นายกเมืองพัทยา สั่งรื้อบ้านสุขาวดี รุกที่ดินสาธารณะ 11 ไร่

นายกเมืองพัทยา สั่งรื้อบ้านสุขาวดี รุกที่ดินสาธารณะ 11 ไร่

บ้านสุขาวดียื่นอุทธรณ์ เหตุบุกรุกที่ดินสาธารณะริมทะเล 11 ไร่ คกก.ระดับจังหวัดไม่รับคำวินิจฉัย เมืองพัทยาเปิดเกมรุกปิดหมายคำสั่งรื้ออาคาร สิ่งปลูกสร้างภายใน 15 วัน ถ้ายังดื้อ-ใช้กฎเหล็กนำกำลังรื้อเอง

วันนี้ (25 มี.ค.2563) นายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ได้มอบหมายให้ นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา พร้อมข้าราชการ และเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง เข้าไปดำเนินการปิดประกาศคำวินิจฉัยคำพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ ณ อาคารมูลกรณี เพื่อให้ บริษัท เฮลท์ฟู้ดธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ในนาม บ้านสุขาวดี ตั้งอยู่พื้นที่ ม.2 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เพื่อให้รับทราบ คำวินิจฉัยอุทธรณ์ ที่ 08-23-01-2563 ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ในเขตเทศบาล เขตเมืองพัทยา หรือเขตราชการส่วนท้องถิ่นอื่นในจังหวัดชลบุรี

นายสุธรรม เพ็ชรเกตุ รักษาราชการแทนปลัดเมืองพัทยา กล่าวว่า จากกรณีที่เมืองพัทยาได้มีคำสั่งถึง 6 คำสั่ง ให้ทางบริษัท เฮลท์ฟู้ดธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ในนามบ้านสุขาวดี ดำเนินการแก้ไขปัญหาเรื่องบุกรุกที่ดินสาธารณะ และสิ่งปลูกสร้างที่เกิดขึ้นในที่ดินบุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการปลูกสร้างแต่อย่างใด เป็นเหตุให้นางวาล เตชะวงศ์ และนางสาวจันทยา จันทร์ไชยแก้ว ซึ่งทั้ง 2 คน มีชื่ออยู่ในคณะกรรมการ และประทับตราสำคัญของบริษัท ฯ แต่เมื่อได้ยื่นอุทธรณ์ ต่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ พบว่าทั้ง 2 คน เป็นผู้ลงนามในหนังสืออุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่น แต่ไม่ปรากฏการประทับตราสำคัญของบริษัท เฮลธ์ ฟู๊อดส์ อินเตอร์เนชั่นแนล(ไทยแลนด์) แต่อย่างใด

และกล่าวอีกว่า ขณะนี้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ฯ โดยมี นายวิวัฒน์ มหาผลศิริกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ประธานคณะกรรมการ ได้ให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดชลบุรี ออกหนังสือ แจ้งคำวินิจฉัยอุทธรณ์ มายังนายสนธยา คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา และเจ้าหนักงานท้องถิ่น เพื่อทราบว่าได้อาศัยอำนาจตามมาตรา 51 แห่งพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 และฉบับที่แก้ไขเพิ่มเติม ว่า คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยแล้วว่า ไม่รับการอุทธรณ์ของบริษัท เฮลท์ฟู้ดธ์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ไว้พิจารณา เมืองพัทยาจึงจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ปิดคำวินิจฉัย ไม่รับคำอุทธรณ์ และจะนำกำลัง เครื่องมือ เครื่องกลหนัก เข้าไปดำเนินการรื้อถอน อาคาร สิ่งปลูกสร้างทั้งหมด ที่รุกร้ำเข้ามาในที่สาธารณะที่เมืองพัทยาดูแล จำนวน 11 ไร่ คาดว่าประมาณ กลางเดือนเมษายน 2563 จะต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด

และได้กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทราบว่าทางด้านสุขาวดี ได้ยื่นขอคุ้มครองที่ศาลปกครอง ถ้าศาลปกครองพิจารณาแล้วว่าเมืองพัทยาดำเนินการถูกต้องตามขั้นตอนของกฎหมาย ก็ต้องดำเนินการตามกรอบเวลาที่เมืองพัทยากำหนด ภายใน 15 วัน ให้ดำเนินการรื้อถอน ถ้าไม่ดำเนินการเมืองพัทยาจะเข้ามาดำเนินการรื้อถอนเอง โดยมีค่าใช้จ่าย จำนวน 822,780 บาท (แปดแสนสองหมื่นสองพันเจ็ดร้อยแปดสิบบาทถ้วน) แต่ถ้าทางบ้านสุขาวดีไม่ออกค่าใช้จ่าย ก็ต้องนำพัสดุที่ได้จากการรื้อถอนออกไปขายทอดตลาดต่อไป