ผู้สูงวัย เสี่ยงติดโควิดสูง  แนะลูกหลานกลับภูมิลำเนา ควรกักตัว แยกอยู่ แยกกิน

ผู้สูงวัย เสี่ยงติดโควิดสูง  แนะลูกหลานกลับภูมิลำเนา ควรกักตัว แยกอยู่ แยกกิน

วิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ห่วงผู้สูงอายุเสี่ยงติดโควิดสูง ลูกหลานเดินทางกลับภูมิลำเนา ควรกักตัว แนะคำภีร์สำหรับสูงวัย เสี่ยงติด เสี่ยงตายเลี่ยงได้ให้อยู่บ้าน

จากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี พ.ศ.2560 พบว่า จากจำนวนผู้สูงวัยทั้งหมด 12 ล้านคนในประเทศไทย มีประมาณร้อยละ 10.7 ของผู้สูงอายุอยู่ตามลำพังคนเดียว และประมาณร้อยละ 20 อยู่กันตามลำพังสองคนตายาย โดยในชนบทจะมีสัดส่วนผู้ที่อยู่กันสองคนตายายสูงกว่าในเมืองเล็กน้อย ยิ่งไปกว่านั้น ประมาณร้อยละ 39 ของผู้สูงอายุไทยยังมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี โดยผู้สูงอายุในเขตชนบทมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปีในสัดส่วนที่สูงกว่าผู้สูงอายุในเขตเมือง (ร้อยละ 44.5 เทียบกับร้อยละ 31.1)

ทั้งนี้ การอาศัยอยู่เพียงลำพังหรือไม่ได้อยู่กับลูกหลาน และการมีรายได้จำกัดหรือมีฐานะยากจนล้วนเป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงบริการทางการแพทย์และสาธารณสุขที่ได้มาตรฐาน และการดูแลตัวเองตามหลัก สุขภาวะที่ดี

158531312773

ศ.ดร.วิพรรณ ประจวบเหมาะ คณบดีวิทยาลัยประชากรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านประชากรศาสตร์ กล่าวว่า ที่น่าห่วงมากที่สุดคือผู้สูงอายุที่อยู่กันตามลำพังหรือสองคนตายายเพื่อนบ้านและคนในชุมชนควรช่วยกันสอดส่องดูแลทั้งอาหาร น้ำ ยาและดูว่าท่านเจ็บป่วยหรือมีอาการบ่งชี้ว่าติดโควิดหรือไม่ สำหรับผู้สูงอายุที่อยู่ในต่างจังหวัด และลูกหลานที่มาทำงานในกรุงเทพฯ หรือเมืองใหญ่ซึ่งกำลังเดินทางกลับไปภูมิลำเนา หลังคำสั่งปิด กทม.ตามที่ปรากฏเป็นข่าว น่ากลัวมากว่าจะมีโอกาสเอาเชื้อโควิด-19 กลับไปให้ผู้หลักผู้ใหญ่ด้วย อยากให้คิดกันตรงนี้มากๆ ​

"คิดถึงผู้สูงวัยที่มีความเสี่ยงสูงเหล่านี้ หากกลับไปแล้วสามารถกักกันตัวเอง แยกกันกิน แยกกันอยู่ได้หรือไม่ในช่วง 14 วันแรก แต่จะให้ปลอดภัยที่สุด ลูกหลานไม่ควรย้ายกลับไป จำไว้เป็นคัมภีร์เลยสำหรับผู้สูงวัยว่า เสี่ยงติด เสี่ยงตายเลี่ยงได้ให้อยู่บ้าน” ศ.ดร.วิพรรณเตือน

158531313917

ศ.ดร.วิพรรณ ตั้งข้อสังเกตเพิ่มเติมอีกว่า การที่ประเทศพัฒนาแล้วมีการสูญเสียชีวิตของประชากรสูงจากการระบาดของโควิด-19 ส่วนหนึ่งมาจากโครงสร้างทางอายุของประชากรที่เป็นประชากรสูงวัย โดยส่วนใหญ่ประชากรกลุ่มนี้จะมีสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 5 ของประชากรทั้งหมด เช่น ญี่ปุ่นซึ่งมีสัดส่วนประชากรสูงวัยเป็นอันดับหนึ่งของโลกมีประชากรสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) สูงถึง 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด เช่นเดียวกับอิตาลีที่มีสัดส่วนผู้สูงวัยเป็นที่สองรองลงมาจากญี่ปุ่น ก็สูญเสียผู้สูงวัยจากโรคระบาดครั้งนี้อย่างเป็นประวัติการณ์

“ประเทศไทยนับเป็นประเทศกำลังพัฒนาที่ก้าวเป็นสังคมสูงวัยอย่างรวดเร็วตามประเทศที่พัฒนาแล้ว โดยปัจจุบันมีผู้สูงอายุราว 12 ล้านคน ดังนั้น หากไม่มีการเตรียมทรัพยากรหรือมีนโยบายเพื่อมารองรับกับสถานการณ์เช่นนี้อย่างทันท่วงที อาจทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าไปอย่างรวดเร็ว” ศ.ดร.วิพรรณ กล่าว