'บิ๊กตู่' ให้แนวทางทำงาน 'ศบค.' 6ข้อ ยังไม่ขั้น 'เคอร์ฟิว' ถ้าปชช.ร่วมมือ

'บิ๊กตู่' ให้แนวทางทำงาน 'ศบค.' 6ข้อ ยังไม่ขั้น 'เคอร์ฟิว' ถ้าปชช.ร่วมมือ

"ศบค." ถกสู้ "โควิด-19" นัดแรก "บิ๊กตู่" ให้แนวทางทำงาน 6 ข้อ สั่งระดมทีมแพทย์-เวชภัณฑ์ เผย ยังไปถกขั้น "เคอร์ฟิว" แย้ม มีช้อยส์ให้เลือกเพียบ จากเบาไปหาหนัก ถ้า ปชช. ร่วมมือ ก็ไม่ต้องบังคับ

เมื่อวันที่ 26 มี.ค.เวลา 13.00 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน เป็นโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด19. ) หรือ ศบค. แถลงผลการประชุม ว่า นายกฯมอบหมายให้ตนเป็นเลขาฯ โดยในที่ประชุมนายกฯได้แจ้งถึงสาระสำคัญการแพร่ระบาดสถานการณ์โควิด-19 ดำเนินมาถึงจุดที่รัฐบาลจำเป็นต้องใช้พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อระดมทุกสรรพกำลังหยุดยั้งการแพร่ระบาดและบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยนายกฯให้แนวทางการทำงาน 6 ข้อ คือ 1.ให้ผู้รับผิดชอบงานแต่ละด้านเสนอแผน และแนวทางปฏิบัติโดยระเอียด 2. ให้บูรณาการจัดระบบความร่วมมือดึงทุกภาคส่วนในสังคม 3. ติดตามผลกระทบที่เกิดกับประชาชนทุกกลุ่มจากการประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาพร้อมกับมาตรการเยียวยา 4.ให้ความเชื่อมั่นระบบการแพทย์ต่อประชาชน พร้อมระดมสรรพกำลัง ทั้งบุคลากรทางการแพทย์ทั้งจากรัฐและเอกชน ซึ่งวันนี้ที่ประชุมเน้นย้ำเรื่องเวชภัณฑ์ สถานพยาบาล ที่ขาดแคลนไม่เพียงพอต่อความต้องการจึงต้องประสานกับภาคส่วนต่างๆทั้งกระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ เพื่อละในข้อกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการนำเข้า เป็นต้น 5. เน้นสื่อสารในยามวิกฤติ ประสานผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสื่อมวลชน เพื่อให้ความรู้กับประชาชน โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างของบุคคลในสังคม และ6. เรื่องงบประมาณขอให้ทุกส่วนราชการ ปรับแผนโครงการ เพื่อเน้นเพิ่มประสิทธิภาพงานด้านสาธารณสุข

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ปลัดกระทรวงต่างๆได้นำเสนอปัญหาและแนวทางแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งการประชุมวันนี้ภาพรวมได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเป็นอย่างดี และยังมีรัฐมนตรีว่าการทุกกระทรวงเข้าร่วม โดยในภาคนโยบายและภาคปฏิบัติลงรายละเอียดกันทุกเรื่อง โดยเฉพาะสาระสำคัญ เรื่องอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้ต่อสู้กับเชื้อโรคให้ออกไปจากแผ่นดินไทย เรื่องนี้ลงรายละเอียดเป็นอย่างมาก และได้รายงานเพื่อให้ลดข้อจำกัดต่างๆ เรื่องการนำเข้า เรื่องภาษี และการจัดส่ง ซึ่งล้วนถูกแก้ไขแล้วทั้งสิ้น ทั้งนี้ นายกฯให้แนวทางการประชุมของศบค.ในช่วงต้นให้มีประชุมศบค.ทุกวันใช้เวลาวันละ 1 ชั่วโมง เพื่อให้การทำงานกระชับ และกลับไปปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม สำคัญที่สุด นายกฯห่วงใยสุขภาพประชาชนทุกคน แต่ประชาชนต้องให้ความร่วมมือตามข้อปฏิบัติต่างๆ ช่วยให้เราผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19ไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะการเว้นระยะห่างทางสังคมจะทำให้โรคระบาดยุติโดยเร็ว

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตาม ในทีประชุมไม่ได้พิจารณาออกข้อกำหนดเพิ่มเติมแต่อย่างใด รวมถึงเรื่องการออกเคอร์ฟิวหรือห้ามประชาชนออกจากบ้านในเวลาที่กำหนดก็ยังไม่ได้มีการหารือในที่ประชุมวันนี้ แต่แนวทางต่างๆ มีการเสนอมาหลากหลาย เพื่อเป็นทางเลือกจากมาตรการเบาไปหาหนัก ถ้าประชาชนร่วมมือก็ไม่ต้องใช้กฎอะไรมาบังคับเลย