โลกวิ่งหาสมุนไพร ‘ทางเลือก’ สู้ไวรัส

โลกวิ่งหาสมุนไพร ‘ทางเลือก’ สู้ไวรัส

ระหว่างที่ไวรัสโคโรน่า2019 แผลงฤทธิ์ไปทั่วทั้งโลก ความต้องการยาสมุนไพรแผนโบราณก็พุ่งขึ้นเป็นเงาตามตัว โดยพบยอดขายขมิ้นทั้งในยุโรปและเอเชียตะวันตกเพิ่มขึ้น เพราะโรงพยาบาลหันกลับมาสนใจอีกครั้ง

ข้อมูลจากดับเบิลยูเอชโอระบุว่า ยาแผนโบราณรวมทั้งยาจีนสร้างรายได้ราว 6 หมื่นล้านดอลลาร์ต่อปี

ขณะที่ชาวอินโดนีเซียก็หันไปหาเครื่องดื่มสมุนไพรแผนโบราณที่เรียกว่า "จามู" เครื่องดื่มชนิดนี้ทำมาจากขมิ้นชวา ขิงแดง ตะไคร้ และอบเชย ตอนนี้ขายดีเทน้ำเทท่าในตลาดสด ราคาพุ่งไปถึง 150% เล่นเอาพ่อค้าแม่ขายดีใจไปตามๆ กัน ในช่วงที่ผู้คนใช้ยาแผนโบราณเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายสู้กับไวรัสโคโรน่า

158459811975

เฮนนี ฮาร์โซโน วัย 63 ปี แฟนพันธุ์แท้จามู กล่าวกับเว็บไซต์แชนเนลนิวส์เอเชีย ขณะเดินซื้อของในตลาดเก่าจาการ์ตาใต้ว่า ลูกๆ ของเธอในวัย 30 เศษ เพิ่งมาดื่มจามูกันตอนที่โรคโควิด-19 เริ่มกระจายออกจากจีน ตอนนี้เริ่มมีคนทำจามูพกใส่กระติกไปดื่มที่สำนักงานกันแล้ว

ด้านปาริเนม แม่ค้าขายผักในตลาดแห่งนั้น เผยว่า ลูกค้ามาเหมาผักเธอไปหมด หลังจากประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ประกาศว่าอินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อ 2 รายแรก

ด้วยความต้องการสูงขนาดนี้ดันให้ราคาขมิ้นชวาช่วงต้นเดือน มี.ค. จากกิโลกรัมละ 40,000 รูเปี๊ยะห์ พุ่งไปอยู่ที่ 100,000 รูเปี๊ยะห์เมื่อต้นเดือน มี.ค.

ราคาตะไคร้ขึ้นเป็น 2 เท่าอยู่ที่กิโลกรัมละ 60,000 รูเปี๊ยะห์ ขิงแดงจากราว 85,000 รูเปี๊ยะห์ไปอยู่ที่กิโลกรัมละ 150,000 รูเปี๊ยะห์ ก่อนจะตกลงมาเล็กน้อยในสัปดาห์ต่อมาที่กิโลกรัมละ 120,000 รูเปี๊ยะห์

“เห็นแพงๆ อย่างงี้เหอะ ขมิ้นชวาของฉันขายเกลี้ยงตั้งแต่สองวันแรก” ปาริเนมเล่า จากประสบการณ์ขายผักในตลาดนี้มานาน 25 ปี เธอไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แม้แต่ช่วงที่ไข้หวัดนก ซาร์ส หรือโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ระบาดก็ยังไม่ขนาดนี้

แม้จามูมีขายทั่วประเทศอินโดนีเซียแต่เกาะชวานิยมมากที่สุด ว่ากันว่า ผู้นำประเทศอย่างอดีตประธานาธิบดีสุสิโล บัมบัง ยุโดโยโน และประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ก็ชอบดื่มจามูด้วย

