"รีบาวด์"ในกรอบจำกัด

"รีบาวด์"ในกรอบจำกัด

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวขึ้น 15 จุด รีบาวด์คล้ายกับตลาดหุ้นภูมิภาค หลังจากที่วันก่อนหน้าดัชนีปรับร่วงแรง

นอกจากนี้ ดัชนีภายในประเทศยังได้แรงหนุนจากมาตรการดูแลผลกระทบเศรษฐกิจ-ประชาชนจากไวรัสโควิด ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,271.25 จุด (+15.31 จุด) Volume 7.4 หมื่นลบ. ต่างชาติ -7,237.94 ลบ. TFEX Net +6,940 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 1,167.14 จุด +4.89% ส่วนราคาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 3.23 ดอลลาร์ +10.4% ปิดที่ 34.36 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

+สหรัฐเผยดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจขนาดย่อมสูงกว่าคาดในเดือนก.พ.

+รมว.คลัง เผยครม.เห็นชอบมาตรการระยะที่ 1 ทั้งด้านการเงิน ภาษี และมาตรการอื่นดูแลผลกระทบเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด-19

+ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดเพิ่มขึ้น 53.47 จุด +1.82% และดัชนีนิกเกอิปิดบวก 168.36 จุด +0.85% ฟื้นตัวหลังจากที่วันก่อนหน้าร่วงลงแรง

-ซาอุฯเมินรัสเซียส่งสัญญาณเจรจา เดินหน้าผลิตน้ำมันเต็มที่

-FETCO รายงานดัชนี ความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้าลดลง 11% อยู่ในเกณฑ์ซบเซาเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน

-ราคาทองคำอ่อนตัวลงหลังนักลงทุนหันเข้าซื้อสินทรัพย์เสี่ยงทั้งหุ้นและน้ำมันจากที่ราคาปรับตัวลงแรงช่วงก่อนหน้านี้

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 64,327.73 ลบ. ค่าเงินบาท 31.43 บาท/US

*จับตาสหรัฐเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.พ. และสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทยมีโอกาส Rebound  ในกรอบจำกัด โดยมีแรงหนุนจากถ้อยแถลงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ว่ารัฐบาลสหรัฐจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ เพื่อลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยคณะบริหารของรัฐบาลสหรัฐจะเร่งผลักดันให้สภาคองเกรสอนุมัติมาตรการดังกล่าว ประกอบกับได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้น 10.4%  คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,250-1,290 จุด

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)
  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • เก็งกนง.ลดดอกเบี้ย (BAM MTC BFIT AMANAH)

หุ้นรายงานพิเศษ

PRM - Analyst Meeting Bloomberg Consensus 8.08 บาท มุมมองบวก

รายงานกำไรปี 62 เท่ากับ 1.1 พันลบ. โต 50%YoY โดยมีรายได้เท่ากับ 5.3 พันลบ. โต 19% YoY จากธุรกิจขนส่งเรือภายในประเทศซึ่งมีสัดส่วน 42% เติบโต 19%YoY และธุรกิจ Floating Storage ซึ่งมีสัดส่วน 31% เติบโต 29%YoY โดยมีปัจจัยเติบโตตามความต้องการใช้น้ำมันในประเทศที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับการปรับใช้กฎ IMO2020 ทำให้มีการกักตุนน้ำมัน Low Sulphur เพิ่มมากขึ้น ส่วน %GPM ปรับดีขึ้นมาที่ระดับ 31.7% จากปีก่อนอยู่ที่ระดับ 24.8% เติบโตตาม U.rate ที่ดีขึ้น ประกอบกับค่า freight ที่เพิ่มขึ้น

บริษัทคงมุมมองบวกต่อแนวโน้มปี 63 พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 20-25% โดยมีปัจจัยเติบโตจากการขยายกองเรือที่เพิ่มขึ้นสู่ 46 ลำ จากปลายปี 62 มี 43 ลำ ขยายตามความต้องการใช้น้ำมันภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี บริษัทประเมินผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ในวงจำกัด ซึ่งปัจจุบัน สถานการณ์ดังกล่าวกระทบเพียงการขนส่งน้ำมันเครื่องบินเท่านั้น ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนรายได้ 3-5% และถูกแก้เกมด้วยการเปลี่ยนไปขนส่งน้ำมันชนิดอื่นแทน ขณะที่ ประเด็นราคาน้ำมันที่ร่วงแรง บริษัทคาดว่าจะได้ประโยชน์จากการช่วยหนุนให้ผู้บริโภคเร่งการใช้น้ำมัน ซึ่งจะเป็นบวกทั้งธุรกิจการขนส่งน้ำมันภายในประเทศ และ FSU

เรามีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการปี 63 ที่คาดว่าจะเติบโตได้ในระดับเดียวกันกับปีที่ผ่านมา ขณะที่ ราคาหุ้นปรับตัวลงกว่า 50% นับตั้งแต่ต้นปี ทำให้ราคาหุ้นมี Upside จาก Consensus กว่า 100% จึงมองโอกาสเป็น ซื้อสะสม

หุ้นมีข่าว   

·       SKN Analyst Meeting (Bloomberg Consensus - บาท

รายได้ปี 19 อยู่ที่ระดับ 2.3 พันล้านบาท เติบโต +51.6%YoY เนื่องจากปริมาณการขายสินค้าไม้ MDF เพิ่มสูงขึ้นจากกำลังการผลิตของสายการผลิตที่ 2 ที่เพิ่มเข้ามา โดยยังคงได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็ง และราคาขายเฉลี่ยปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้า ด้านต้นทุนขายปี 19 เท่ากับ 1.9 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น +69.35YoY เนื่องจากจำเป็นต้องหยุดเครื่องจักร เพื่อติดตั้งระบบควบคุมสิงแวดล้อมเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิที่ระดับ 60.4 ล้านบาท ลดลง -70.79%YoY

