เอเชียเตรียมรับ 'บูมเมอแรงเอฟเฟค' เมื่อพลเมืองกลุ่มเสี่ยง 'โควิด-19' กลับบ้าน

เอเชียเตรียมรับ 'บูมเมอแรงเอฟเฟค' เมื่อพลเมืองกลุ่มเสี่ยง 'โควิด-19' กลับบ้าน

รัฐบาลในเอเชียกำลังเตรียมมาตรการรับมือผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ เมื่อประชาชนหนีโรคในยุโรป อเมริกาเหนือ และตะวันออกกลางกลับสู่มาตุภูมิ

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ในช่วงที่โลกระดมสรรพกำลังสู่ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ และไต้หวันค่อนข้างประสบความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดจนถึงขณะนี้ แต่ช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาอิมพอร์ตเคสเพิ่มจำนวนขึ้นมาก จนน่าห่วงว่าสิ่งที่ทำไปอาจไม่ได้ผล

“ในหลายประเทศจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วเรียกได้ว่าพุ่งพรวด ถ้าเราไม่ใช้มาตรการเข้มงวด ดิฉันเกรงว่าความพยายามทั้งหลายที่ทำมาตลอด 2 เดือนจะสูญเปล่า” แคร์รี หล่ำ หัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกงแถลง

ทั้งนี้ เมื่อวันจันทร์ (16 มี.ค.) จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ยืนยันแล้วในจีนแผ่นดินใหญ่ ศูนย์กลางการแพร่ระบาดที่แรก อยู่ที่ 21 คน ในจำนวนนี้ 20 คน มาจากต่างประเทศ ส่วนใหญ่เป็นคนสัญชาติจีน ส่วนฮ่องกงเผยว่า ผู้ติดเชื้อใหม่ในรอบสองอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นอิมพอร์ตเคส

ในไต้หวัน นับถึงวันนี้ (17 มี.ค.) มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 24 คน ทั้งหมดล้วนมาจากต่างประเทศ ส่วนเกาหลีใต้ข้อมูลเมื่อวันอาทิตย์พบว่า มีผู้ติดเชื้อใหม่ 44 คน เป็นนักเดินทางที่ติดไวรัสมาแล้ว

สิงคโปร์ ผู้ติดเชื้อใหม่ยืนยันแล้วเมื่อวันจันทร์ จำนวน 17 คน เพิ่มขึ้นรายวันสูงสุด ในจำนวนนี้ 11 คนมาจากต่างประเทศ

ตอนนี้ผู้คนต่างแห่กันหนีไวรัสในยุโรปและสหรัฐ ดันให้ราคาค่าตั๋วเครื่องบินสูงขึ้น ตั๋วจากลอนดอนมาฮ่องกงเมื่อคืนวันจันทร์เพิ่มขึ้นเป็น 50,000 ดอลลาร์ฮ่องกง เนื่องจากประชาชนต้องการเดินทางมาถึงก่อนฮ่องกงบังคับใช้ข้อห้ามเดินทางที่เข้มงวดยิ่งขึ้น

“อยู่บ้านปลอดภัยกว่าอยู่ในอังกฤษ นโยบายสกัดการแพร่ระบาดของนายกฯ บอริส จอห์นสัน ไม่น่าไว้วางใจ” หลิง นักศึกษามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ กล่าวหลังจากเครื่องลงจอดที่ฮ่องกง เธอป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากผ่าตัดและถุงมือยาง

กระทรวงสาธารณสุขอังกฤษแถลงเมื่อวันจันทร์ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนายืนยันแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 1,543 คน จาก 1,372 คนเมื่อวันก่อนหน้า จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 55 คน

มาตรการเข้มข้นกว่าเดิม

มาตรการที่จีน ฮ่องกง และสิงคโปร์นำมาใช้จนประสบความสำเร็จ เช่น ปิดเมือง ควบคุมพรมแดน ติดตามการติดต่อผู้คนของผู้ติดเชื้อ และเว้นระยะทางสังคม (social distancing) อย่างเข้มงวด

อย่างไรก็ตาม นอกจากชีวิตผู้คน ไวรัสยังสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างหนักหน่วง โดยเฉพาะในจีนแผ่นดินใหญ่และฮ่องกงที่เป็นศูนย์กลางการเงินโลก หากมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มย่อมเสียหายมากขึ้นไปอีก

วันนี้ฮ่องกงออกมาตรการเข้ม ใครมาถึงฮ่องกงตั้งแต่เที่ยงคืนวันพฤหัสบดีจะต้องกักตัว 14 วัน พร้อมแนะนำประชาชนอย่าเดินทางโดยไม่จำเป็นเช่นเดียวกับสิงคโปร์

จีนระบุว่า นักเดินทางขาเข้าทุกคนที่มายังกรุงปักกิ่ง จำเป็นต้องถูกแยกตัวเป็นเวลา 14 วันในสถานที่ที่กำหนดส่วนใหญ่เป็นโรงแรมในกรุงปักกิ่ง

มาเก๊า ศูนย์กลางการพนันใหญ่สุดของโลก ห้ามผู้ที่ไม่มีถิ่นพำนักในมาเก๊าทุกคนเข้าพื้นที่ ความเคลื่อนไหวนี้ส่อเค้าส่งผลกระทบสำคัญต่ออุตสาหกรรมกาสิโนที่ย่ำแย่อยู่แล้ว

ความจริงจังของเอเชียในการรับมือไวรัสเห็นได้จาก บทลงโทษหรือคำขู่ที่เล่นงานผู้ฝ่าฝืนระเบียบกักตัว หรือผู้แห่งข้อมูลถิ่นที่อยู่หรือประวัติการเดินทางเท็จ

ที่ไต้หวัน ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามกฎแยกตัวอยู่บ้านหรือการกักกันตัว มีโทษปรับ 1 แสนล้าน-1 ล้านดอลลาร์ไต้หวัน พร้อมแนะนำประชาชนไม่เดินทางไปต่างประเทศเลย

“เราสกัดคลื่นติดเชื้อระลอกแล้วได้อย่างเหนียวแน่น แต่ระลอกใหม่กำลังมา ดังนั้นทุกคนต้องให้ความร่วมมือกับความพยายามป้องกันโรค” เจิ้น ชีจุง รัฐมนตรีสาธารณสุขแถลงเมื่อวันจันทร์

บูมเมอแรงเอฟเฟค

ขณะนี้แม้ยอดติดเชื้อจากต่างประเทศในจีนแผ่นดินใหญ่ยังไม่มากนักที่ 143 คน แต่ทางการกังวลว่าพาหะไวรัสจะทำให้เกิดคลื่นการระบาดระลอกที่ 2

จีนพบอิมพอร์ตเคสรายแรกเมื่อปลายเดือน ก.พ. ในเขตปกครองหนิงเซี่ยทางตะวันตกเฉียงเหนือ เป็นนักเดินทางรายหนึ่งที่มาจากอิหร่าน หลายคนเพิ่งกลับจากอิหร่าน จุดอันตรายอีกแห่งหนึ่งที่มีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบ 15,000 คน

เร็วๆ นี้ยังพบผู้ติดเชื้อบนเที่ยวบินจากหลายๆ ประเทศ เช่น สเปน อังกฤษ ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สหรัฐ อียิปต์ ซาอุดีอาระเบียสัปดาห์นี้พบบนเที่ยวบินจากฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และไทยด้วย