฉพาะอุปกรณ์ทางการแพทย์ หน้ากากอนามัยที่ประชาชนยังเดือดร้อน อย่างไรก็ตาม นายกฯ ยังได้ลงรายละเอียดเรื่องช่วงเวลา เพื่อให้กระทรวงสาธารณสุขวิเคราะห์ก่อนเสนอนายกฯ เพื่อพิจารณาออกมาตรการต่อไป

ขณะที่ นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผอ.กองโรคติดต่อทั่งไป กล่าวถึงกรณีคนไทยในมาเลเซียรออยู่หน้าด่านที่จ.สตูลซึ่งปิดอยู่ว่า เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสามารถตรวจคัดกรองทั้งหมดแล้วที่ด่านควนโดน จ.สตูล ไม่พบว่าติดเชื้อ มีทั้งสิ้น 280 ราย ชาย 277 ราย หญิง 3 ราย จากนี้ จะต้องเฝ้าระวังติดตามอาการทุกวัน หากมีอาการป่วยจะนำเข้าสู่การรักษาต่อไป