หุ้นไทยเปิดบวก 8.7 จุด สวนดาวโจนส์ที่ดิ่งกว่า 2 พันจุด

ดัชนีตลาดหุ้นไทยวันนี้ เปิดตลาดรีบางน์ เพิ่มขึ้น 8.77 จุด มาที่ 1,264.71 จุด มาหรือ 0.7% ท่ามกลางความวิตกกังวลของนักลงทุนทั่วโลก เกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการประกาศสงครามราคาน้ำมันของซาอุดิอาระเบีย ที่จะกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกเข้าสู่ภาวะถดถอย

ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ร่วงลง 2,013.76 จุด หรือ 7.79% ปิดที่ 23,851.02 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ร่วง 225.81 จุด หรือ 7.60% ปิดที่ 2,746.56 จุด และดัชนีแนสแด็ก ร่วง 624.94 จุด หรือ 7.29% ปิดที่ 7,950.68 จุด

ขณะที่ราคาน้ำมันดิบตลาดสหรัฐ ร่วงลงวันเดียว10 ดอลลาร์ ถือเป็นการดิ่งลงมากที่สุด นับตั้งแต่สงครามอ่าวเปอร์เซียในปี 2542 หลังซาอุดีอาระเบียและรัสเซียเริ่มทำสงครามราคาซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลว่าอุปทานน้ำมันจะล้นตลาด และปัจจัยนี้ฉุดให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงถ่วงหุ้นวอลล์สตรีทร่วงอย่างหนัก

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนเม.ย. ซึ่งมีการซื้อขายที่ตลาดไนเม็กซ์ ร่วงลง 10.15 ดอลลาร์ หรือ 24.6% ปิดที่ราคา 31.13 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 10.91 ดอลลาร์ หรือ 24.10% ปิดที่ราคา 34.36 ดอลลาร์/บาร์เรล

ด้าน บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุคาดดัชนีหุ้นไทยเช้านี้ปรับตัวรีบาวด์ตามทิศทาง Dow Jones Futures และราคาน้ำมันดิบที่บวกเช้านี้ แต่ทิศทางราคาน้ำมันดิบระหว่างวันยังคงเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดของตลาด ขณะที่แรงกดดันจากโควิด-19 ที่การติดเชื้อยังเพิ่มต่อเนื่องเป็นตัวถ่วงตลาดอยู่ต่อไป

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุดัชนีวันนี้จะแกว่งตัวผันผวนโดยเฉพาะกลุ่มพลังงานที่ยังถ่วงตลาดจากราคาน้ำมันดิบที่ยังมีแนวโน้มปรับลงโดยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวอย่างกว้างที่ 1,220 - 1,270 จุด ภาพเศรษฐกิจโลกถูกกดดันจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่กระจายไปทั่วโลก ขณะที่กลุ่ม OPEC และ Non-OPEC ไม่สามารถตกลงกันลดกำลังการผลิตน้ำมันลงได้ ระยะสั้นตลาดอาจมีโอกาสเกิด Technical Rebound ได้บ้างหลังปรับลงแรงและเร็ว รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งนโยบายการเงินและการคลังทั่วโลก อย่างไรก็ตามยังแนะนำให้ถือเงินสดและติดตามสถานการณ์ หลังทำกำไรบางส่วนไปแล้วบริเวณ 1,400 จุดสัปดาห์ก่อน ส่วนพอร์ตหลักยัง เน้นถือหุ้น Defensive และ Dividend Play ซึ่งเคลื่อนไหวแข็งแกร่งกว่าตลาด