ลุ้น 'อนามัยโลก' ประกาศ 'ภาวะแพร่ระบาด' ระดับโลก

ลุ้น 'อนามัยโลก' ประกาศ 'ภาวะแพร่ระบาด' ระดับโลก

ถึงแม้ว่ายังไม่มีการประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดระดับโลก แต่โควิด-19 ก็มีคุณสมบัติที่เข้าข่ายหลายรายการ  เช่น โรคปอดอักเสบ การแพร่กระจายไปยังผู้คนได้ง่าย และยังกระจายจากคนสู่คนอย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากวิธีการรักษาที่สามารถป้องกันโรคได้

ขณะที่จีนสามารถควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ได้ในระดับที่ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตลดลง และไม่พบผู้เสียชีวิตนอกพื้นที่ศูนย์กลางการแพร่ระบาดอย่างมณฑลหูเป่ย์ แต่การระบาดของโรคโควิด-19 ไม่ได้มีทีท่าว่าจะคลี่คลายลง กลับลุกลามไปยังนานาประเทศในทวีปต่างๆ อย่างต่อเนื่องถึงกว่า 30 ประเทศ

ล่าสุด ประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น อิตาลี สเปน และหลายประเทศในตะวันออกกลาง ต้องรับมือกับยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตกันอย่างเร่งด่วน ด้วยการใช้มาตรการปิดเมือง ปิดโรงเรียน โรงภาพยนตร์ ปิดพื้นที่บริเวณชายแดน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อเพิ่ม

องค์การอนามัยโลก (WHO) บอกว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในจีนเมื่อวันอังคาร (25) อยู่ที่ 411 ราย ส่วนผู้ป่วยใหม่ที่อยู่นอกจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ที่ 427 ราย ซึ่งการที่หลายประเทศนอกจีนมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องน่าวิตกกังวลอย่างมาก

158287484482

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ทั่วโลกต่างจับตาว่าองค์การอนามัยโลก (WHO) จะประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดระดับโลก (Pandemic) หรือสถานการณ์ที่โรคติดต่อใดโรคหนึ่งได้คุกคามชีวิตผู้คนจำนวนมากทั่วโลกในคราวเดียวกันหรือไม่ ซึ่งในประเด็นนี้ นพ.ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่ของ WHO บอกว่า ยังคงควบคุมไวรัสได้ และในขณะนี้ ไวรัสยังไม่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกแบบที่ปราศจากการควบคุม และยังไม่มีกรณีของการเสียชีวิตจำนวนมหาศาลที่เกิดขึ้นในคราวเดียว

สำหรับการตัดสินใจประกาศสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาเป็นภัยฉุกเฉินสากล (PHEIC) ของ WHO เมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ.ที่ผ่านมานั้น เนื่องจากเกิดกรณีการติดเชื้อจากคนสู่คนนอกประเทศจีน ซึ่งการติดเชื้อจากคนสู่คนดังกล่าวอาจจะเกิดขึ้นในประเทศใดประเทศหนึ่งที่มีระบบสาธารณสุขที่อ่อนแอ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องประกาศให้นานาประเทศเตรียมพร้อมรับมือ

โฆษกของ WHO เปิดเผยเมื่อวันที่ 25 ก.พ.ว่า ขณะที่หลายประเทศเตรียมพร้อมที่จะรับมือในระดับ Pandemic ไว้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด และหลายประเทศก็พร้อมที่จะดำเนินการภายใต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศ แต่ทาง WHO ยังไม่ได้วางแผนที่จะมีการประกาศครั้งใหญ่แต่ประการใด

158287486169

แต่ถึงแม้ว่ายังไม่มีการประกาศครั้งใหญ่หรือการประกาศให้โควิด-19 เป็นการระบาดระดับโลก แต่โควิด-19 ก็มีคุณสมบัติที่เข้าข่ายหลายรายการ  เช่น โรคปอดอักเสบจากการติดเชื้อไวรัสครั้งนี้เป็นไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ หรือโควิด-19 และยังแพร่กระจายไปยังผู้คนได้ง่าย ทั้งยังกระจายจากคนสู่คนอย่างต่อเนื่อง โดยปราศจากวัคซีนหรือวิธีการรักษาแบบที่สามารถป้องกันโรคได้

