ส่องธุรกิจเจอผลกระทบ 'COVID-19' ระบาด

ส่องธุรกิจเจอผลกระทบ 'COVID-19' ระบาด

ขณะนี้บริษัทหลายแห่งเริ่มได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กันอย่างเป็นเรื่องเป็นราว และกระจายแทบทุกภาคอุตสาหกรรม แม้บริษัทบางแห่งไม่ได้เปิดเผยความเสียหายออกมาเป็นตัวเลข แต่การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็ทำให้การดำเนินธุรกิจชะงักงัน

บริษัทบางแห่งถึงขั้นต้องปลดพนักงานเพราะปัญหาการแพร่ระบาดครั้งนี้ ซ้ำเติมธุรกิจที่เป็นช่วงขาลงของบริษัทอยู่ ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก มาดูกันว่ามีบริษัทใดบ้าง

เริ่มจากเฟซบุ๊ค อิงค์ ยักษ์ใหญ่สื่อสังคมออนไลน์ ที่แจ้งว่า พนักงานคู่สัญญารายหนึ่ง เป็นผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่รายแรกในบริษัท ขณะที่โรคโควิด-19 แพร่ลามไปทั่วรัฐวอชิงตัน โดยพนักงานรายนี้ อยู่ที่สำนักงานสเตเดียม อีสต์ ในซีแอตเทิล และเมื่อวันที่ 21 ก.พ. ที่ผ่านมา บริษัทได้แจ้งเตือนพนักงานทุกคนว่าสำนักงานในซีแอตเทิล จะปิดไปจนถึงวันที่ 9 มี.ค. ซึ่งนับเป็นวันสิ้นสุดระยะฟักตัว 14 วัน และขอให้พนักงานทำงานจากบ้านไปจนถึงสิ้นเดือน

เมื่อวันอังคาร (3 มี.ค.) พนักงานคนหนึ่งของบริษัทอเมซอนในซีแอตเทิล ก็ป่วยด้วยโรคโควิด-19 เช่นกัน โดยขณะนี้ สหรัฐพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ใน 17 รัฐ และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย เกือบทั้งหมดอยู่ในรัฐวอชิงตัน และส่วนใหญ่มาจากบ้านพักคนชราแห่งหนึ่งในซีแอตเทิล มีคนเดียวที่เสียชีวิตที่แคลิฟอร์เนีย ใกล้เมืองซาคราเมนโต และเป็นรายแรกของรัฐซึ่งมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐ

ต่อมาคือ แกป ร้านค้าปลีกเสื้อผ้ารายใหญ่ของสหรัฐ ประกาศปิดสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก หลังจากพบพนักงานรายหนึ่งติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

“เราได้รับทราบว่ามีพนักงานรายหนึ่งที่ประจำอยู่ในสำนักงานใหญ่ของแกป ป่วยโควิด-19 โดยพนักงานคนดังกล่าวไม่ได้มาทำงานแล้ว รักษาตัวอยู่ที่บ้าน ด้วยเหตุนี้ เราจึงตัดสินใจปิดสำนักงานชั่วคราว และขอให้พนักงานคนอื่น ๆ ทำงานจากที่บ้านจนกว่าจะมีประกาศเพิ่มเติม” แถลงการณ์ของบริษัทแกป ระบุ

นอกจากนี้ บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประกาศว่า ศูนย์จำหน่ายรถแห่งหนึ่งของโตโยต้าในย่านเคิร์คแลนด์ ชานเมืองซีแอตเทิล รัฐวอชิงตัน ประกาศปิดให้บริการ หลังพบพนักงานคนหนึ่งป่วยโควิด-19 โดยจะปิดให้บริการไปจนถึงวันที่ 9 มี.ค.

