'พลังงาน'ยันปริมาณไฟฟ้าเพียงพอรับประชาชน ‘เวิร์คฟอร์มโฮม’

'พลังงาน'ยันปริมาณไฟฟ้าเพียงพอรับประชาชน ‘เวิร์คฟอร์มโฮม’

‘สนธิรัตน์’สั่งทุกหน่วยงานติดตามการใช้ไฟฟ้าช่วงหน้าร้อนใกล้ชิด หลังประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” มั่นใจไฟฟ้าไม่ขาดแคลน มีกำลังผลิตสำรองในระบบกว่า30%คาดปริมาณใช้น้ำมันทั้งปีลด20%

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ติดตามข้อมูลสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อน (มี.ค.-เม.ย.) อย่างใกล้ชิด เนื่องจากในช่วงเดือน เม.ย.ของทุกปี มักจะเป็นช่วงที่เกิดความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงสุด(พีค) ตามสภาพอากาศที่ร้อนจัด แต่ในปีนี้ได้กำชับให้ประเมินสถานการณ์เป็นรายวัน เพราะมีประชาชนหันมาทำงานที่บ้านมากขึ้น ตามมาตรการ Work from Home ที่ภาครัฐขอความร่วมมือให้ ประชาชน “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” ซึ่งเป็นการช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

โดยเบื้องต้น มั่นใจว่า ไฟฟ้าจะไม่ขาดแคลน เนื่องจากประเทศไทยยังมีกำลังการผลิตไฟฟ้าสำรองเหลือกว่า 30% ของกำลังการผลิตไฟฟ้ารวมของประเทศและแม้ว่าประชาชนส่วนหนึ่งจะหยุดทำงานที่บ้าน แต่ในส่วนของสถานประกอบการต่างๆ เช่น สถานบันเทิง โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร สถานบันการศึกษาต่างๆ ที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในปริมาณมาก ก็หยุดทำการด้วยเหมือนกัน หรือ บางสถานที่ก็ลดจำนวนพนักงานที่ต้องพลัดเปลี่ยนเวรมาทำงาน เพื่อลดความแออัดในสถานที่ หลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากการแพร่เชื้อ ก็อาจทำให้การใช้ไฟฟ้าในช่วงหน้าร้อนลดลงด้วย

ส่วนความต้องการใช้น้ำมันในช่วงเดือน มี.ค.นี้ จากการประชุมผู้บริหารกระทรวงพลังงานในช่วงต้นสัปดาห์นี้ พบว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ส่งผลให้ประชาชนลดการเดินทางลง ทั้งการออกจากบ้านไปทำกิจกรรมต่างๆน้อยลง และการท่องเที่ยวที่หายไป ทำให้ยอดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงบนท้องถนน ในช่วง 3 สัปดาห์แรกของเดือน มี.ค.นี้ ลดลงไปแล้วกว่า 8% และคาดว่า ทั้งเดือนมี.ค. และ เม.ย.นี้

นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า กกพ.และ 3 การไฟฟ้า คือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ได้ติดตามสถานการณ์การใช้ไฟฟ้าเดือน มี.ค.-เม.ย.นี้ อย่างใกล้ชิด หลังจากคณะรัฐมนตรี(ครม.) เมื่อวันที่ 17 มี.ค.63 มีมติให้งดวันหยุดเทศกาลสงกรานต์ ระหว่างวันที่ 13-15 เม.ย. โดยให้เลื่อนวันหยุดไปก่อน และจะให้ไปชดเชยในวันเวลาที่เหมาะสม และขอให้การไฟฟ้าฯเตรียมความพร้อมเดินเครื่องกำลังการผลิตไฟฟ้าให้เพียงพอกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่อาจจะเพิ่มขึ้นในช่วงดังกล่าว พร้อมเลื่อนแผนการหยุดซ่อมบำรุงโรงไฟฟ้าและประสานงานกับ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ให้เจรจาแหล่งจ่ายก๊าซธรรมชาติต่างๆเช่น แหล่งจ่ายก๊าซฯจากเมียนมา ให้เลื่อนการหยุดซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซฯ ออกไปโดยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าไฟฟ้าจะมีเพียงพอกับความต้องการ