'อนุพงษ์' ยืนยัน ไม่ปิดศูนย์กักตัวทุกแห่ง

'อนุพงษ์' ยืนยัน ไม่ปิดศูนย์กักตัวทุกแห่ง

"อนุพงษ์" ยืนยัน ไม่ปิดศูนย์กักตัวทุกแห่ง เตรียมรับสถานการณ์อนาคต ขอโทษสื่อสารผิดพลาด จากนี้ส่งทุกคนกลับภูมิลำเนาไปกักตัวเอง แต่มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามตลอด ส่วนการยกเลิกฟรีวีซ่า และวีซ่าหน้าด่าน มีผลตั้งแต่พรุ่งนี้


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันไม่ปิดศูนย์ดูแลสุขภาพผู้มีความเสี่ยง (ศูนย์กักตัว) ทุกแห่ง พร้อมกล่าวขอโทษที่สื่อสารผิดพลาด ทำให้เกิดความไม่เข้าใจ โดยจะให้ผู้ที่พักอาศัยทยอยกลับภูมิลำเนาไปกักตัวเอง โดยมีเจ้าหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขคอยติดตาม ส่วนศูนย์ฯ จะยังรักษาไว้ก่อน หากจำเป็นในอนาคตก็สามารถใช้ได้ทันที ทั้งนี้ จะใช้มาตราการควบคุมจากท้องถิ่นเสริมด้วย ซึ่งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายค่าอาหารของรัฐบาล เพราะตามกฎหมายผู้ที่ถูกกักตัวต้องรับผิดชอบตัวเอง


ด้านนายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ ที่ปรึกษาระดับกระทรวง และโฆษกกระทรวงสาธารณสุข ชี้แจงเพิ่มเติมเรื่องศูนย์ฯ ว่า เมื่อทุกคนทยอยออกจากศูนย์แล้ว จะมีการพัฒนาปรับปรุงเพิ่มเติม เพื่อดูแลกลุ่มผู้มีความเสี่ยง และพวกที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ก็จะส่งมาเข้าศูนย์ หรือบางคนมาไม่มีที่อยู่รัฐก็ต้องดูแล อีกทั้งเมื่อสถานการณ์เปลี่ยน ศูนย์ฯ อาจจะมีประโยชน์


ส่วนการประกาศยกเลิกชั่วคราวการตรวจลงตรา ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง หรือ Visa on Arrival ใน 17 ประเทศ และ 1 เขตเศรษฐกิจ รวมถึงการยกเลิกขอวีซ่าฟรี 3 ประเทศที่มีความเสี่ยงสูง คือ ฮ่องกง อิตาลี และ เกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 13 มีนาคม ถึง 30 กันยายน 2563 พล.อ.อนุพงษ์ ย้ำว่า สามารถประกาศใช้ได้ทันที แต่ยืนยันไม่ได้ยกเลิกการเข้าประเทศ หากชาวต่างชาติจะเข้าประเทศไทย ให้ไปขอวีซ่าผ่านสถานทูตไทยในประเทศนั้น พร้อมกับมีใบรับรองแพทย์ก่อนเข้าประเทศไทย แต่ถ้ามาจาก 4 ประเทศกลุ่มเสี่ยง คือ จีน (รวมฮ่องกง+มาเก๊า) อิตาลี เกาหลีใต้ และอิหร่าน ต้องไปกักตัวเองที่ โรงแรมโนโวเทลสุวรรณภูมิเป็นเวลา 14 วัน ส่วนคนไทยสามารถกักตัวที่บ้านได้ แต่ต้องโหลดแอพพลิเคชั่น ไว้ติดตามตัว ซึ่งมีทั้งแอพ Sydekick และ AOT Airports

นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยืนยันว่า การให้โหลดแอพ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้คนไทยทั่วประเทศ โดยจะเก็บข้อมูลไว้ 14 วัน จากนั้นจะลบทิ้งตามระบบสากล ทั้งนี้หากผู้ที่โหลแอพ ไม่ตอบสนองการติดตามของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็สามารถตรวจสอบสัญญาณสุดท้ายของบุคคลนั้นได้ เพื่อคิดตามตัวต่อไป ซึ่งจะมีโทษตามกฎหมาย