บอร์ด SGP-SCP ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน

บอร์ด SGP-SCP ไฟเขียวซื้อหุ้นคืนฟื้นเชื่อมั่นนักลงทุน

บอร์ด SGP อนุมัติซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน1 พันล้านบาท จำนวน 91 ล้านหุ้น เริ่ม 27 มี.ค. -26 ก.ย. 63 ด้าน SCP ประกาศซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 98.55 ล้านบาท จำนวนไม่เกิน 15 ล้านหุ้น เริ่ม31 มี.ค. -29 ก.ย.63 หวังสร้างความมั่นใจนักลงทุน

บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.)ว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด)บริษัทอนุมัติโครงการซื้อหุ้นค่นของบริษัทเพื่อการบริหารทางการเงิน ภายในวงเงินไม่เกิน 1,000 ล้านบาท จำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 91 ล้านหุ้น คิดเป็นจำนวนไม่เกิน 5 % ของหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท โดยเริ่มซื้อตั้งแต่วันที่ 27 มี.ค. -26 ก.ย. 2563


ทั้งนี้บริษัทมีกำไรสะสมของริษัทณ สิ้น31 ธ.ค.2562 (งบการเงินเฉพาะกิจการ)อยู่ที่ 4,081ล้านบาท มีหนี้ที่ถึงกำหนดชำระภายใน6 เดือนนับแต่วันที่ซื้อหุ้นคืนจำนวน 469.40 ล้านบาท เมื่อพิจารณากระแสเงินสดจากการดำเนินงานประจำปี 2562 จำนวน 550 ล้านบาท เทียบกับภาระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยที่ถึงกำหนดชำระภายใน 6 เดือน (เม.ย.63-ก.ย.63) จำนวน 469.40 ล้านบาท บริษัทยังคงมีสภาพคล่องเพียงพอต่อการชำระหนี้ที่จะถึงกำหนดดังกล่าว


สำหรับการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้เพื่อบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัท ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น( ROE)รวมถึงเพิ่มอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น ( EPS) และเป็นการส่งสัญญาณแก่นักลงทุนถึงสถานะการเงินที่แข็งแกร่งของบริษัท

ด้านบริษัททักษิณคอนกรีต จำกัด (มหาชน)หรือ SCP แจ้งว่า บอร์ดบริษัทอนุมัติซื้อหุ้นคืนวงเงินไม่เกิน 98.55 ล้านบาท ซื้อหุ้นจำนวน 15 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน5 % ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด เริ่มซื้อตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. -29 ก.ย.2563 ซึ่งณสิ้น31 ธ.ค.2562 บริษัทมีกำไรสะสมจำนวน 1,709.28 ล้านบาท และบริษัทมีสภาพคล่องมีสภาพคล่องส่วนเกินเพียงพอในการซื้อหุ้นคืนครั้งนี้


สำหรับการซื้อหุ้นคืนเพื่อ ทำให้อัตราส่วนทางการเงินปรับตัวดีขึ้น และอัตราผลตอบแทนต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE)และอัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS)ปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลจากจำนวนหุ้นที่ลดลงจากการซื้อหุ้นคืน อัตราผลตอบแทนเงินปันผลมีแนวโน้มสูงขึ้น และเพื่อสร้างความมั่นใจต่อสถานะการเงินและความสามารถในการทำกำไรของบริษัทในอนาคต ซึ่งจะทำให้ราคาหุ้นในอนาคตสะท้อนมูลค่าที่แท้จริง