อย่างไรก็ตาม ซ่ง หนานชาน ผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาของจีน แสดงความเชื่อมั่นว่า จีนจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ภายในสิ้นเดือนเม.ย.นี้

“ด้วยมาตรการที่แข็งแกร่งจากรัฐบาลกลาง และความร่วมมือจากบุคลากรทางการแพทย์ทั่วประเทศ เรามั่นใจว่าการแพร่ระบาดจะอยู่ภายใต้การควบคุมภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้” โซ่ง กล่าว

ก่อนหน้านี้ ซ่ง ซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง หรือซาร์ส ในปี 2546 กล่าวว่า สถานการณ์ในจีนในขณะนี้เริ่มดีขึ้นแล้ว โดยจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เริ่มลดลง โดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (เอ็นเอชซี) แถลงวันนี้ว่า ณ วันพุธที่ 26 ก.พ. มีผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ในจีนเพิ่มขึ้นอีก 29 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้เสียชีวิตทั่วประเทศจีน 2,744 ราย ส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นอีก 433 ราย ส่งผลให้ยอดรวมผู้ติดเชื้อทั่วประเทศ เพิ่มขึ้นเป็น 78,497 ราย

158287487894

ด้านปีเตอร์ มาร์คส ผู้อำนวยการศูนย์การประเมินและวิจัยด้านชีวภาพของสำนักงานอาหารและยาสหรัฐ (เอฟดีเอ) มีความเห็นว่า “หากจะพูดกันตามความเป็นจริง ผมคิดว่าถูกแล้วที่จะต้องบอกว่าเรากำลังอยู่บนจุดสูงสุดของการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ แต่สถานการณ์จะรุนแรงแบบนั้นไหม เรายังคงตอบไม่ได้ รู้แค่เพียงว่าสถานการณ์ในขณะนี้น่ากังวลว่า โดยเฉพาะเมื่อมีการพบเคสการแพร่ระบาดอยู่ทั่วทั้ง 6 ทวีป ตามที่ท่านได้ยินคำเตือนจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ (ซีดีซี) ว่า ให้เราเตรียมรับมือกับแพร่ระบาดขั้นร้ายแรงของโควิด-19 ส่วนมุมมองของเรานั้น ภัยคุกคามที่เกิดจากโควิด-19 ในขณะนี้อยู่ในระดับที่สูงมาก ทั้งในระดับโลกและภายในสหรัฐเอง”

มาร์คส ระบุว่า ในส่วนของสหรัฐเอง แม้จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงน้อยกว่าจีนซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดอยู่มาก แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเราก็กำลังเพิ่มมาตรการเพื่อต่อสู้กับการแพร่ระบาดตามที่คาดไว้

มาร์คส ยังกล่าวด้วยว่า เอฟดีเอ กำลังมองหาแหล่งผลิตเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์สำคัญๆ เตรียมไว้สำหรับกรณีบริษัทในจีนไม่สามารถดำเนินการผลิตได้

“เราต้องพึ่งพาการนำเข้าเวชภัณฑ์บางรายการกว่ามาก 90% โดยเฉพาะไซริงค์, หน้ากากอนามัย และชุดคลุมปลอดเชื้อ” มาร์คส กล่าว พร้อมเสริมว่า “การระบาดของเชื้อไวรัสอุบัติใหม่มักตามมาด้วยความกังวลในเรื่องสาธารณสุข เช่น โควิด-19 ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามร้ายแรงทั้งสำหรับสหรัฐและทั่วโลกแต่แม้โอกาสที่ชาวอเมริกันทั่วไปจะติดเชื้อดังกล่าวในตอนนี้นับว่ายังคงอยู่ในระดับต่ำ แต่กระทรวงสาธารณสุขสหรัฐก็กำลังเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น เพื่อรักษาสวัสดิภาพของชาวอเมริกันไว้อย่างดีที่สุด”