ทรัมป์เล็งกระตุ้นเศรษฐกิจ

ทรัมป์เล็งกระตุ้นเศรษฐกิจ

ดัชนีวานนี้ปิดปรับตัวลงแรงสุดในรอบ 4 ปี เช่นเดียวกับตลาดหุ้นโลก เนื่องจากตื่นตระหนกราคาน้ำมันที่ทรุดลงแรงเกือบ 30%

หลังซาอุฯไม่สามารถบรรลุข้อตกลงกับรัสเซีย รวมทั้ง ตลาดยังคงวิตกกับไวรัสโควิด-19 ที่จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนี SET Index ปิดที่ 1,255.94 จุด (-108.63 จุด) Volume 1.03 แสนลบ. ต่างชาติ -3,995.82 ลบ. TFEX Net +8,074 สัญญา

ปัจจัยบวก / ปัจจัยลบ

+FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่านักลงทุนคาดการณ์ว่า เฟดมีแนวโน้ม 55.7% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 1% ในวันที่ 18 มี.ค. จากระดับ 1-1.25% สู่ระดับ 0.00-0.25% และมีแนวโน้ม 44.3% ที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 0.25-0.50%

+นักวิเคราะห์คาดธนาคารกลางยุโรป (ECB) ผ่อนคลายนโยบายการเงินในวันพฤหัสฯนี้ตามเฟด

-ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลง 2,013.76 จุดทำสถิติดิ่งลงในวันเดียวที่รุนแรงที่สุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลกในปี 2551 เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลง

-ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดลดลง -24.6% ปิดที่ 31.13 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังซาอุดีอาระเบียเปิดฉากทำสงครามราคาน้ำมัน ด้วยการประกาศลดราคาขายน้ำมัน

-ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วง 91.22 จุด -3.01% ส่วนดัชนีนิกเกอิร่วงลง 1,050.99 จุด -5.07% จากวิตกโควิด-19 ระบาดหนัก และราคาน้ำมันทรุด

-ดัชนีความเชื่อมั่นหอการค้าไทยเดือน ก.พ. ลดลงต่อเนื่องและต่ำสุดในรอบ 9 ไตรมาส

-ราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นจากนักลงทุนยังคาดว่าเฟดจะหั่นดบ. 1.00% สัปดาห์หน้า ฉุดดบ.นโยบายแตะ 0%

-Fund Flow ต่างชาติมีสถานะขาย YTD 57,089.79 ลบ. ค่าเงินบาท 31.46 บาท/US

*จับตาการประชุมครม.  EU เผย GDP ไตรมาส 4/2562 และสหรัฐเผยความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนพ.ย.

 

แนวโน้มตลาดหุ้นไทย

คาดดัชนีตลาดหุ้นไทย Rebound โดยมีแรงหนุนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เขาจะใช้มาตรการครั้งใหญ่ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีเงินเดือน และมาตรการเร่งด่วนด้านอื่นๆ เพื่อบรรเทาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประกอบกับได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันดิบ WTI ดีดตัวขึ้นหลังปรับตัวลงแรง คาดดัชนีเคลื่อนไหวในกรอบ 1,230-1,280 จุด

หุ้นรายงานพิเศษ

CPF และ CPALL แถลงซื้อ Tesco ไทยและมาเลเซีย (คลายกังวลเพิ่มทุน แต่ใช้เวลาในการ Synergy )

