ดาวโจนส์ปิดบวกหลัง WHO ประกาศภาวะฉุกเฉิน

ดาวโจนส์ปิดบวกหลัง WHO ประกาศภาวะฉุกเฉิน

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดวันพฤหัสบดี (30ม.ค.)ปรับตัวขึ้นหลังองค์การอนามัยโลก ประกาศให้ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขโลก แต่ย้ำว่าจะไม่กำหนดข้อจำกัดด้านการค้าและการเดินทางทั่วโลก

ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวขึ้น 124.99 จุด หรือ 0.43 % ปิดที่ 28,859.44 จุด ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เพิ่มขึ้น 10.26 จุด หรือ 0.31% ปิดที่ 3,283.66 จุด และดัชนีแนสแด็ก เพิ่มขึ้น 23.77 จุด หรือ 0.26 % ปิดที่ 9,298.93 จุด


ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 4/2562 ที่ระดับ 2.1% สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดยมีการขยายตัวในระดับเดียวกับไตรมาส 3 ขณะที่ได้แรงหนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค รวมทั้งการใช้จ่ายในภาครัฐ

เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.0% ในไตรมาส 2 ขณะที่ไตรมาส 1 มีการเติบโต 3.1%

นอกจากนี้ เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 2.3% ในปี 2562 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี โดยต่ำกว่าระดับ 2.9% ในปี 2561 และ 2.4% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกในการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่เขาตั้งเป้าการขยายตัวรายปีของเศรษฐกิจสหรัฐที่ระดับ 3% ในช่วงการดำรงตำแหน่งของเขา

กระทรวงแรงงานสหรัฐ เปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 7,000 ราย สู่ระดับ 216,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย

ส่วนตัวเลขค่าเฉลี่ย 4 สัปดาห์ของจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ซึ่งถือเป็นมาตรวัดตลาดแรงงานที่ดีกว่า เนื่องจากขจัดความผันผวนรายสัปดาห์ ลดลง 1,750 ราย สู่ระดับ 214,500 รายในสัปดาห์ที่แล้ว