ทิศทางผลประกอบการปี 20 คาดจะเติบโตกว่าปีก่อน เนื่องจาก 1) รับรู้รายได้จากสายการผลิต 2 เต็มปี 2) ราคาขายปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน เป็นผลจากการเจรจาปรับราคากับคู่ค้า 3)การลุงทุนเครื่องผลิตกาว ที่จะสามารถเดินเครื่องได้ในช่วง 2H20 จะส่งผลให้บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้น

ความเป็น เรามีมุมมองเชิงบวกหลังการประชุมนักวิเคราะห์ เนื่องจากสายการผลิต 2 สามารถ break even และเดินเครื่องได้ถึงระดับ 80% ส่งผลให้ต้นุทนคงที่ต่อหน่วยปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับตัวลงแรง อาจส่งผลให้กำลังซื้อของลูกค้าตะวันออกกลาง ที่เป็นตลาดหลักของบริษัทชะลอตัวลง เราจึงแนะนำเพียง wait&see

·      (+) ITEL (Bloomberg Consensus - บาท) แย้มไตรมาส 1/63 เด้ง! หลังเร่งส่งมอบงานติดตั้งโครงข่าย ย้ำรายได้ปีนี้โต 2.4 พันล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 4,124 ล้านบาท เล็งประมูลงานใหม่มูลค่ากว่า 6.5 พันล้านบาท กางแผน 5 ปี (ปี 63-67) ปั๊มรายได้โตเฉลี่ยปีละ 20-30% (ที่มา ข่าวหุ้น) 

·      (+) BGC (Bloomberg Consensus 13.85 บาท) เดินหน้าสู่ธุรกิจบรรจุภัณฑ์ครบวงจร ปักธงปี 63 โกยรายได้ 1.3 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 10% แย้มไตรมาส 1/63 ยอดขายแจ่ม! อานิสงส์ออเดอร์แน่น! ไร้กระทบโควิด-19 แถมรับผลบวกจีนปิดโรงงาน ทุ่มงบ 3 พันล้านบาท ลุยลงทุนเทคโนโลยีเสริมแกร่งบรรจุภัณฑ์ และซื้อกิจการเกี่ยวเนื่อง-โรงไฟฟ้า วางเป้า 4 ปี ดันกำลังผลิตไฟฟ้าโต 4 เท่า แตะ 400 เมกะวัตต์ หนุนรายได้พุ่งทะยาน 2 หมื่นล้านบาท (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (-) TFG (Bloomberg Consensus 5.47 บาท)  ยอมรับโควิด-19 กระทบดีมานด์ระยะสั้น มั่นใจรายได้ปีนี้โต 10% คาดตลาดต่างประเทศกลับมาฟื้นตัว จากโรคระบาดโรคอหิวาต์หมู (ASF) พร้อมเดินหน้าขยายกำลังการผลิตฟาร์มสุกร โรงงานแปรรูปสุกร และโรงงานอาหารสัตว์ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (-) BJCHI (Bloomberg Consensus -บาท) โปรยข่าวดี! คว้างานใหม่ โครงการเหมืองแร่และงานเพิ่มในอุตสาหกรรมก๊าซที่ออสเตรเลีย มูลค่ารวมกว่า 880 ล้านบาท ดันแบ็กล็อกพุ่ง 3.9 พันล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ยาว 2 ปี พร้อมลุยประมูลงานใหม่มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท ส่วนวิกฤติโควิด-19 หนุนลูกค้าพุ่ง มั่นใจผลงานปีนี้โตกว่าปีก่อน (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) PDG (Bloomberg Consensus - บาท)  รับสองเด้ง ออเดอร์ไตรมาส 1/63 ไหลเข้าเพียบ แถมราคาเม็ดพลาสติกปรับตัวลดลงหนุนมาร์จิ้นพุ่ง ฟากผู้บริหารคาดยอดขายปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 676.95 ล้านบาท เล็งประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติแผนลงทุนในช่วงเมษายนนี้ คาดเคาะงบหลักสิบล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)

 

  • (+) TM (Bloomberg Consensus - บาท) เฮ! ที่ประชุมครม.ไฟเขียวเว้นภาษีนำเข้าหน้ากากอนามัยเป็นระยะเวลา 6 เดือน ส่วนเจลล้างมือผ่านฉลุยตามเกณฑ์ภาครัฐ ชี้มีส่วนผสมแอลกอฮอล์สูงกว่า 70% เดินหน้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มห้างสรรพสินค้า-โรงเรียนเพิ่ม คาดหนุนผลงานไตรมาส 1/63 โดดเด่น (ที่มา ทันหุ้น)
  • (+) GLOBAL (Bloomberg Consensus 16.39 บาท)  เปิดสาขาใหม่แห่งที่ 66 กระทุ่มแบน นำระบบ ASRS มาใช้บริหารจัดการคลังสินค้า หนุนลูกค้าใช้งานเพิ่ม ดันรายได้เติบโตปีนี้ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้น 10% ลุ้น SSSG เป็นบวก ฟากโบรกมองกำไรปี 2563 เติบโต 6% แตะ 2.2 พันล้านบาท หนุนด้วยโปรดักต์มิกซ์ และ Housebrand แนวโน้มไตรมาส 1/2563 อ่อนตัวเล็กน้อย จากโควิด-19 ประเมินราคาเป้าหมายที่ 18.50 บาท (ที่มา ทันหุ้น)