'คนไทยในอังกฤษ' ร้อง ‘การบินพลเรือน’ ทบทวน ‘Fit to Fly’ สกัดโควิด-19

'คนไทยในอังกฤษ' ร้อง ‘การบินพลเรือน’ ทบทวน ‘Fit to Fly’ สกัดโควิด-19

คนไทยในอังกฤษ ร่อนจดหมายถึง “การบินพลเรือน” ทบทวนมาตรการ “Fit to Fly” สกัดโควิด-19 มีผลตั้งแต่วันที่ 22 มี.ค.นี้ หลังเหตุวุ่นคนไทยนับร้อย แห่ติดต่อสถานทูตไทยในอังกฤษ ขอออกเอกสารประกอบเดินทางกลับประเทศ

มีรายงานว่า คนไทยในอังกฤษ ได้ส่งจดหมายเปิดผนึกด่วนถึงผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรียกร้องให้ทบทวนมาตรการ "Fit to Fly" ซึ่งเป็นแนวทางการสกัดกั้นการแพร่ระบาดไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) จากผู้เดินทางทั้งที่เป็นชาวไทยและต่างประเทศ ที่เข้ามายังประเทศไทย โดยชี้ว่า กระทบสิทธิคนไทย กรณีต้องการกลับประเทศหากมีการระบาดร้ายแรง  และยืนยันว่า การขอใบรับรองแพทย์ในประเทศที่มีการแพร่ระบาดโรคเป็นเรื่องทำได้ยาก เนื่องจากเจ้าหน้าที่ทีมแพทย์พยาบาลทุ่มเทสรรพกำลังไปรักษาผู้ป่วยและดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดอยู่ตอนนี้

ในจดหมายเปิดผนึกมีเนื้อหา ระบุว่า ขอให้ทบทวน ประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย

ตามที่ได้ออกประกาศสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เรื่องแนวปฏิบัติ สำหรับผู้ดำเนินการเดินอากาศที่ทำการบินมายังประเทศไทย คนไทยที่มีรายนามท้ายเอกสารนี้ มีความเห็นว่า ข้อ 4 ของประกาศฉบับนี้ มีผลกระทบโดยตรงต่อบุคคลสัญชาติไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศไทย

การบังคับให้บุคคลสัญชาติไทยต้องมีใบรับรองแพทย์ประเภท fit-to-fly นั้น เห็นว่า น่าจะขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 39 ที่กำหนดว่า “การห้ามคนไทยเข้าราชอาณาจักรจะกระทำไม่ได้” เนื่องจากในขณะนี้ general practice (GP) ในประเทศสหราชอาณาจักรซึ่งสามารถออกใบรับรองดังกล่าวได้ มีภาระที่จะต้องดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ของประเทศสหราชอาณาจักร จึงไม่น่าจะสละเวลาอันมีค่าของพวกเขามาออกใบรับรองแพทย์ให้กับคนไทยซึ่งต้องการกลับราชอาณาจักรไทยได้ และโดยสภาพการพบแพทย์ซึ่งสามารถออกใบรับรองแพทย์ไม่สามารถกระทำได้โดยง่ายเหมือนอยู่ในประเทศไทย ดังนั้น ข้อกำหนดข้อ 4 จึงมีผลเป็นการห้ามคนไทยกลับเข้าบ้านเกิดของคนเองโดยปริยาย

แม้ว่า ทางสถานทูตไทยในประเทศสหราชอาณาจักร จะพยายามบรรเทาภาระของคนไทยที่ต้องการเดินทางกลับราชอาณาจักรไทย โดยการให้มีจัดให้มีแพทย์มาช่วยออกใบรับรองให้คนไทยที่ประสงค์จะเดินทางกลับราชอาณาจักรที่ สถานทูตฯ แต่การเยียวยานี้ ไม่สามารถบรรเทาภาระที่เกิดกับคนไทยที่อยู่ในเมืองอื่นซึ่งอยู่ห่างไกลจากสถานทูตฯได้ นอกจากนั้น การเดินทางมายังสถานทูตฯอาจเป็นการเสี่ยงที่จะทำให้ผู้ประสงค์จะขอใบรับรองแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 ระหว่างทางได้

158467812751

นอกจากนี้ การจัดให้คนไทยไปขอใบรับรองแพทย์ที่สถานทูต ยังส่งผลให้ คนไทยต้องไปรวมตัวที่สถานทูตฯ อันน่าจะเป็นการขัดนโยบายรักษาระยะห่างระหว่างตนเองกับคนอื่นในสังคม (Social Distancing) ของประเทศสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจจะเป็นเหตุแห่งการแพร่กระจายโรคโควิด-19 ต่อบุคคลอื่นอีก

อย่างไรก็ตาม ได้มีการแนบท้ายรายชื่อกับจดหมายเปิดผนึกดังกล่าว เพื่อขอให้ทบทวน ข้อ 4 ของประกาศฉบับนี้ และเปิดโอกาสให้คนไทยได้กลับมาราชอาณาจักรไทยโดยไม่เป็นการสร้างภาระอันเกิดสมควร แต่สามารถป้องกันโรคโควิด-19 ได้ เช่น บังคับให้คนไทยที่เข้าราชอาณาจักรต้องกักตัว ณ สถานที่ใด สถานที่หนึ่งเป็นเวลา 14 วัน เป็นต้น

นอกจากนี้ จดหมายเปิดผนึกฯ ยังได้มีการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนให้ทบทวนมาตรการดังกล่าวแนบท้ายมาด้วย

มีรายงานว่า สำนักงานการบินพลเรือนฯ ได้ออกมาตรการแนวทางปฏิบัติในการเดินทางเข้าประเทศไทยในวานนี้ (19 มี.ค.) โดยจะมีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. ของวันที่ 22 มี.ค. 2563 ตามเวลาประเทศไทย 

แนวทางดังกล่าว ได้ระบุให้คนไทยที่เดินทางเข้าประเทศต้องมีเอกสารประกอบด้วย 1.ใบรับรองแพทย์ที่ยืนยันว่า มีสุขภาพเหมาะสมต่อการเดินทาง และ 2.หนังสือรับรองการเดินทางกลับประเทศไทย ออกให้โดยสถานเอกอัครราชทูตไทย สถานกงสุลใหญ่ หรือกระทรวงการต่างประเทศ 

ส่วนกรณีที่ผู้ที่เดินทางมาทั้งคนไทยและต่างชาติ มาจากจีน มาเก๊า ฮ่องกง อิตาลี อิหร่าน เกาหลี จะต้องมีเอกสารประกอบด้วย 1.ใบรับรองแพทย์ที่ออกให้ก่อนการเดินทางไม่เกิน 72 ชั่วโมง ที่ยืนยันว่า มีการตรวจแล้ว ไม่พบเชื้อไวรัสโคโรน่า และ2.ประกันที่คุ้มครองการรักษาในประเทศไทย ครอบคลุมโรคโควิด-19 เป็นจำนวนไม่น้อยกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ 

158467703992

158467707342