จีนเปิด 'กลยุทธ์เด็ด' ลบภาพจำต้นตอไวรัส Covid-19 ระบาด

 จีนเปิด 'กลยุทธ์เด็ด' ลบภาพจำต้นตอไวรัส Covid-19 ระบาด

เมื่อยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากการระบาดของโรคโควิด-19 (Covid-19) ในประเทศเริ่มลดลง จีนก็เริ่มแสดงบทบาทในฐานะประเทศระดับผู้นำที่มีความรับผิดชอบด้วยการแบ่งปันอุปกรณ์ตลอดจนความเชี่ยวชาญในฐานะเป็นประเทศต้นตอการแพร่ระบาดให้แก่ประเทศอื่นๆ

ขณะที่ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจากการระบาดของโรค Covid-19 ในจีนเริ่มลดลง จีนเริ่มแสดงบทบาทในฐานะประเทศระดับผู้นำที่มีความรับผิดชอบด้วยการแบ่งปันอุปกรณ์ตลอดจนความเชี่ยวชาญในฐานะเป็นประเทศต้นตอการแพร่ระบาดให้แก่ประเทศอื่นๆ  ในขณะนี้ยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตของประเทศอื่นๆยังคงเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ จีน ยังสั่งการให้บรรดานักการทูตที่ประจำการในประเทศต่างๆ ส่งสารที่ชัดเจนออกไปให้ได้มากที่สุดว่า รัฐบาลจีนสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่นี้ได้แล้ว พร้อมทั้งเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ผ่อนคลายมาตรการห้ามชาวจีนเข้าประเทศ ไม่นับการให้สัมภาษณ์สื่อต่างประเทศกว่า 400 แห่ง และเขียนบทความตีพิมพ์เผยแพร่ไปทั่วโลกอีกกว่า 300 ชิ้น 

ถือเป็นการเคลื่อนไหวอย่างเป็นระบบและขยายขอบข่ายการทำงานที่กว้างไกลมาก ทั้งยังบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเปลี่ยน “เรื่องเล่า” เสียใหม่ หลังจากที่จีนถูกวิจารณ์อย่างหนักในช่วงการแพร่ระบาดแรกๆ ว่า ปกปิดข้อมูล ดำเนินการไม่โปร่งใสในด้านต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดของโรค

แต่ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป รัฐบาลจีนได้รับเสียงปรบมือและได้รับคำชมจากหน่วยงานระดับโลกหลายหน่วยงาน หนึ่งในนั้นคือ องค์การอนามัยโลก (WHO) โดย "บรูซ ไอล์วาร์ด" ผู้ช่วยผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO กล่าวชื่นชมความพยายามของจีนในการสกัดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ว่าจะเป็นการสั่งปิดเมืองและบังคับใช้ข้อจำกัดต่าง ๆ จนทำให้จำนวนผู้ที่เพิ่งติดเชื้อไวรัสดังกล่าวเริ่มปรับตัวลดลงแล้วในขณะนี้

ถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังองค์การอนามัยโลก ได้ส่งคณะผู้เชี่ยวชาญเดินทางไปตรวจสอบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวที่เมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นต้นตอการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้

นอกจากนี้ ไอล์วาร์ด ยังยืนยันด้วยว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มปรับตัวลดลงจริง แม้ทางการจีนได้มีการปรับปรุงข้อมูลการนับจำนวนผู้ติดเชื้อหลายครั้งจนทำให้หลายฝ่ายไม่มั่นใจตัวเลขของจีนและขณะนี้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในเมืองอู่ฮั่น ก็มีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาลดลง ขณะที่ข้อมูลจากหลาย ๆ แห่งก็ยืนยันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ปรับตัวลดลงจริง

นอกจาก WHO แล้ว “อันโตนิโอ กูเตอร์เรส” เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ (UN) ยังแสดงความเชื่อมั่นในมาตรการรับมือการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ของจีนด้วย โดยบอกว่า 

หลังจากที่มีการประกาศว่าพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่เมื่อวันที่ 31 ธ.ค.ปีที่แล้ว รัฐบาลจีน ทั้งในส่วนกลางและระดับท้องถิ่นก็ระดมกำลังประสานกันอย่างเต็มที่เพื่อสกัดกั้นไวรัส ทำให้จำนวนผูู้ติดเชื้อน้อยกว่าที่ควรจะเป็นมาก

ในประเด็นให้ความช่วยเหลือประเทศอื่นๆที่เจอวิกฤติด้านสาธารณสุขเหมือนจีนนั้น รัฐบาลจีนได้สั่งการให้ทีมงานผู้เชี่ยวชาญจากจีนเดินทางไปกรุงเตหะราน เพื่อให้ความช่วยเหลือทุกอย่างเท่าที่จะช่วยได้ ในฐานะที่จีนกับอิหร่านเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน และต่างให้การสนับสนุนกับความช่วยเหลือต่อกันมาโดยตลอด เมื่อฝ่ายหนึ่งประสบความยากลำบาก อีกฝ่ายย่อมไม่ทอดทิ้ง

ด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิงของจีน ก็พยายามลบภาพจำที่เลวร้ายในสายตาประชาคมโลกเกี่ยวกับเรื่องนี้ ด้วยการออกมากล่าวว่า หลังเกิดการระบาดหนักของโรคโควิด-19 จีนก็กำหนดเป้าหมายยุทธศาสตร์สูงสุดไว้สองประการ

ประการแรกคือ ต้องยุติการรระบาดให้หมดไปอย่างเด็ดขาด เพิ่มอัตราการรักษาและการหาย ลดอัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตอย่างได้ผลในมณฑลหูเป่ย์ และเมืองอู่ฮั่น

ประการต่อมาคือ ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันและควบคุมไม่ให้โรคระบาดมาถึงกรุงปักกิ่ง เสริมสร้างการป้องกันและควบคุมร่วมกันในภูมิภาคปักกิ่ง-เทียนจิน-หูเป่ย์ และตัดขาดแหล่งการติดเชื้อให้ได้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ พร้อมทั้งยอมรับว่า การระบาดครั้งนี้ มีผลอย่างมากต่อเศรษฐกิจและสังคมจีน แต่พื้นฐานการเติบโตทางเศรษฐกิจระยะยาวของจีนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง 

“ผลกระทบของการระบาดเป็นเรื่องระยะสั้นและสามารถควบคุมได้ รัฐบาลจะใช้นโยบายการเงินเชิงรุกมากขึ้น จะเดินหน้าศึกษาและลดภาษีและค่าธรรมเนียมอย่างมีเป้าหมายเพื่อช่วยธุรกิจขนาดกลาง ย่อมและเล็ก จะใช้ประโยชน์นโยบายสนับสนุนการเงินที่มีอยู่และออกมาตรการใหม่อย่างทันการ จะใช้ประโยชน์เครื่องมือนโยบายการค้าต่างประเทศอย่างเต็มที่ เช่น คืนภาษี ประกันการส่งออก จะเดินหน้าเป้าหมายเศรษฐกิจและสังคมของปีนี้เรื่องการลดความยากจน สร้างงาน และรักษาเสถียรภาพทางสังคม” ประธานาธิบดีสี กล่าว

ด้านคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า นับจนถึงวันศุกร์ที่ 6 มี.ค. มีผู้เสียชีวิตจากโรค Covid -19 ในจีนเพิ่มขึ้นอีก 28 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน เพิ่มเป็น 3,070 ราย  ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 99 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 80,651 ราย