'เอสซีจี'รับมือโควิดระบาด เลี่ยงไปนอก-ประชุมออนไลน์

'เอสซีจี'รับมือโควิดระบาด  เลี่ยงไปนอก-ประชุมออนไลน์

เปิดแผนเอสซีจี รับมือโควิด-19 หลังบริษัทย่อยพบคู่ธุรกิจมีพนักงานติดเชื้อ จัดตั้งคณะทำงานติดตามสถานการณ์ วางแผนรับมือทันท่วงที พร้อมวางแผนเชิงรุก-รับ งดเดินทาง 2 กลุ่มประเทศระบาด เปิดทางพนักงานทำงานที่บ้าน จัดอบรมสัมมนาเน้นไลฟ์สด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เอสซีจี ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยจัดทำแผนทั้งเชิงรุกและเชิงรับ ได้แก่ 1.มาตรการเชิงรุกในการดูแลพนักงาน กรณีบริษัทมาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด (MOC) บริษัทย่อยในเครือเอสซีจี ที่ตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรม อาร์ ไอ แอล ต.มาบตาพุด อ.เมือง จ.ระยอง พบพนักงานจากบริษัทคู่ธุรกิจซึ่งเป็นบริษัทตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อมติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาใช้พื้นที่ในห้องอบรมชั่วคราว ในบริษัท MOC ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. 2563 จึงได้ติดตามตรวจสอบผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งไม่พบพนักงานของบริษัท หรือพนักงานคู่ธุรกิจคนอื่นที่แสดงอาการติดเชื้อโควิด-19 

จากนั้น จึงปิดทำความสะอาด ฆ่าเชื้อโรคและอบโอโซน ห้องอบรมชั่วคราวเพื่อลดความเสี่ยง และปิดพื้นที่ ตั้งแต่วันที่ 9-15 มี.ค.2563 พร้อมทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบริเวณที่คู่ธุรกิจเข้ามาในพื้นที่ ตลอดจนให้พนักงานและคู่ธุรกิจหยุดพักงานทันที เพื่อสังเกตอาการ14 วัน นับจากวันที่ 28 ก.พ. 2563

 2.มาตรการรับมือของเอสซีจี ตามแผนการบริหารจัดการความต่อเนื่องธุรกิจ (Business Continuity Management-BCM) ในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยจัดตั้งคณะทำงานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ดังกล่าว เพื่อนำมากำหนดเป็นแนวทางปฏฺบัติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว 

ทั้งนี้ได้จัดทำแผนปฏิบัติการรับมือ  3 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการในการเดินทางไปต่างประเทศ แบ่งกลุ่มปฏิบัติตามกลุ่มประเทศ 2 กลุ่มคือ ประเทศกลุ่มที่ 1 ประเทศที่มีการระบาดอย่างต่อเนื่อง (Ongoing Local Transmission) ประกอบด้วย จีน (รวมฮ่องกง มาเก๊า), เกาหลีใต้, อิตาลี, อิหร่าน, ไต้หวัน, สิงคโปร์, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, ญี่ปุ่นและสเปน ห้ามพนักงานเดินทางหรือแวะ(Transit) เน้นการประชุมผ่านTeleconference และให้พนักงานที่ประจำต่างประเทศพิจารณาทำงานที่บ้าน (Work at Home) หรือ เดินทางกลับมาทำงานที่ประเทศไทย หรือ ประเทศอื่น ๆ 

ส่วนกลุ่มประเทศกลุ่มที่ 2 - ประเทศที่มีการรายงานผู้ป่วยยืนยันโรคติดเชื้อ โควิด-19 อ้างอิงตามประกาศองค์การอนามัยโลก (WHO) ทั้งหมด 111 ประเทศ อาทิ กรีก, กัมพูชา, กาตาร์, ชิลี, เดนมาร์ก เป็นต้น ให้หลีกเลี่ยงหรืองดการเดินทาง ส่วนพนักงานที่เดินทางกลับมาหรือแวะผ่าน ต้องรายงานการเดินทางในแบบฟอร์มออนไลน์ พร้อมหยุดงานหรือทำงาน 14 วัน หากมีอาการผิดปกติต้องรีบพบแพทย์ทันที และเมื่อมีอาการปกติหลังจากหยุดครบ 14 วัน ต้องพบแพทย์เพื่อตรวจความแข็งแรงของร่างกายก่อนกลับเข้าทำงาน (Return to Work) 

สำหรับมาตรการจัดการภายในสำนักงาน มีการคัดกรองพนักงานและบุคลากรก่อนเข้าอาคาร มีการตรวจวัดอุณหภูมิ ตรวจสอบประวัติการเดินทางของผู้มาติดต่อก่อนเข้าอาคารตลอดวัน จัดอบรมให้ความรู้พนักงานโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมแจกหน้ากากอนามัยให้พนักงาน รวมถึงติดตั้งจุดให้บริการแอลกอฮอล์ เจลล้างมือ รวมถึงมีการทำความสะอาดจุดสัมผัสลิฟท์ทุกชั่วโมง

ในส่วนของการจัดงานประชุม สัมมนา หรือกิจกรรมที่มีการรวมกันของคนหมู่มาก จะต้องเลื่อนการจัดงาน ฯ ยกเว้น กรณีมีความจำเป็น ให้มีการบริหารจัดการสื่อสารและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ร่วมงาน โดยจัดช่องทางรับชมการถ่ายทอดสด และชี้แจงให้ผู้ที่เข้าร่วมงานลงทะเบียนและกรอกประวัติการเดินทางล่วงหน้า รวมไปถึงการเตรียมสถานที่จัดงาน ให้พร้อมรองรับผู้เข้าร่วมงาน โดยการลดความแออัดของพื้นที่ในการจัดประชุม ด้วยการเพิ่มระยะในการจัดที่นั่ง หรือเพิ่มห้องประชุม พร้อมกำหนดจุดคัดกรอง และทำความสะอาดอุปกรณ์และบริเวณที่มีผู้สัมผัสปริมาณมากตลอดช่วงระยะเวลาจัดงาน

จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า ผู้บริหารในเอสซีจีหลายคน  มีกำหนดการเดินทางไปพบลูกค้าในช่วงครึ่งแรกของปี ได้ทยอยเลื่อนการเดินทางไปต่างประเทศ ทั้งการร่วมงานแสดงสินค้า เจรจาธุรกิจและเจรจาขายสินค้า โดยมีการปรับแผนการทำงานใช้โอกาสในช่วงที่อยู่ในประเทศไทยเดินทางไปเยี่ยมลูกค้าร้านตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ในต่างจังหวัดทดแทนการเดินทางไปต่างประเทศ