  • กลุ่ม CP ชนะการประมูล Tesco ในประเทศไทยและมาเลเซียวงเงิน 3.4 แสนล้านบาท โดยให้บริษัท CP Retail Development (CPALL ถือหุ้น 40% CP Group ถือหุ้น 40% และ CPF ถือหุ้น 20%) เป็นผู้เข้าซื้อซึ่งส่งผลให้ทั้ง CPALL และ CPF ไม่ต้องเพิ่มทุนเพื่อมาซื้อ Tesco ในครั้งนี้ เนื่องจากให้ CP Retail Development เป็นผู้กู้ยืมเงินแทน
  • การซื้อ Tesco ในครั้งนี้จะช่วยให้กลุ่ม CP ได้ระบบโลจิสติกส์และค้าปลีกของ Tesco อีกทั้งเป็นช่องทางให้กลุ่ม CP ขยายสินค้าประเภทอาหารพร้อมรับประทาน (Ready to eat meal) ทั้งในไทยและมาเลเซีย
  • ความเห็น ระยะสั้น คลายกังวลเพิ่มทุนทั้ง CPALL และ CPF เนื่องจากการจัดโครงสร้างภายในมาอย่างดี แต่ทั้ง CPF และ CPALL จะมีต้นทุนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากการกู้เงินเพื่อใส่เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นของ CP Retail Development อย่างไรก็ตามกว่าจะมี Synergy ระหว่าง Tesco และกลุ่ม CP เดิมต้องใช้เวลาอีกระยะกว่าจะเห็นผลบวก

 

กลยุทธ์การลงทุน

  • หุ้นที่ได้ประโยชน์จากเงินบาทอ่อนค่า (TU CPF)
  • หุ้น Defensive (RATCH TTW ADVANC CHG)
  • หุ้น High Dividend Yield (KKP TISCO INTUCH)
  • เก็งกนง.ลดดอกเบี้ย (BAM MTC BFIT AMANAH)

หุ้นมีข่าว   

·      VIBHA - Analyst Meeting ราคาเหมาะสม Bloomberg Consensus 2.20 บาท

มุมมองบวก

รายงานกำไรปี 2562 เท่ากับ 809 ลบ. +11.8%YoY แต่หากตัดรายการพิเศษที่เป็นกำไรจากการขายรพ.ในเครือ CMR จำนวน 208 ลบ. จะมีกำไรปกติ 601 ลบ. -17%YoY ขณะที่รายได้ปี 62 เท่ากับ 6.8 พันลบ. +3.3%YoY เติบโตตามรายได้กลุ่มผู้ป่วย OPD +4.26% ผู้ป่วย IPD +6.8% แต่รายได้จากผู้ป่วยประกันสังคม (SS) -22.32% หลังถูกเรียกคืนเงินกรณี DRG > 2 ย้อนหลังราว 251 ลบ. โดยสัดส่วนรายได้ทั้งหมดแบ่งเป็น OPD 38%, IPD 39%, SS 12% และ Foreign 11%

แนวโน้มปี 63 บริษัทคงเป้าเติบโต 10% โดยได้ผลบวกจาก 3 ข้อหลัก 1) สำนักงานประกันสังคมปรับขึ้นค่าเหมาจ่ายรายหัวราว 10% มีผลย้อนหลัง 1 ม.ค. 63  2) ลดสัดส่วนการลงทุนธุรกิจที่มีผลประกอบการขาดทุน อาทิ บจ.ทิพยบดินทร์ และนำมาให้เช่า และ 3) เติบโตจากฐานต่ำในปี 62 เนื่องจากไม่ถูกเรียกเงินคืนกรณี DRG>2

ความเห็น ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบวกจากโอกาสเติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจหลักด้านโรงพยาบาลที่รายได้มีแนวโน้มเติบโต ทั้งนี้ Bloomberg Consensus คาดปี 63 มีกำไรเฉลี่ย 930 ล้านบาท +15% ราคาหุ้นปัจจุบัน -19%YTD เป็นโอกาสในการทยอยสะสม

·      (+) IVL (Bloomberg Consensus 34.92) เผยส่งบริษัทย่อยร่วมทุนกับกลุ่ม Coca-Cola Philippines ตั้งโรงงานรีไซเคิลขวด PET ในประเทศฟิลิปปินส์ คาดสามารถผลิตเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PET Resin) ได้จำนวน 16,000 ตันต่อปี เตรียมเปิดเดินเครื่องปี 2564 (ที่มาทันหุ้น)

