สัมพันธ์ร้าว ‘อินเดีย-มาเลเซีย’ ป่วนตลาดน้ำมันพืช

สัมพันธ์ร้าว ‘อินเดีย-มาเลเซีย’ ป่วนตลาดน้ำมันพืช

เดือนก่อนอินเดียลูกค้าน้ำมันปาล์มรายใหญ่หยุดซื้อสินค้าจากมาเลเซีย หนึ่งเดือนผ่านไป ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้การไหลเวียนน้ำมันปาล์มในตลาดโลกปั่นป่วน เมื่ออินโดนีเซียเปลี่ยนมาป้อนตลาดอินเดียแทน

ส่วนมาเลเซียก็เร่งเจาะตลาดที่จาการ์ตาเคยเป็นเจ้า ขณะที่อินเดียก็หันไปใช้น้ำมันชนิดอื่นแทนน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้นด้วย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า อินเดีย ผู้ซื้อน้ำมันปาล์มรายใหญ่สุดของโลก สั่งห้ามนำเข้าน้ำมันปาล์มสำเร็จรูปจากมาเลเซียเมื่อเดือนก่อน ที่หลายคนมองว่าเป็นการตอบโต้ที่นายกรัฐมนตรีมหาธีร์ โมฮัมหมัด วิจารณ์การกระทำของรัฐบาลนิวเดลีเรื่องแคชเมียร์และกฎหมายพลเมืองฉบับใหม่ ขณะที่บรรดาผู้ซื้อก็ชะลอซื้อน้ำมันปาล์มดิบจากมาเลเซียด้วยเช่นกัน

ตัวเลขการส่งออกล่าสุดจากมาเลเซียหลังจากอินเดียสั่งห้ามนำเข้าพบว่า เดือน ม.ค.การส่งออกน้ำมันปาล์มไปอินเดียลดลง 85% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า มาอยู่ที่ 46,876 ตัน ต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2554

ในปี 2562 ที่ผ่านมาการส่งออกไปอินเดียคิดเป็นเกือบ 1 ใน 4 ของการส่งออกน้ำมันปาล์มทั้งหมดของมาเลเซีย และอินเดียยังเป็นลูกค้ารายใหญ่สุดของมาเลเซียมานานถึง 5 ปี และเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหายไป มาเลเซียต้องเพิ่มการส่งออกไปยังปลายทางอื่นๆ ทั้งปากีสถาน ซาอุดีอาระเบีย และกานา ที่เคยพึ่งพาน้ำมันปาล์มจากอินโดนีเซียเป็นหลัก ยอดส่งออกไปทั้ง 3 ประเทศเมื่อเดือน ม.ค.พุ่งขึ้นกว่า 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562

158187238984

บริษัทค้าน้ำมันปาล์มโลกแห่งหนึ่งในมุมไบ เผยว่า ตอนนี้ตลาดน้ำมันปาล์มกำลังปรับสมดุล ผู้ซื้อจากเอเชียที่ดูราคาเป็นหลัก และผู้ซื้อยุโรปกำลังเปลี่ยนจากอินโดนีเซียไปหามาเลเซียเพราะราคาถูกกว่า

ปีนี้ราคาของอินโดนีเซียไต่ขึ้นสู่ระดับพรีเมียมอย่างที่ไม่ค่อยมีบ่อยนักมาเท่ากับมาเลเซีย จากความคาดหวังที่ว่าอินเดียจะซื้อน้ำมันปาล์มแดนอิเหนามากขึ้น

ลี เยียว ชอ ประธานสภาน้ำมันปาล์มมาเลเซีย (เอ็มพีโอซี) กล่าวว่า น้ำมันปาล์มสำรองที่ลดน้อยลงช่วยรองรับผลกระทบทั้งหมดจากการที่อินเดียเลิกซื้อได้

“ตอนนี้สถานการณ์สำหรับมาเลเซียไม่ได้เลวร้าย สต็อกเรายังตึงตัว อินเดียอาจซื้อจากอินโดนีเซียเพิ่มขึ้น แต่ก็เปิดโอกาสให้เกิดสุญญากาศขึ้นในบางตลาด” ลีกล่าวและว่า คลังน้ำมันปาล์มสำรองของมาเลเซียต่ำสุดในรอบ 2 ปี นอกจากนี้มาเลเซียกำลังขยายสัดส่วนตลาดในตะวันออกกลาง แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อมูลจากคณะกรรมการน้ำมันปาล์มมาเลเซียชี้ว่า เดือน ม.ค.มาเลเซียขายน้ำมันปาล์มให้ปากีสถาน 170,802 ตัน จาก 80,660 ตันในช่วงเดียวกันของปี 2562 ขายให้บังกลาเทศ 12,527 ตัน เพิ่มขึ้นจาก 575 ตันในช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2562 อินโดนีเซียเคยเป็นซัพพลายเออร์รายใหญ่สุดของตลาดเหล่านี้มาก่อน

ระหว่างเดือน ก.ค.-ธ.ค.2562 ราคาน้ำมันปาล์มอ้างอิงเพิ่มขึ้น 60% แต่ก็ตกลงเมื่อเร็วๆนี้ ด้วยความกังวลเรื่องความต้องการของอินเดีย และการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาในจีน

สำหรับอินเดีย ที่เป็นตลาดอ่อนไหวกับราคา ซื้อปาล์มลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาเนื่องจากราคาสูงขึ้น และราคาของน้ำมันปาล์มกับน้ำมันอื่นไม่แตกต่างกันมากนัก เกิดแรงจูงใจให้ใช้น้ำมันชนิดอื่นทดแทน

สมาคมผู้สกัดตัวทำละลายของอินเดีย (เอสอีเอ) เผยว่า เดือน ม.ค.อินเดียนำเข้าน้ำมันปาล์มลดลง 27% จากช่วงเดียวกันของปี 2562 มาอยู่ที่ 594,804 ตัน แต่นำเข้าน้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันดอกทานตะวันพุ่งขึ้น 40% และ 51% ตามลำดับ กดให้สัดส่วนน้ำมันปาล์มในอินเดียลดเหลือ 51% ของน้ำมันปรุงอาหาร เป็นสัดส่วนต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2561

บีวี เมธา ผู้อำนวยการบริหารซีอีเอ กล่าวว่า ซัพพลายเออร์อินโดนีเซียอาจลดราคาลงเพื่อรักษาผู้ซื้อ หรือไม่ก็อินเดียอาจซื้อน้ำมันชนิดอื่นทดแทนน้ำมันปาล์มเพิ่มขึ้น กรณีแบบนี้จึงไม่ได้รับผลกระทบจากอุปทานมาเลเซียมากนัก

“เมื่อใดก็ตามที่ราคาน้ำมันปาล์มและน้ำมันพืชชนิดอื่นต่างกันไม่มาก ผู้ซื้ออินเดียก็เปลี่ยนไปซื้อน้ำมันพืชอื่น”