‘สมาคมค้าปลีก’ เพิ่มสต็อก รับความต้องการสินค้าพุ่ง

‘สมาคมค้าปลีก’ เพิ่มสต็อก รับความต้องการสินค้าพุ่ง

สมาคมค้าปลีกไทยยันสินค้าพอไม่ต้องกักตุน พร้อมเสริมสินค้าได้ภายใน 6-12 ชั่วโมง ระบุเหตุการณ์ดีกว่าปี 54 ขนส่งได้เส้นทางคมนาคมโลจิสติกส์ไม่ถูกตัดขาด

นายคมสัน ขวัญใจธัญญา รักษาการประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งทำให้เกิดการตื่นตัวของประชาชนในการกักตุนสินค้าซึ่งในช่วงวันหยุดที่ผ่านมาได้มีการเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าเพื่อซื้อสินค้าจำนวนมากว่าพฤติกรรมดังกล่าวอาจเกิดจากประชาชนเห็นพฤติกรรมจากในต่างประเทศซึ่งประชาชนในหลายประเทศมีการไปซื้อสินค้าโดยเฉพาะอาหารสำเร็จรูป ข้าว และกระดาษทิชชู่มาเก็บไว้เป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้ในส่วนของประเทศไทยขอให้ประชาชนมั่นใจว่าประเทศไทยเป็นผู้ผลิตอาหาร มีการผลิตอาหารเพียงพอ อย่างข้าวมีการผลิตเพื่อบริโภคในประเทศ 7.2 ล้านตัน และสามารถเก็บสต็อกไว้บริโภคได้ทั้งปี ส่วนอาหารเพียงพอสำหรับการบริโภคในประเทศไม่น้อยกว่า 3 เดือน ขณะที่อาหารสำเร็จรูปยังสามารถเพิ่มกำลังการผลิตจากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตอยู่ประมาณ 60 - 70% อย่างกรณีบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปสามารถเพิ่มการผลิตได้อีกอย่างน้อยวันละ 5 ล้านซองจากที่ปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 10 ล้านซอง ซึ่งถือว่าสามารถมั่นใจได้ว่าสินค้าจะไม่ขาดแคลนแม้ประชาชนจะมีความต้องการบริโภคมากขึ้น ส่วนในช่วงที่มีความต้องการสินค้าเป็นจำนวนมากก็จะมีการเก็บสต็อกสินค้าเพิ่มเป็น 3 เท่าเพื่อให้สามารถจัดสินค้าขึ้นสู่ชั้นวางได้ภายใน 6 - 12 ชั่วโมง

นอกจากนี้เหตุการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในครั้งนี้จะไม่ทำให้การผลิตและการขนส่งสินค้าสะดุดซึ่งต่างจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปี 2554 ที่น้ำท่วมคลังสินค้าที่อ.วังน้อย จ.อยุธยา ซึ่งหลายบริษัทมีการเก็บสต็อกอาหารสำเร็จรูปและสินค้าไว้ที่คลังสินค้าจุดดังกล่าวเพื่อส่งสินค้าเข้ามายัง กทม.เมื่อน้ำท่วมทำให้ส่งสินค้าเข้ามาไม่ได้ แต่โควิด-19 ไม่ได้กระทบต่อคลังสินค้า จุดกระจายสินค้า และไลน์การผลิตซึ่งในกลุ่มผู้ผลิตอาหารยังคงดำเนินไปตามปกติ