กลุ่มรพ.-ประกัน ปิ๊งไอเดีย ผุดโปรดักส์โควิด-19 สู้วิกฤติ

กลุ่มรพ.-ประกัน ปิ๊งไอเดีย ผุดโปรดักส์โควิด-19 สู้วิกฤติ

มักจะมีคำพูดเสมอว่าภายใต้วิกฤติย่อมมีโอกาส ให้คนที่มองเห็นและมีข้อมูลเข้าถึง ได้พลิกจุดเปลี่ยน ซึ่งวันนี้นักลงทุนในตลาดหุ้นไทยและทั่วโลกไม่มีใครปฎิเสธว่าตลาดหุ้นอยู่ช่วงวิกฤติรอบใหญ่อีกครั้ง

      และนั้นหมายถึงโอกาสของหลายธุรกิจที่ปรับตัวสู้ต้นตอปัญหา อย่าง ไวรัสโควิด -19

      จากที่ผ่านมาราคาหุ้นในกลุ่มบิ๊กแคปลงมาในระดับที่ถูก มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลที่สูง มีเงินสดมากพอที่จะออกโครงการซื้อหุ้นคืน เพื่อพยุงราคาหุ้นของตัวเอง จนทำให้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีการประกาศซื้อหุ้นคืนแล้วถึง 28 บริษัท

      รวมไปทั้งการซื้อหุ้นในนามส่วนตัวและครอบครัวของเหล่าเจ้าของและผู้ถือหุ้นใหญ่ด้วยมูลค่าจำนวนมาก ซึ่งปัจจัยเหล่านี้หากอยู่ในสถานการณ์ปกติจะทำให้หุ้นบวกถล่มทลายแต่ด้วยสถานการณ์ที่ยังไม่รู้ว่าไวรัสจะระบาดจนพีคสูงเมื่อไร จะมีมาตรการรุนแรงปิดเมืองตามที่เกิดขึ้นในยุโรปหรือไม่ ล้วนทำให้ตลาดหุ้นยังอยู่ในภาวะเสี่ยง (Risk Off)

      หุ้นที่น่าจะได้ผลดี เช่น โรงพยาบาล หรือ ธุรกิจประกัน ก็ไม่รอดจากผลกระทบเพราะในช่วงแรกกลุ่มลูกค้าต่างชาติหายไปกระทบโรงพยาบาลขนาดใหญ่ที่รายได้จากต่างชาติ และตามมาด้วยการไม่ไปสถานที่สุ่มเสี่ยง

     หลังจากไทยเริ่มมีตัวเลขผู้ติดเชื้อมากขึ้นและที่สำคัญคือยังไม่ถึงจุดพีคจึงทำให้กลุ่มโรงพยาบาลหันมาตั้งรับธุรกิจสู้โควิด- 19 ด้วยการออกแพ็กเกจหรือบริการเฉพาะช่วงขึ้นมากันอย่างคึกคัก โดยที่มีโรงพยาบาลรามคำแหง (RAM) ที่เปิดบริการสุดฮิตนำระบบ “ไดรฟ ทรู” ตามร้านอาหารฟาดฟู้ดตรวจเชื้อโควิด-19 หรือการขับรถมารับการตรวจโดยไม่ต้องลงจากรถ อัตราบริการ 6,500 บาทต่อราย ซึ่งเริ่มบริการตั้งแต่วัน 13 มี.ค. ที่ผ่านมา

     โรงพยาบาลใหญ่ บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เสนอให้ส่วนลด 50% ค่าห้องพักผู้ป่วยในหออภิบาลผู้ป่วยกึ่งวิกฤต หออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติและส่วนลด30%สำหรับการตรวจด้วยเครื่องมือพิเศษ ได้แก่ X-ray, MRI,CT,Echocardiogram (Echo) และ Exercise Stress Test (EST) เป็นต้น ตั้งแต่วันที่ 11 มี.ค. – 30 มิ.ย. 2563

       ด้านโรงพยาบาลบำรงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH ที่นำเสนอบริการก่อนหน้าด้วยสายด่วนการแพทย์ที่บ้าน รวมบริการปรึกษาแพทย์ จัดส่งยา บริการเจาะเลือด ซึ่งคิดค่าบริการเป็นนาที เช่น ค่าปรึกษาแพทย์ 15 นาที 500 บาท จนถึง 30 เม.ย. นี้

      ถัดมา โรงพยาบาล วิภาวดี จำกัด (มหาชน) หรือ VIBHA แพ็กเกจวัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ และวัคซีนป้องกันโรคปอดบวมชนิดรุนแรง 4 สายพันธุ์อัตราให้ค่าแพ๊กเกจสูงสุด 2,990 บาท ตั้งแต่ 16 มี.ค. – 30 เม.ย. 2563

      ส่วนบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG ของกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี ซึ่งเปิดแนวโน้มธุรกิจ ว่าเตรียมพร้อมที่ดิน 4 ไร่ สร้างโรงพยาบาลสนามร่วมกับภาครัฐรับมือโควิด-19 หากไทยเข้าสู่เฟส 3

      ร่วมทั้งธุรกิจประกันที่ออกกรมธรรม์ประกันโควิด-19 เบี้ยต่ำสุดตั้งแต่ต่ำสุดหลักร้อยคุ้มครองหลักแสนบาท ซึ่งทยอยออกมาตั้งแต่ปลายเดือนก.พ. และปรากฎว่าประชาชนแห่ซื้อจนยอดเบี้ยประกันทุบสถิติทำสายออนไลน์ล่มไปหลายเจ้า ล่าสุดประกันหลายค่ายเริ่มหยุดขายประกันเงื่อนไขเก่าเพื่อปรับใหม่ ให้สอดรับกับสถานการณ์ที่มีโอกาสติดเชื้อมากขึ้น ซึ่งทำให้ บริษัท ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TQM เป็นโบรกเกอร์ประกันได้ผลดีตามไปด้วย

      อย่างไรก็ตามภาพรวมของธุรกิจโรงพยาบาลในมุมมอง ของ บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ดีบีเอส วิคเคอร์ (ประเทศไทย) ยังถูกกระทบในกลุ่มมีลูกค้าต่างชาติมากกว่าโรงพยาบาลกลาง-เล็ก เพราะจำนวนคนไข้ต่างชาติมีแนวโน้มลดลงมากในปีนี้ โรงพยาบาลที่คาดว่าจะมีกำไรสุทธิเติบโตได้ดีในปี 2563 คือ CHG, RJH, RPH ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากคนไข้ต่างชาติเพียง 3-4% ของรายได้รวมเท่านั้น

      หุ้น Top pick คือ CHG และ BDMS ทั้งนี้ SETHEALTH ลดลง -21%YTD ดีกว่า SET Index ที่ -29%YTD และใน 6 โรงพยาบาลที่วิเคราะห์ คือ BH, BDMS, BCH, CHG, RJH, RPHพบว่าราคา CHG ลดลงน้อยกที่สุด คือ -8%YTD ส่วนราคา BH ก็ยืนได้ดีขึ้นเมื่อ BDMS ประกาศทำเทนเดอร์ฯที่ราคา 125 บาท