'นักลงทุน' เมินไวรัสโคโรน่า 'รอเก็บ' หุ้นจีน

'นักลงทุน' เมินไวรัสโคโรน่า 'รอเก็บ' หุ้นจีน

ผู้จัดการกองทุน เผยไวรัสโคโรนายังลามไม่ถึงกองทุนหุ้นจีน ผลตอบแทนปรับลดลงน้อยแค่ 3% ใกล้เคียงดัชนีตลาดหุ้นจีน ยังไม่เห็นสัญญาณเม็ดเงินไหลออกจาก ชี้บางส่วนรอจังหวะเข้าซื้อของถูก  เพราะมองกระทบแค่ระยะสั้น 

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์กองทุน ประจำประเทศไทย บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ(ประเทศไทย) เปิดเผยว่า  นักลงทุนควรใช้ความระมัดระวังในการลงทุน  เนื่องจากไวรัสโคโรนาระบาด ส่งผลกระทบโดยตรงกับกองทุนจีนและกระทบกับกองทุนไทย อย่างไรก็ตามผลตอบแทนกองทุนที่ลงทุนในจีนแต่ซื้อขายในตลาดฮ่องกงมีผลตอบแทนลดลงใกล้เคียงกับตลาดที่ลดลงราว 3-4% 

นายสาห์รัช ชัฏสุวรรณ ผู้อำนวยการสายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.)ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ยังไม่เห็นเม็ดเงินไหลออกจากกองทุนจีน สะท้อนว่าลูกค้าไม่ได้ตื่นตกใจ อีกทั้งยังรอโอกาสเข้าซื้อ โดยลูกค้าส่วนใหญ่าจะโทรมาถามว่าจะเข้าซื้อได้เมื่อใด

“ส่วนตัวมองว่าไวรัสโคโรนามีผลกระทบจริง แต่ในแง่การลงทุน เรื่องนี้เป็นเพียงกระทบระยะสั้นเท่านั้น เพราะเมื่อทุกอย่างเข้าสู่ภาวะปกติ รัฐบาลประเทศต่างๆ จะเริ่มออกมาตรการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ และรวมทั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ”

อ่านข่าว-'ไวรัสโคโรน่า' ลาม พ่นพิษเศรษฐกิจโลก

สำหรับนักลงทุน หากมีกองทุนหุ้นจีนอยู่ในพอร์ตแนะนำไม่ควรตกใจ แต่หากยังไม่มีอยู่ในพอร์ตก็น่าจะเริ่มจริงจังในการเลือกลงทุนในหุ้น โดยเรามองว่าหุ้นจีนมีความน่าสนใจ เพราะปัจจุบันเริ่มเห็นรัฐบาลจีนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจ เช่น ธนาคารจีนประกาศอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่ม ผ่านทางข้อตกลง reverse repo เพื่อชะลอความรุนแรงของการเทขายหุ้นในประเทศจีน เป็นต้น

นายสมชัย อมรธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนและลูกค้าสัมพันธ์ บลจ.กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กองทุน KT-CHINA ผลตอบแทนตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน -5% น้อยกว่าตลาดหลักของจีนอย่างตลาด A Shares เนื่องจากกองทุนลงทุนในตลาด H Shares เป็นหลักได้ผลกระทบน้อยกว่า  หากเป็นนักลงทุนระยะยาวแล้วยังถือต่อไปได้ และตลาดหุ้นจีนที่ปรับตัวลงมาแรง นักลงทุนยังสามารถทยอยเข้าสะสมในระยะสั้นได้ 

นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานจัดการลงทุนต่างประเทศ  บลจ.กสิกรไทย จำกัด เปิดเผยว่า  บริษัทยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อตลาดหุ้นจีน โดยให้น้ำหนักไปที่การขยายตัวของผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนซึ่งในระยะยาวยังมีแนวโน้มเติบโตได้ดี และราคาไม่แพงเมื่อเทียบกับภูมิภาคอื่น แนะนำว่าผู้ลงทุนใหม่สามารถเข้าลงทุนในกองทุน K-CHINAได้  ส่วนผู้ที่ลงทุนไปแล้ว แนะนำให้ถือต่อไป