รัฐบาล ยก แคมเปญ 'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' ลดภาระบุคลากรทางการแพทย์

รัฐบาล ยก แคมเปญ 'อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ' ลดภาระบุคลากรทางการแพทย์

รัฐบาล ยก แคมเปญ "อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ" ลดภาระบุคลากรทางการแพทย์ ขอประชาชนฟังข่าวจากศูนย์ ข้อมูลโควิด - 19 ช่องทางเดียวป้องกันการสับสน

นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลโควิด - 19 แถลงสถาการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสประจำวันที่ 20 มีนาคม 2563 กล่าวว่า สถาการณ์ล่าสุดมีผู้ป่วยยืนยันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยอดสะสมปัจจุบันอยู่ที่ 322 ราย โดยเน้นย้ำว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขอให้ประชาชนพักอยู่ที่บ้าน ช่วยกันงดการเดินทางไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปก่อน ด้านเวชภัณฑ์ตัวเลขการผลิตหน้ากากอนามัยทางการแพทย์เพิ่มขึ้น 2 ล้าน 2 แสน 8 หมื่นชิ้น ส่วนหน้ากากอนามัยทางเลือกเป็นอีกมียอดสะสม 12 ล้าน 8 แสนชิ้น พร้อมขอประชาชนอย่ากักตุนหน้ากากอนามัยไปขายเกินราคา เนื่องจากจะถูกดำเนินการทางกฎหมาย

ด้านนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผย ว่า นายกรัฐมนตรีได้เน้นย้ำในเรื่องมาตรการต่างๆ โดยขอให้ประชาชนอย่ายึดติดกับคำว่าปิดประเทศ ขอให้มองที่มาตรการที่ทำให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ซึ่งแม้ว่าจะมีความไม่สะดวกสำหรับคนไทยที่จะเดินทางดลับมายังประเทศไทย จะมีทีมไทยแลนด์แต่ละประเทศเป็นผู้ให้การช่วยเหลือ ยืนยันไม่ได้เป็นการปิดกั้นการเดินเข้าประเทศของคนไทย ซึ่งอาจลำบากไปบ้างแต่ขอให้ดทร ส่วนคำว่าปิดกรุงเทพมหานคร มีผลกระทบจำนวนมาก และเป็นเรื่องที่ยาก จึงเลือกใช้วิธีที่สามารถควบคุมเชื้อทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลได้ พร้อมกับรณรงค์ อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ นอกจากนั้นยังมีการวางแผนตามขั้นตอนในการลำเลียงอาหารไปให้ผู้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ ซึ่งบุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นด่านหน้าในการปะทะเชื้อ การอยู่บ้านถือเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยแบ่งเบาภารของบุคลากรทางการแพทย์ และขอให้ฟังการประชาสัมพันธ์จากทางศูนย์แถลงข่าวเพียงช่องทางเดียวเพื่อป้องกันการสับสน


ในส่วนของ ศาสตราจารย์ นายแพทย์ ยง ภู่วรวรรณ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะไวรัสวิทยาคลินิก ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย กล่าวว่า โรคดังกล่าวเป็นโรคอุบัติใหม่ และมีการกระจายทั่วโลกซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะกวาดล้างในระยะเวลาอันสั้น มากกว่า 150 ประเทศมีการคิดเชื้อ ซึ่งถือว่าปัจจุบันเป็นโรคนำเข้าและติดต่อภายในประเทศ และจะยังคงอยู่ในระยะยาว โดยต้องวางกลยุทธ์ในการต่อสู้ระยะยาว การมีจำนวนผู้ป่วยจำนวนมากพร้อมๆกัน ระบบสาธารณสุขตั้งรับไม่ทัน โดยมีความพยายามยืดระยะเวลาให้ได้นานที่สุดเพื่อ รอองค์ความรู้ใหม่ที่นำมารักษา ลดความสูญเสีย

ทั้งนี้นายแพทย์ยง กล่าวว่า ทุกคนที่ติดเชื้อไม่ใช่จะปอดบวมทั้งหมด โดยร้อยละ 80 สามารถเดินไปไหนมาไหนได้ สามารถใช้แพทย์ทั่วไปรักษาได้ ส่วนเรื่องยากลุ่มจำเป็นที่ต้องใช้ในกลุ่มผู้ที่มีอาการรุนแรงอยู่ที่ร้อยละ 20 หรือประมาณ 1,400 คน และขณะนี้เองรัฐบาลกำลังเจรจาซื้อยาจากประเทศจีน ขอให้สบายใจได้ว่ายารักษาโรคจะมีเพียงพอ

ส่วนเตียงรองรับผู้ป่วย ในระยะแรกทุกคนที่ป่วยต้องการนอนโรงพยาบาลเพื่อป้องกันการนำเชื้อไปติดที่บ้าน แต่หากมีจำนวนผู้ป่วยมากขึ้นจะมีมาตรการหาโรงพยาบาลเสริมในผู้ป่วยที่รอกลับบ้าน และมีโรงพยาบาลหลักใช้ในผู้ป่วยที่มีาการหนักมาก ซึ่งห้องความดันลบจะไม่ให้อากาศออกมาด้านนอกติดกับผู้อื่น เพื่อใช้ในการติดตามอาการ แต่เมื่อทราบแล้วว่าโรคนี้ไม่ได้ลอยในอากาศแต่ติดทางสัมผัส จึงกล่าวได้ว่าไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้องความดันลบ แต่ต้องแยกออกจากผู้ป่วยปกติ รวมถึงใช้พยาบาลแยกชุดเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อ โดยเชื้อว่าหากมีการวางแผนอย่างดีบุคลากรทางการแพทย์ก็จะเพียงพอ

ส่วนจะมีการแพร่กระจายโรคทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ ช่วงที่มีอาการไม่มีหลักฐานพบเชื้อในน้ำอสุจิหรือเยื่อเมือก แต่ยืนยันว่าไม่มีการแพร่ระบาดไปจากแม่สู่ลูกในครรภ์

ด้านนายคมสัน ขวัญใจธัญญา รักษาการประธานสมาคมผู้ค้าปลีกไทย กล่าวถึงการกักตุนสินค้าของประชาชนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าขณะนี้เองมีปริมาณสินค้าที่เพียงพอ และไม่ขาดแคลน หากมีสินค้าหมดชั้นแสดงสิ้นค้าจะมีการเติมเต็มภายใน 12 ชั่วโมง โดยมีการวางแผนประสานงานอย่างใกล้ชิด จะกระจายสินค้าทั่วประเทศให้เพียงพอ เนื่องจากเป็นประเทศที่ผลิตอาหาร แต่สาเหตุซื้ออาหารกักตุน อาจเป็นพฤติกรรมเลียนแบบจากต่างชาติ นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือจากผู้ประกอบการก่อนห้างสรรพสินค้าเปิดบริการจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อ