ปีก่อนวิโดโดแชร์คลิปการดื่มจามูที่เขาอ้างว่าดื่มทุกเช้ามาราว 18 ปีแล้ว ทำให้สุขภาพแข็งแรงฟิตปั๋ง แถมเมื่อเร็วๆ นี้ตอนโรคโควิด-19 ระบาด เขาก็รับรองสรรพคุณของจามูอีกรอบ ยิ่งทำให้ยอดขายถล่มทลาย

ที่อินเดีย เว็บไซต์อีโคโนมิกไทม์สของอินเดียรายงานว่า ยอดขายขมิ้นทั้งในยุโรปและเอเชียตะวันตกเพิ่มขึ้น เพราะโรงพยาบาลหันกลับมาสนใจอีกครั้ง ชาวอินเดียนั้นมักใช้ขมิ้นสดชงนมร้อน เชื่อกันว่าช่วยให้ระบบทางเดินหายใจแข็งแรง

พ่อค้าอินเดียเล่าว่า ด้วยความกลัวไวรัสทำให้ยอดขายผักและผลไม้ในประเทศสูงขึ้น ขณะที่วงการค้าสัตว์ปีกขายไก่ไม่ออก 

กัวชาล คาการ์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหารบริษัทเคบีเอ็กซ์พอร์ตเผยว่า ความต้องการส่งออกผักและผลไม้โดยรวมเพิ่มขึ้น 15% แต่ความต้องการขมิ้นสดพุ่งขึ้น 300%

บางประเทศก็มีแนวคิดเรื่องสมุนไพรแบบแปลกๆ เหมือนกัน เมื่อวันอังคาร (17 มี.ค.) เว็บไซต์ไทม์สของอังกฤษรายงานว่า ประธานาธิบดีเบอร์ดิมูฮาเมดอฟ วัย 62 ปีของเติร์กเมนิสถาน ประกาศว่า เขาพบวิธีรับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าโดยไม่จำเป็นต้องแยกตัวเองหรือล็อกดาวน์ได้แล้ว สั่งให้รัฐมนตรีจัดการ “พ่นควัน” ทั่วประเทศ ด้วยการเผาสมุนไพร “ฮาร์มาลา” ควันที่ได้มีฤทธิ์ทำลายไวรัสที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

นอกจากวิธีการนี้แล้วประธานาธิบดีไม่ได้เสนอวิธีการอื่นป้องกันการแพร่ระบาด บรรดารัฐมนตรีก็ชมเชยการตัดสินใจของผู้นำ ระบุว่าก่อนหน้านี้เบอร์ดิมูฮาเมดอฟเคยเขียนหนังสือเกี่ยวกับสมุนไพรมาแล้ว

ที่กรุงตูนิส ประเทศตูนิเซีย ประชาชนผู้วิตกกังวลต่างพากันไปปรึกษาหมอยาสมุนไพรและตุนยาแผนโบราณกันยกใหญ่

ความหวาดกลัวโรคระบาดดันให้ราคากระเทียมไปอยู่ที่ 25 ดินาร์ (288 บาท) ขณะที่ลูกค้าอีกหลายรายหันไปหาพืชที่ใช้ได้ผลและราคาเข้าถึงได้

เฮดี อูเอสลาตี เภสัชกรและอธิบดีกรมการแพทย์ตูนิเซียกล่าวว่า เข้าใจได้หากผู้คนจะหันกลับไปหาของดั้งเดิม ตอนนี้ยังไม่มียาหรือพืชวิเศษรักษาไวรัสโคโรน่าได้

“ถ้าเรากลับไปหาวิธีการของปู่ย่าตายายที่ไม่มีอันตราย ไม่สร้างปัญหา ก็โอเคนะ” พร้อมกันนั้นอธิบดีกรมการแพทย์ตูนิเซียเตือนว่า ให้ใช้อย่างระมัดระวัง อย่าให้ถูกหลอก เนื่องจากหลายคนอาศัยช่วงจังหวะที่สังคมกำลังตื่นตระหนก หลอกขายยาปรุงขึ้นเองโดยทราบว่าทำมาจากส่วนผสมใดบ้าง