ศูนย์โตโยต้าสาขาดังกล่าว ระบุว่า ทางศูนย์ได้แจ้งให้พนักงานทุกคนทราบเรื่องพนักงานที่ติดเชื้อแล้ว และกำลังติดต่อลูกค้าเพื่อแจ้งเหตุการณ์ดังกล่าวให้ทราบ แต่ไม่ได้เปิดเผยว่าโชว์รูมแห่งนี้มีลูกค้ากี่ราย

ทั้งหมดที่กล่าวมา เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจในสหรัฐ และได้รับผลกระทบในช่วงที่โรคโควิด-19 กำลังระบาดหนักในหลายรัฐของสหรัฐ แต่กรณีของสายการบินชื่อดังของโลกอย่าง สายการบินคาเธ่ย์ แปซิฟิกของฮ่องกง ถือเป็นผลกระทบที่สั่งสมมาจากปัญหาหลายเรื่อง จนในที่สุด สายการบินตัดสินใจปิดฐานลูกเรือในเมืองแวนคูเวอร์ของแคนาดา และเลิกจ้างลูกเรือจำนวน 147  คน เพราะธุรกิจย่ำแย่ลงอย่างต่อเนื่อง

158352116645

คาเธ่ย์ แปซิฟิก ประกาศปลดพนักงานที่ฐานดังกล่าวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปรับลดกำลังการบินทั่วโลกลง 40% เนื่องจากความต้องการเดินทางลดลงท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และสายการบินคาเธ่ย์ ยังเรียกร้องให้พนักงานทั้งหมด 27,000 คนหยุดงานเป็นเวลา 3 สัปดาห์โดยไม่รับค่าจ้างด้วย

สายการบินคาเธ่ย์ ระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัทได้ตัดสินใจที่จะปิดฐานลูกเรือในแวนคูเวอร์ เป็นส่วนหนึ่งของการทบทวนธุรกิจของบริษัทที่แย่ลงอย่างต่อเนื่อง และขณะนี้บริษัทกำลังติดต่อกับทางสหภาพแรงงาน

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ มีขึ้นหลังจากสายการบินคาเธ่ย์ ได้ปิดฐานลูกเรือในเมืองโตรอนโตของแคนาดาเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่งผลให้มีการปลดพนักงาน 120 ตำแหน่งก่อนที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปฏิรูปเพื่อช่วยพลิกฟื้นให้บริษัทกลับมามีความสามารถในการทำกำไรได้อีกครั้ง

คาเธ่ย์ แปซิฟิก จะเปิดเผยผลประกอบการทั้งปี 2562 ในวันที่ 11 มี.ค.นี้ โดยในช่วงครึ่งหลังของปี 2562 ผลประกอบการของบริษัทได้รับผลกระทบอย่างหนักอยู่แล้วจากความต้องการเดินทางที่ลดลง เนื่องจากนักเดินทางวิตกกังวลเกี่ยวกับการประท้วงอย่างรุนแรงหลายครั้งในการต่อต้านรัฐบาลฮ่องกง

158352118880

แนวโน้มธุรกิจการบินในปีนี้ไม่สดใสเท่าที่ควร หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพราะทุกประเทศต่างใช้มาตรการคัดกรองนักเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกันอย่างเข้มงวด ล่าสุด สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (ไออาต้า) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านดอลลาร์

ไออาต้า ระบุว่า โรคโควิด-19 จะทำให้รายได้ของสายการบินประเภทเครื่องบินโดยสารลดลง 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์-1.13 แสนล้านดอลลาร์ในปีนี้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่าจะขยายวงกว้างมากเพียงใด

ที่ผ่านมา ไออาต้า ระบุว่า โรคโควิด-19 จะทำให้รายได้ของสายการบินลดลง 2.93 หมื่นล้านดอลลาร์ พร้อมคาดการณ์ว่า ผลกระทบดังกล่าวจะจำกัดอยู่ในตลาดที่เกี่ยวข้องกับจีนเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำการประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จะมีต่อสายการบินประเภทขนส่งสินค้า

ในส่วนของความเสียหายที่ประเมินล่าสุดนี้ เป็นระดับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกระหว่างช่วงวิกฤติการทางการเงิน เมื่อปี 2551 แต่ไออาต้า ระบุว่าหากทั่วโลกสามารถควบคุมการระบาดได้เร็ว ๆ นี้ ผลกระทบอาจถูกจำกัดอยู่ที่ความเสียหายมูลค่าประมาณ 6.3 หมื่นล้านดอลลาร์เท่านั้น