·      (+) JAS (Bloomberg Consensus 4.75 บาท) กางแผน 5 ปี รายได้พุ่ง 5 หมื่นล้านบาท ลูกค้า 3BB แตะ 5 ล้านราย และลูกค้า 3BB TV พุ่ง 3 ล้านราย ลั่นปี 63 รายได้จากการดำเนินงานโต 2 หมื่นล้านบาท ล่าสุด 3BB อัพสปีดทุกแพ็กเกจเริ่มต้นที่ 1 Gbps เปิดตัวแพ็กเกจใหม่ “Gigafiber” พร้อมจับมือ HBO เปิดบริการ HBO GO ด้วยแพ็กเกจ “Gigatainment” เริ่ม 30 มี.ค.นี้ (ที่มา ข่าวหุ้น) 

·      (+) RATCH (Bloomberg Consensus 76.20 บาท) แจ้งลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าโครงการพลังงานลมคอลเลกเตอร์ในรัฐออสเตรเลียกับ Infigen Energy ราว 60% จากกำลังการผลิตติดตั้ง 226.80 MW เป็นระยะเวลา 10 ปี พร้อมเดินเครื่องจำหน่ายไฟฟ้า ม.ค. 64 ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างการเจรจากับผู้รับซื้อไฟฟ้ารายอื่น (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (-) CENTEL (Bloomberg Consensus 25.35 บาท) หั่นเป้ารายได้ปีนี้ลดลง 10-15% จากเดิมคาดโต 4-5% รับผลกระทบไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด! ฉุดรายได้ธุรกิจโรงแรมและธุรกิจอาหารลดลง ส่วนแผน 2 ปี (ปี 63-64) ทุ่มงบ 1.8 หมื่นล้านบาท เพื่อลงทุนธุรกิจโรงแรม-ร้านอาหาร-ซื้อกิจการ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ (ที่มา ข่าวหุ้น)

·      (+) BAM (Bloomberg Consensus - บาท)  ฉวยจังหวะเศรษฐกิจขยายตัวในระดับต่ำ คาดมี NPL-NPA ออกมาขายในระบบมากขึ้น เตรียมซื้อหนี้กว่า 1 หมื่นล้านบาท ดันพอร์ตบริหารหนี้ปีนี้เพิ่มจาก 4.6 แสนล้านบาท ขณะที่ยอมรับรายได้และกำไรปีนี้จะชะลอตัว จากการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลเต็มปี รวมถึงผลกระทบจากโควิด-19 และปัญหาภัยแล้ง (ที่มา ทันหุ้น)

  • (+) EPG (Bloomberg Consensus 36 บาท) รับผลดีน้ำมันดิ่งกดต้นทุนเม็ดพลาสติกลง แถมยิ้มรับเงินบาทอ่อน ดันรายได้ส่งออกกระฉูด ยืนยันเป้ารายได้ใกล้เคียงปีก่อน ชี้มีแววได้ออเดอร์ใหม่ "GWM" ที่ซื้อกิจการ "GM Thailand" ด้านนักวิเคราะห์เปิดโผหุ้นได้รับอานิสงส์ราคาน้ำมัน (ที่มา ทันหุ้น)

(+) PJW (ราคาเหมาะสม 1.62 บาท)  ปลื้มยอดขายจีนเข้าเป้า คาดแตะ 400-500 ล้านบาท ส่วนยอดขายในประเทศมองโต 3-5% พร้อมวางกลยุทธ์ปี 2563 กดต้นทุนค่าใช้จ่ายลดฮวบ หวังดันมาร์จิ้นเพิ่มที่ 16-18% เตรียมอัดงบลงทุนปีนี้ 100 ล้านบาท ซื้อเครื่องจักรใหม่ ฟากบอร์ดใจดีไฟเขียวจ่ายปันผลเป็นเงินสด 0.07 บาท (ที่มา ทันหุ้น